อัพเดต ภาษีคริปโต 2566 ประเทศไทยจะไม่เรียกเก็บเงินจากบริษัทที่ระดมทุนได้จาก Initial Coin Offers และภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากประเทศไทยต้องการส่วนแบ่งของตลาดคริปโตในเอเชีย ดังที่มหาเศรษฐีอย่าง Cameron Winklevoss ได้ทำนายเอาไว้
รัชดา ธนาดิเรก สมาชิกคณะกรรมการบริหารกล่าวกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่าสมาชิกของคณะรัฐมนตรีของประเทศไทยตัดสินให้บริษัทที่ระดมทุนผ่าน “โทเค็นเพื่อการลงทุน” (Investment Token) สามารถใช้ในการระดมทุนผ่านหุ้นกู้ได้
รัฐบาลไทยยอมสละรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลารเพื่อการยกเว้น ภาษีคริปโต 2566
ภายใต้คำตัดสินใหม่ รัฐบาลไทยจะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดจากประมาณ 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ระดมได้จากการเสนอขาย ICO ในอีกสองปีข้างหน้า ทั้งนี้ รัฐบาลไทยไม่ได้ระบุว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไทยก่อนที่จะดำเนินการ ICO หรือไม่
จากรายงานของ The Bangkok Post ทางรายงาน Recap บริษัทซอฟต์แวร์ภาษีเปิดเผยว่ามีบริษัทคริปโตจำนวน 57 รายเข้ามาทำกิจการในประเทศไทย ทั้งชาวไทยยังมีอัตราการเป็นเจ้าของคริปโตสูงเป็นอันดับสอง การถือครองคริปโตเพิ่มขึ้นแม้ว่ารัฐบาลจะสั่งห้ามการชำระเงินด้วย คริปโต โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งเลยจะต้องมีการเก็บภาษีเพิ่ม โดยให้คนไทยยื่นภาษีคริปโตด้วย
Daniel Howitt ผู้เป็น CEO ของ Recap กล่าวว่ากฎระเบียบที่เข้มงวดสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตจะเป็นตัวกำหนดว่าประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางคริปโตของเอเชียได้หรือไม่
“เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ ประเทศไทยเองเข้มงวดกับกฎการซื้อขายคริปโตและการโฆษณาสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะเห็นว่าปัจจัยนี้ช่วยหรือขัดขวางความทะเยอทะยานของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางคริปโตเคอเรนซีที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือไม่” เขาให้สัมภาษณ์กับ Bangkok Post
ในปี 2022 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้คำมั่นที่จะวางมาตรการเพื่อคุ้มครองนักลงทุนให้รัดกุมมากขึ้น โดยจำกัดการโฆษณาโดยใช้ผู้มีชื่อเสียงหลังจากการล้มละลายของ FTX นอกจากนี้ ทาง ก.ล.ต. ยังไม่ได้ประกาศรายชื่อผู้นำคนใหม่ขององค์กรหลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการปฏิเสธที่จะต่ออายุตำแหน่งเลขาธิการของหน่วยงาน ซึ่งสัญญาจะหมดลงในสิ้นเดือนเมษายน 2023
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักสืบสวนอาชญากรรมไซเบอร์ได้เตือนคนไทยเกี่ยวกับการต้มตุ๋นที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโตทเกิดขึ้นในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตจากต่างประเทศ
ไทยจะสู้ฮ่องกงได้หรือไม่
ในขณะเดียวกัน ฮ่องกงกำลังใช้ประโยชน์จากกฎระเบียบที่เข้มงวดของสิงคโปร์ ซึ่งเกิดจากการล้มละลายบริษัทคริปโตจำนวนมาก
เมื่อปีที่แล้ว Monetary Authority ของสิงคโปร์ได้ออกเอกสารเชิงให้คำปรึกษาเพื่อนำเสนอกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับการลงทุนในแพลตฟอร์มคริปโต การปรึกษาหารือเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะบรรลุผลอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2023
นอกจากนี้ สิงคโปร์ต้องการกำหนดกรอบความเสี่ยงทางไซเบอร์ของธนาคารบนแพลตฟอร์มคริปโตเช่นกัน
ทางการสิงคโปร์ยังคงค้นหาตัว Do Kwon ผู้ร่วมก่อตั้ง Terraform Labs ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการล้มละลายของ TerraUSD ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin
แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของสิงคโปร์อย่าง Zipmex และ Vault ยื่นขอความคุ้มครองเจ้าหนี้ในเดือนกรกฎาคม 2022 หลังจากได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ TerraUSD ทั้งนี้ Vault ได้รับการขยายเวลาออกไปเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2023 เพื่อสรุปรวบยอดแผนการปรับโครงสร้างองค์กร
ในทางกลับกัน ฮ่องกงยอมรับคริปโตเคอเรนซีเป็นที่เรียบร้อย โดยลดความเสี่ยงของนักลงทุนผ่านการทดสอบความรู้และขีดจำกัดที่สมเหตุสมผลในการหันมาใช้งานคริปโต นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเจ้าพ่อคริปโตอย่าง Justin Sun และเจ้าหน้าที่จากจีนหลายราย
หากไทยต้องแข่งขันกับฮ่องกง จำต้องลงทุนมหาศาล เนื่องจากรัฐบาลฮ่องกงมอบเงิน 6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีแก่บริษัทต่าง ๆ ในโลก Web 3
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ