วุฒิสมาชิกElizabeth Warren ได้เรียกร้องให้หน่วยงานกํากับดูแลของรัฐบาลกลางทั้งหมดนอกเหนือจากสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เข้ามากุมบังเหียนเงินดิจิทัล
Elizabeth Warren มีโอกาสได้กล่าวปราศรัยในแถลงการณ์ในงานที่จัดโดยโครงการเสรีภาพทางเศรษฐกิจของอเมริกาและชาวอเมริกันเพื่อการปฏิรูปทางการเงิน ในระหว่างการปราศรัย วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์ได้ให้ความสําคัญกับการล้มละลายของแพลตฟอร์มคริปโตต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา
“จุดเริ่มต้นที่ดี” สําหรับ SEC
Warren ผู้คลางแคลงใจในคริปโตได้แยก FTX Celsius และ Voyager ออกจากกันในข้อหา “ล้มละลายเนื่องจากการฉ้อโกง การหลอกลวง และการจัดการที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง” อย่างไรก็ตาม เธอคร่ำครวญว่า “เมื่อพวกเขาจมลง พวกเขาพานักลงทุนที่ซื่อสัตย์จํานวนมากไปกับพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม Warren ยกย่อง SEC ที่ “เริ่มต้นที่ดี” ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ด้วยการป้องกันไม่ให้ Bitcoin ออกจากตลาด โดยเธอกล่าวว่าหน่วยงานกํากับดูแลป้องกันความผันผวนของตลาดคริปโตเคอเรนซี ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบธนาคารแบบดั้งเดิม ผู้ที่ยังคลางแคลงใจในคริปโตเคอเรนซียังยกย่อง SEC ที่เรียกเก็บค่าปรับ”โจรคริปโต” ที่ฉ้อโกงนักลงทุนไปทั่ว ซึ่งหมายถึง Sam Bankman- Fried
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า SEC จะพยายามอย่างดีที่สุด แต่ Elizabeth Warren เชื่อว่าการจัดการเงินดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องการความสามารถในการกํากับดูแลอย่างเต็มรูปแบบโดยรัฐบาล “หน่วยงานกํากับดูแลของเราทุกหน่วยจําเป็นต้องเข้าร่วมการกำกับดูแล” Warren กล่าว ทั้งนี้ มาตรการข้างต้นจะรวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมและการธนาคารด้วย
Warren ให้รายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการมีกฎระเบียบที่รัดกุม นอกเหนือจากการสร้างมลพิษให้กับชุมชนแล้ว เธอยังกล่าวว่าการดําเนินการขุดคริปโตทําให้มีการใช้งานโครงข่ายไฟฟ้าเกินขนาด ปัจจัยนี้ได้ผลักดันต้นทุนค่าสาธารณูปโภค “ตั้งแต่เท็กซัสไปยันนิวยอร์ก”
จากข้อมูลของ Warren กระทรวงพลังงานและสํานักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมีอํานาจในการเรียกร้องการเปิดเผยข้อมูลโดยคนงานเหมืองเหล่านี้แล้ว หากเป็นไปตามที่ Warren จินตนาการไว้ การเปิดเผยเรื่องนี้เหล่านี้ อาจทําให้บริษัทเหมืองแร่เหล่านี้รู้สึกไม่สบายใจ
แม้ว่า SEC จะป้องกันระบบธนาคารได้ดี แต่สมาชิกคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภากล่าวว่าธนาคารที่เป็นมิตรกับคริปโตเคอเรนซีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้ว่าธนาคารจํานวนมากขึ้นจะเริ่มให้บริการคริปโตเคอเรนซี แต่ Warren เน้นย้ำว่าการกำกับดูแล “เป็นหน้าที่ของหน่วยงานกํากับดูแลธนาคารโดยเฉพาะในการป้องกันระบบธนาคาร”
สหภาพยุโรปยืนยันข้อตกลงบาเซิล
เห็นได้ชัดว่าฝ่ายนิติบัญญัติในสหภาพยุโรปมีความเห็นในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากกฎหมายที่พวกเขาอนุมัติเมื่อต้นสัปดาห์นี้ คณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจของรัฐสภายุโรปได้อนุมัติการดําเนินการตามข้อตกลงบาเซิลที่สามขั้นสุดท้าย กฎระเบียบระหว่างประเทศชุดนี้กําหนดข้อกําหนดด้านเงินทุนสําหรับธนาคาร
การแก้ไขร่างกฎหมายที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจะกําหนดให้ธนาคารในสหภาพยุโรปต้องถือครองสินทรัพย์คริปโตอย่างเต็มที่ นักวิจารณ์กังวลว่าสินทรัพย์คริปโตไม่ได้มีต้นทุนสนับสนุนเป็นระบบระเบียบ ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้เกิดการให้อำนาจกฎหมายมากเกินความจำเป็น
ผู้สนับสนุนคริปโตเชื่อว่าข้อกําหนดเงินทุนต้องห้ามดังกล่าวจะช่วยป้องกันความไม่มั่นคงในโลกคริปโตเคอเรนซีไม่ให้รั่วไหลเข้าสู่ระบบการเงินปกติ ทั้งนี้ บทบัญญัติใหม่มีกําหนดจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2025
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
