การกลับมาของ Trump ให้อะไรกับคริปโตครบทุกอย่าง ยกเว้นตลาดกระทิง

เมื่อ Donald Trump กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง หลายฝ่ายในตลาดคริปโตคาดหวังว่าจะได้เห็นสถานการณ์ที่คุ้นเคย โดยหวังว่านโยบายสนับสนุนคริปโต กฎเกณฑ์ที่เป็นมิตรขึ้น เงินทุนจากสถาบันการเงิน รวมทั้งความกล้าเสี่ยงของนักลงทุนจะช่วยผลักดันให้เกิดตลาดกระทิงที่แท้จริง

แต่เมื่อปี 2025 กำลังจะสิ้นสุดลง ตลาดคริปโตก็กลับปิดท้ายปีด้วยมูลค่าที่ลดลงอย่างชัดเจน โดยอยู่เพียง 20% ของจุดสูงสุดในยุค Biden เท่านั้น

แม้มี Trump มูลค่าตลาดคริปโตยังอยู่เพียง 20% ของยุค Biden ในสหรัฐอเมริกา

ปริศนานี้จึงกลายเป็นหัวใจของข้อถกเถียงที่เพิ่มขึ้นว่า ตกลงแล้วคริปโตกำลังติดอยู่กับช่วงเวลาที่ยากลำบาก หรือแท้จริงแล้วมีบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงไปแล้ว

ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องยอมรับและเปิดเผยว่าตลาดคริปโตนั้นชำรุดอยู่ ตามคำกล่าว ของ Ran Neuner นักวิเคราะห์และผู้ดำเนินรายการ Crypto Banter

นักวิเคราะห์ผู้นี้เน้นถึงความขาดการเชื่อมโยงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างปัจจัยพื้นฐานกับราคา โดย Neuner ระบุว่า ปี 2025 มีองค์ประกอบครบถ้วนสำหรับตลาดกระทิง ดังนี้

• สภาพคล่องที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ,
• รัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนคริปโต,
• Spot ETF (โดยเฉพาะที่อ้างอิง Bitcoin และ Ethereum)
• การสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่องโดยบุคคล เช่น Michael Saylor,
• การเข้าร่วมของรัฐและ กองทุนความมั่งคั่งของชาติ, และ
• สินทรัพย์มหภาคมากมาย เช่น หุ้นและโลหะมีค่าอย่างทองคำและเงินที่ ทำจุดสูงสุดตลอดกาล

แม้ว่าจะมีปัจจัยทั้งหมดนี้ Neuner ยังกล่าวว่า ตลาดกลับปิดปี 2025 ด้วยระดับที่ต่ำลงเหลือเพียง 20% จากยุค Biden

จุดนี้ชี้ให้เห็นว่าทฤษฎีและคำอธิบายแบบเดิมเริ่มไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป ทั้งแนวคิดเรื่อง วัฏจักรสี่ปีของ Bitcoin สภาพคล่องที่ค้างอยู่ หรือโมเมนต์ IPO สำหรับคริปโต ต่างเริ่มฟังดูเหมือนเป็นการหาเหตุผลหลังเหตุการณ์เกิดขึ้น มากกว่าคำตอบที่แท้จริง

Neuner มองว่าตลาดจึงเหลือทางเลือกที่เป็นไปได้เพียงสองเส้นทางต่อไปนี้

• มีผู้ขายเชิงโครงสร้างหรือกลไกบางอย่างที่ซ่อนอยู่กำลังกดดันราคา, หรือ
• คริปโตเตรียมเข้าสู่สถานการณ์ที่เขาเรียกว่า การรีบาวด์ครั้งใหญ่ที่สุด หลังตลาดกลับสู่สมดุลในที่สุด

ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยว่าสิ่งใดเสียหาย

นักวิจารณ์ตลาดชื่อ Gordon Gekko ซึ่งเป็นผู้ใช้ยอดนิยมบน X ได้แสดงความเห็นต่าง โดยยืนยันว่าความเจ็บปวดนี้เป็นสิ่งที่ถูกออกแบบและมีโครงสร้าง ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด

ไม่มีอะไรเสีย ระบบนี้เป็นไปตามที่ market makers ตั้งใจไว้ ความเชื่อมั่นต่ำที่สุดในรอบหลายปี เทรดเดอร์สาย leverage ต่างสูญเสียทุกอย่าง มันไม่ควรง่าย ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นจะได้รับรางวัล ตามที่เขา เขียนไว้

ความเห็นที่แบ่งแยกนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่ตลาดคริปโตเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงรอบก่อน ๆ ในสมัยของทรัมป์ช่วงแรก ตั้งแต่ 2017 ถึง 2020 คริปโตเติบโตท่ามกลางพื้นที่ไร้กฎระเบียบ

กระแสเก็งกำไรจากรายย่อยเป็นหลัก มี leverage ที่ไม่ถูกควบคุม ขณะเดียวกันโมเมนตัมเชิงสะท้อนก็ดันราคาสูงเกินมูลค่าที่แท้จริงไปมาก

ในยุคของไบเดน ในทางตรงกันข้าม ตลาดกลับถูกสถาบันกำหนดบทบาทชัดเจน การกำกับดูแลแบบเน้นบังคับใช้ เข้ามาจำกัดความเสี่ยง ในขณะที่ ETF, ผู้รับฝาก และกรอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ได้ปรับโฉมการจัดการทุนและทิศทางเงินทุน

ในทางกลับกัน ลมส่งท้ายที่หลาย ๆ คนคาดหวังในคริปโตกลับเกิดขึ้นในยุคที่ข้อจำกัดมีมากขึ้นนี้คือ

• ETF เปิดโอกาสในการเข้าถึง แต่ก็เกือบทั้งหมดสำหรับ Bitcoin
• สถาบันเริ่มจัดสรรทุน แต่ มักจะป้องกันความเสี่ยงและปรับสมดุลทางเทคนิคอย่างเข้มงวด
• มีสภาพคล่อง แต่เงินทุนหลายส่วนไปสู่ TradFi wrappers แทนที่ระบบนิเวศบนบล็อกเชน

ผลลัพธ์คือมีขนาดแต่ขาดปฏิกิริยาแบบสะท้อนกลับ

Bitcoin ทรงตัว ขณะที่ altcoins ร่วงในระบียบคริปโตใหม่

การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างนี้ส่งผล เจ็บปวดต่อ altcoins เป็นพิเศษ โดยนักวิเคราะห์และ KOL อย่าง Shanaka Anslem และอีกหลายราย ได้ชี้ว่าตลาดคริปโตแบบรวมศูนย์นั้นไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว

ในทางกลับกัน ปี 2025 ได้แยกตลาดออกเป็นสองเกมดังนี้

• คริปโตสายสถาบัน: Bitcoin, Ethereum และ ETF ที่ความผันผวนต่ำและมองระยะยาวขึ้น และ
• คริปโตสายกระแส: ที่มี token มากมายแย่งชิงสภาพคล่องขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ก็ล่มภายในไม่กี่วัน

เงินทุนไม่ได้หมุนเวียนจาก Bitcoin ไปยัง alts ได้อย่างราบรื่นเหมือนเดิม หรือช่วงที่เรียกกันว่า alt season แต่กลับไหลไปตามภารกิจที่กำหนดไว้แต่ต้น

…ทางเลือกเดียวของคุณในตอนนี้คือ เล่น Institutional Crypto ด้วยความอดทนและตระหนักถึงสถานการณ์มหภาค หรือเล่น Attention Crypto ด้วยความรวดเร็วและโครงสร้างพื้นฐาน Anslem กล่าว

หากอิงจากความเห็นของผู้นำความคิดรายนี้ การถือครอง altcoins ตามหลักเหตุผลเป็นเวลาหลายเดือนถือเป็นกลยุทธ์ที่แย่ที่สุดในตอนนี้อย่างแน่นอน

คุณไม่ได้มาก่อนใน altseason คุณกำลังรอโครงสร้างตลาดที่ไม่มีอยู่แล้ว เขากล่าวเสริม

บางทีนี่คือรากฐานของความมั่นใจของเทรดเดอร์ เพราะรู้ว่าควรมองที่ใด Lisa Edwards ยังสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยชี้ให้ผู้เข้าร่วมตลาดเข้าใจการไหลของสภาพคล่อง

ทุกสิ่งเปลี่ยนไป วัฏจักรหมุนเวียน เงินเคลื่อนไหวในรูปแบบใหม่ หากคุณรอ altseason แบบเดิม คุณจะพลาดโอกาสที่เกิดขึ้นตรงหน้าคุณ เธอระบุ

Quinten François เห็นด้วยกับมุมมองนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าจำนวนโทเคนในปี 2025 นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่ารอบก่อน ๆ โดยมีโทเคนมากกว่า 11 ล้านเหรียญอยู่ในตลาด ทั้งนี้ แนวคิดของ altseason ขนาดใหญ่แบบปี 2017 หรือ 2021 อาจกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว

ระหว่างการปรับราคาและฟื้นตัว: บททดสอบหลังสถาบันของคริปโตในไทย

ในขณะเดียวกัน แรงกดดันจากปัจจัยมหภาคยังคงถ่วงความเชื่อมั่นอยู่ Nic Puckrin นักวิเคราะห์การลงทุนและผู้ร่วมก่อตั้ง Coin Bureau ระบุว่า การที่ Bitcoin อ่อนค่าลงใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 สัปดาห์ moving average (MA) สะท้อนถึงความกังวลฟองสบู่ AI รอบใหม่ ความไม่แน่นอนเรื่องผู้นำเฟดในอนาคต รวมถึงการขายลดขาดทุนปลายปี

สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ปี 2025 ปิดฉากอย่างซบเซา เขากล่าวทางอีเมลกับ BeInCrypto พร้อมเตือนว่า BTC อาจหลุดต่ำกว่า USD 80,000 ชั่วคราวหากแรงขายเร่งตัวขึ้น

ดังนั้น ไม่ว่า crypto จะเสียระบบหรือแค่เปลี่ยนแปลง นักลงทุนก็ควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเองให้ถี่ถ้วน

แต่ที่แน่ชัดก็คือ ความคาดหวังในยุคทรัมป์กำลังปะทะกับโครงสร้างตลาดแบบยุคไบเดน และแนวทางเล่นแบบเดิมนั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป

การสนทนาระหว่าง นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนบนโต๊ะกระแสหลัก ชี้ถึงการปรับราคาใหม่อย่างรุนแรงหรือ การวิ่งขึ้นตามอย่างเฉียบพลัน ซึ่งมีแนวโน้มจะกำหนดอัตลักษณ์หลังยุคสถาบันของคริปโต