บริษัทซอฟต์แวร์ “No-code” อย่าง Sparkster จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหาย 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ Securities and Exchange Commission (SEC) จากการละเมิดกฎหมายเรื่องหลักทรัพย์ตามที่กล่าวหาในช่วงที่จัด Initial Coin Offering (ICO) เมื่อปี 2018
Sparkster เสนอข้อตกลงโดยไม่ต้องยอมรับหรือปฏิเสธการกระทำผิด โดยทางบริษัทจะทำลายโทเค็นที่เหลืออยู่ ออกคำให้แพลตฟอร์มคริปโตถอนโทเค็นของตน และประชาสัมพันธ์คำสั่งของ SEC บนช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง
ทั้งนี้ ก.ล.ต. สั่งให้ Sparkster จ่ายเงิน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐแยกแล้วแต่กรณี เช่น การชำระคืนกำไรจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรืออีกก้อนที่มูลค่า 4,624,754 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับดอกเบี้ยก่อนพิพากษา และค่าปรับทางแพ่งอีก 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าวเผยว่า CEO Sajjad Daya ได้ตกลงที่จะไม่มีส่วนร่วมในการให้บริการหลักทรัพย์คริปโตเป็นเวลาห้าปี ทั้งนี้ เขาไม่ยอมรับหรือปฏิเสธการกระทำผิดกฎหมายใด ๆ
“การบรรลุข้อตกลงกับ Sparkster และ Daya ทำให้ SEC สามารถคืนเงินจำนวนมากให้กับนักลงทุน และต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องนักลงทุน รวมถึงการปิดใช้งานโทเค็นเพื่อป้องกันการขายโทเค็นเหล่านั้นในอนาคต” Carolyn M. Welshhans เจ้าหน้าที่อาวุโสจาก Enforcement Division ของ SEC กล่าว
คำสั่งของ SEC นี้ได้รับกลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ในวงการคริปโตอย่าง Ian Balina ซีอีโอของ Token Metrics ในศาลแขวงสหรัฐในเขตตะวันตกของเท็กซัส
Sparkster ได้ขอให้ Balina โปรโมตโทเค็น SPRK จากรายการ ICO ที่สร้างกำไรได้มาก โดยมีรายงานว่าการทำ ICO ครั้งนั้นมีผู้รับชมอย่างจำนวนมากหลังจากเปิดตัวในปี 2017
Balina ถูกกล่าวหาว่าไม่ซื่อตรงเกี่ยวกับโบนัสของ SPRK ที่มอบให้กับเขาเนื่องจากความพยายามในการส่งเสริมการขายหลังจากการซื้อ SPRK มูลค่า 5 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ เขายังถูกกล่าวหาว่าให้เสนอให้บริการโทเค็น SPRK กับสมาชิกของกลุ่มการลงทุนเพื่อแลกกับ ETH ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอันเป็นการละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง
เห็นได้ชัดว่า Balina ได้ปฏิเสธตัวเลือกในการชำระหนี้
นักวิเคราะห์คริปโตเผยทุนเริ่มมีการเคลื่อนย้ายตั้งแต่พฤษภาคม 2022
SEC กล่าวหา Sparkster ว่าให้ความมั่นใจกับนักลงทุนที่ซื้อ SPRK ใน ICO ว่ามูลค่าของโทเค็นจะเพิ่มขึ้นโดยฝ่ายบริหารจะปรับปรุงบริษัท Sparkster ต่อไป และตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทเค็น SPRK ถูกจัดจำหน่ายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้สามารถซื้อขายได้
หน่วยงานยังอ้างว่า Daya และ Sparkster ฝ่าฝืนมาตรา 5 (a) และ 5 (c) ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933
ตามรายงานของ ZachXBT พบว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อตกลงของ Sparkster ในเดือนพฤษภาคม 2022 จำนวนมาก กล่าวคือ วอลเล็ตที่เป็นของ Sparkster เริ่มกลับมาทำงานหลังจากสามปีที่หยุดใช้งานไป ทำให้ Ethereum ประมาณ 14,200 ETH ถูกเปลี่ยนเป็นเงินมูลค่า 22.7 ล้าน USDC ในการทำธุรกรรมข้ามไปมาระหว่างห้าวอลเล็ต
ปี 2018 เป็นช่วงเวลาตื่นทองในการทำ ICO
ICO เฟื่องฟูในช่วงปี 2017 และ 2018 ส่งผลให้เกิด “การตื่นทอง” ซึ่งรวมถึงการใช้วิธีการสีเทาซึ่งดึงดูดความสนใจของหน่วยงานกำกับดูแล ทั้งนี้ ICO ระดมทุนได้ 6.3 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่มกราคม 2018 ถึงมีนาคม 2018 Block.one และ Telegram สามารถทำ ICO ที่ใหญ่ที่สุดได้ในปี 2018 โดยมีมูลค่าสุทธิเพียง 5 พันล้านดอลลาร์นอกจากนี้ เบราว์เซอร์ Brave ระดมทุนได้ 35 ล้านเหรียญภายใน 30 วินาที แต่ทาง SEC คอยสังเกตการณ์การทำ ICO อยู่ห่าง ๆ ตั้งแต่การทำ ICO ของ DAO และ Ethereum
การสอบสวนสรุปว่าการเสนอขายเหรียญเริ่มต้นของ Ethereum เป็นการขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ทำให้ Block.one ได้รับคำสั่งให้จ่ายค่าปรับ 24 ล้านดอลลาร์และ Telegram โดนปรับ 18.5 ล้านดอลลาร์
SEC ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 ว่าตนกำลังสืบสวน BNB ICO ของ Binance ในปี 2017 ว่าด้วยการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ดังที่ถูกกล่าวหา
สำหรับการวิเคราะห์ Bitcoin (BTC) ล่าสุดของ Be[In]Crypto คลิกที่นี่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
