ซิลเวอร์แตะจุดสูงสุดใหม่ มีผลอย่างไรกับบิตคอยน์

ราคาซิลเวอร์พุ่งขึ้นแตะ 63 USD ต่อออนซ์ในวันนี้ กลายเป็นจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลของโลหะมีค่า ขณะที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีร่วงลง 2.74% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยทุกเหรียญหลัก 20 อันดับแรก ยกเว้น stablecoins ต่างอยู่ในโซนติดลบ

ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนทิศทางของกระแสเงินลงทุน แม้ว่าการเคลื่อนไหวลักษณะนี้มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการลดความเสี่ยงแบบคลาสสิก แต่บางนักวิเคราะห์กลับเห็นว่ามันอาจหมายถึงสิ่งที่ตรงกันข้าม

ทำไมราคาซิลเวอร์ถึงปรับขึ้น

ซิลเวอร์ขยายตัวตามแนวโน้มขาขึ้น ในวันนี้ โดยสามารถทำนิวไฮครั้งใหม่ระหว่างช่วงเวลาการซื้อขายเอเชียยามเช้า และข้อมูล Companies Market Cap แสดงให้เห็นว่า ซิลเวอร์ติดอันดับที่ 6 ของสินทรัพย์โลกด้วยมูลค่าตลาด 3.5 ล้านล้าน USD

ตามความเห็นล่าสุดของ The Kobeissi Letter โลหะนี้กำลัง สร้างผลงานแข็งแกร่งสุดในรอบ 12 เดือน โดยนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา

กระแสพุ่งขึ้นปัจจุบันของราคาซิลเวอร์ทำให้ปี 2020 กับ 2008 ดูเหมือนเป็นแค่ค่าคลาดเคลื่อนยุคใหม่ของนโยบายการเงินกำลังจะมาถึง ข้อความใน โพสต์ดังกล่าว ระบุไว้

เมื่อแนวโน้มขาขึ้นทวีความรุนแรง ผู้คนต่างก็ แห่กัน ไป เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง แต่เหตุใดความต้องการซิลเวอร์จึงพุ่งสูงขึ้น? ตามที่นักเทรด Michael ชี้แจง การพุ่งขึ้นนี้ไม่ใช่เพียงเพราะดีมานด์ แต่คือ ความสิ้นหวัง

เขาเน้นย้ำว่า ETF ที่มีซิลเวอร์จริงหนุนหลัง ถูกซื้อสุทธิถึง 15.3 ล้านออนซ์ใน 4 วัน ซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดอันดับสองของปี 2025

ยิ่งไปกว่านั้น Michael ยังระบุว่าตัวเลขนี้เกือบจะเท่ากับจำนวน 15.7 ล้านออนซ์ที่ถูกเพิ่มตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน

ETF ซิลเวอร์ตอนนี้กำลังจะมีเงินไหลเข้า 10 เดือนติดต่อกัน ซึ่งเคยเกิดเพียงในช่วงเหตุการณ์ตึงเครียดเชิงระบบเท่านั้น เขาเสริม

ETF ซิลเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก SLV มีรายงานว่ามียอดเงินไหลเข้ารายสัปดาห์เกือบ 1 พันล้าน USD แซงหน้ากองทุนทองคำหลัก และในมุมมองของเขา ปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาซิลเวอร์ให้พุ่งแรงเกินกว่าความนิยมในกลุ่มรายย่อยหรือความกังวลเงินเฟ้อ Michael กล่าวว่า,

ระบบการเงินของโลกกำลังสูญเสียความไว้วางใจอย่างเงียบ ๆ อย่างรวดเร็วและจากภายใน เงินซิลเวอร์เป็นสินทรัพย์เดียวที่อยู่ตรงจุดตัดระหว่างวิกฤตสองประการ ได้แก่ 1. การแย่งชิงสินทรัพย์ที่มีรูปร่างจริงท่ามกลางหนี้สาธารณะที่พุ่งแตะระดับวิกฤต 2. ภาวะขาดแคลนอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากโครงสร้างพื้นฐาน AI การขยายตัวของพลังงานแสงอาทิตย์ การนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ และความต้องการเซมิคอนดักเตอร์

เทรดเดอร์รายนี้เน้นว่าทุกครั้งที่ความไม่แน่นอนทางการเงินมาบรรจบกับภาวะขาดแคลนทางกายภาพ ราคาซิลเวอร์จะไม่ได้แค่ปรับตัวขึ้นธรรมดา แต่จะแยกตัวออกอย่างสิ้นเชิงสะท้อนสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็นความแตกร้าวที่ลึกยิ่งกว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดทั่วไป

ซิลเวอร์ vs Bitcoin ช่องว่างผลตอบแทนกว้างขึ้นในปี 2025

ขณะเดียวกัน ผลงานของตลาดคริปโตที่ซบเซานั้นตัดกันอย่างชัดเจนกับการพุ่งแรงของซิลเวอร์ ข้อมูล BeInCrypto Markets ระบุว่า cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดร่วงกว่า 2% ในรอบวัน ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มขาลงในวงกว้าง

นักวิเคราะห์ Maartun ชี้ว่าปี 2025 ซิลเวอร์กำลังกลายเป็นผู้เล่นเด่นกว่าใคร แม้แต่ทองคำ Bitcoin ในทางตรงกันข้าม ยังคงตามหลังโลหะมีค่าทั้งสองนี้และยังล้าหลังดัชนีหุ้นรายใหญ่ เช่น S&P 500 และ Nasdaq

สี่ปีที่ผ่านมา Bitcoin สูญเสียมูลค่าเมื่อเทียบกับซิลเวอร์ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง Peter Schiff นักเศรษฐศาสตร์พูดไว้

ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่าความรู้สึกเลี่ยงความเสี่ยงกำลังเพิ่มขึ้น และเมื่อความไม่แน่นอนมากขึ้นนักลงทุนมักหันกลับไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยตามประเพณี ซึ่งซิลเวอร์และทองคำรับหน้าที่นี้มายาวนานหลายศตวรรษ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายมองว่าการพุ่งขึ้นของซิลเวอร์ไม่ใช่การหนีตายไปหาความปลอดภัย แต่สะท้อนว่านักลงทุนพร้อมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์คริปโต Ran Neuner เสนอแง่มุมตรงข้ามนี้ พร้อมบอกว่าสถานการณ์ตลาดปัจจุบันเอื้อต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ซึ่งมุมมองนี้ท้าทายแนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของโลหะมีค่า

ตอนนี้ตลาดอยู่ในโหมดเน้นเสี่ยงเต็มตัวแต่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นเพราะ Bitcoin ไม่ขยับ! ซิลเวอร์กำลังทำนิวไฮต่อเนื่อง มันกำลังเบรกขึ้นและเร่งความสูงขึ้น ซิลเวอร์คือเบตาทองคำและบ่งชี้ถึงภาวะ Risk-On!

Neuner ยังชี้ให้เห็นว่าอัตราส่วน ETH/BTC ที่เพิ่มขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 50 สัปดาห์ บ่งบอกถึงความสนใจใหม่ในสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงการทะลุแนวต้านของ Russell 2000 และทิศทางล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่สนับสนุนสภาวะการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงในตลาดโดยรวม

ในไม่ช้า ฝ่ายผู้ขายใน BTC จะหมดไปและแนวโน้มการซื้อขายตามทันครั้งใหญ่จะเริ่มต้น ข้อมูลทุกอย่างชี้ไปในทิศทางเดียวกัน! Neuner กล่าว

นักวิเคราะห์คนอื่นๆ ต่างก็ คาดการณ์ว่า Bitcoin จะกลับมาได้รับความต้องการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้จะเป็นจริงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดและว่าผู้ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลจะกลับมาอย่างแข็งแกร่งในอนาคตหรือไม่