ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (United Nations – UN) หลักฐานที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าการก่อการร้ายได้รับการสนับสนุนมากขึ้นโดยใช้คริปโตเคอเรนซี
Svetlana Martynova กล่าวในการประชุมครั้งล่าสุดว่าความชุกของการระดมทุนคริปโตเคอเรนซีของการก่อการร้ายอาจเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน
เจ้าหน้าที่กฎหมายอาวุโสของคณะกรรมการบริหารคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายของสหประชาชาติประเมินว่าการโจมตีของผู้ก่อการร้าย 20% ได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดยใช้คริปโตเคอเรนซี เธอรายงานว่าตัวเลขเหล่านี้ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการตรวจสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างผิดกฎหมายทวีความรุนแรงขึ้น
กิจกรรมผิดกฎหมายที่ใช้งานคริปโตเคอเรนซีเพิ่มขึ้นเป็นสถิติสูงสุดในปีที่แล้วตามรายงานล่าสุดจาก Chainalysis ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 โดยที่อยู่ที่เกี่ยวข้องอย่างผิดกฎหมายกับกิจกรรมเหล่านั้นรับเงินไป 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021
Chainalysis เน้นย้ำว่าองค์กรก่อการร้ายหลายแห่งพยายามหาเงินทุนในการดําเนินงานโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล
ผู้ก่อการร้ายใช้งานคริปโตเคอเรนซีในทางที่ผิด
อย่างไรก็ตาม Martynova ชี้ให้เห็นว่าการจ่ายเงินสดยังคงอํานวยความสะดวกให้กับการก่อการร้ายส่วนใหญ่ทั่วโลก เธอยังเน้นย้ำเรื่องการใช้ระบบการโอนมูลค่าอย่างไม่เป็นทางการที่เรียกว่า Hawala
เจ้าหน้าที่จากสหประชาชาติอธิบายว่าผู้ก่อการร้ายมักปรับวิธีการระดมทุนให้เหมาะกับข้อจํากัดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมของพวกเขา ตัวอย่างเช่น “หากพวกเขาต้องการรับเงินจากประเทศที่ใช้การชําระเงินผ่านมือถือเป็นวิธีหลัก พวกเขาจะใช้กลไกนั้นในทางที่ผิด” เธอกล่าว
แต่ถ้าผู้ก่อการร้ายพบว่าตัวเองถูกกีดกันออกจากระบบการเงินอย่างเป็นทางการ พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะใช้งานเงินดิจิทัลในทางที่ผิด
ชาตพันธมิตร UN อภิปรายเรื่องกฎระเบียบคริปโต
การตรวจสอบธุรกรรมคริปโตที่ถี่ถ้วนมากขึ้นได้เกิดขึ้นหลังจากความพยายามระหว่างประเทศในการต่อสู้กับการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย Martynova อ้างถึง มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกยกระดับกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของตน
เธอยังอ้างอิงถึงมาตรฐานระดับโลกที่ Financial Action Task Force เคยแนะนำ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การติดตามธุรกรรมบล็อกเชนข้ามเขตอํานาจศาล
น่าเสียดายที่ Martynova ค่ำครวญว่าการบังคับใช้กฎระเบียบเหล่านี้ยังคงไม่เข้มงวดนัก กล่าวคือ จากการสํารวจล่าสุด มีเพียง 27 จาก 98 ประเทศเท่านั้นที่ได้เริ่มสร้างกรอบการกํากับดูแลสําหรับสกุลเงินดิจิทัล ดังนั้น จึงมีไม่กี่ประเทศที่เริ่มใช้งานกฎหมายเหล่านี้แล้ว
กิจกรรมทางอาญาอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นคือการโจมตีโดยใช้แรนซัมแวร์ ในสัปดาห์นี้ฝ่ายบริหารของ Biden กําลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดระดับโลกโดยมีเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกเพื่อแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทําเนียบขาวกล่าวว่าเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือการกําหนดแนวทางจัดการแรนซัมแวร์ที่สอดคล้องกันทั่วโลกในประเด็นนี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
