ราคาของ Zcash ปรับตัวขึ้นประมาณ 15% ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ โดยกำลังมุ่งหน้าไปสู่แนวต้านสำคัญถัดไป การปรับขึ้นนี้จึงทำให้เกิดการถกเถียงว่าขาขึ้นรอบใหม่เริ่มก่อตัวแล้วหรือไม่ หรืออาจเกิดการปรับฐานในระยะสั้นก่อน
ทั้งสองสัญญาณด้านโมเมนตัมและการเคลื่อนไหวของวาฬในช่วงหลังต่างบ่งชี้ว่าอาจมีการปรับฐานก่อนการพยายามทะลุแนวต้านในครั้งต่อไป
Sponsoredสัญญาณโมเมนตัมบ่งชี้ว่าอาจพักฐานก่อนเกิดการเบรกเอาต์
จากกราฟ 12 ชั่วโมง ZEC ทำจุดสูงสุดที่ต่ำลงระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 27 พฤศจิกายน ขณะที่ RSI (Relative Strength Index) ขยับสูงขึ้นเล็กน้อย RSI เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัม และความไม่สอดคล้องนี้คือภาวะ Bullish Divergence แบบซ่อนเร้น ซึ่งมักเกิดขึ้นก่อนการปรับฐานระยะสั้น
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าฝั่งซื้อดันโมเมนตัมขึ้นมา แต่ฝั่งขายกลับกดราคาไว้ ดังนั้นอุปสงค์จึงยังไม่แข็งแกร่งพอจะยืนยันการเคลื่อนไหวนี้ได้
ต้องการข้อมูลโทเคนเชิงลึกเพิ่มเติมหรือไม่? สมัครรับจดหมายข่าว Daily Crypto Newsletter จากบรรณาธิการ Harsh Notariya ได้ที่ ที่นี่.
สัญญาณที่สองมาจาก Money Flow Index (MFI) ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมการซื้อจังหวะย่อตัวของกลุ่มรายย่อย โดยระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม ถึง 28 ธันวาคม ราคาของ ZEC ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ MFI กลับปรับตัวลดลง
Sponsored Sponsoredสิ่งนี้สะท้อนว่าเหล่าผู้ซื้อแห่ไล่ราคา แต่แรงซื้อกลับตามไม่ทัน ปัจจุบัน MFI เริ่มขยับขึ้น แต่ยังต้องผ่านระดับ 65 เพื่อยืนยันว่าโมเมนตัมได้กลับมาแล้ว
สัญญาณจากกราฟเหล่านี้จะมีความหมายก็ต่อเมื่อข้อมูล on-chain สอดคล้องกัน ซึ่งข้อมูลผู้ถือก็ชี้ไปในทิศทางระมัดระวังเดียวกัน
การจัดตำแหน่งบนเชนเผยวาฬลดการถือครอง
Zcash มีความเคลื่อนไหวของผู้ถือที่สำคัญบนเชน Solana โดยยอดคงเหลือของกลุ่มวาฬลดลง 7.46% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
Sponsored Sponsoredณ ราคาวันนี้ ใกล้กับ 518 USD การลดลงนี้บ่งชี้ว่าผู้ถือรายใหญ่บางรายอาจกำลังล็อกกำไรหรือรอจังหวะเข้าซื้อที่ถูกกว่า ขณะที่ที่อยู่ 100 อันดับแรก (mega whales) ยังเพิ่มการถือครองขึ้นอีก 4.59% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามุมมองระยะยาวยังไม่เปลี่ยนแปลง
ภาพรวมนี้สะท้อนโอกาสการพักฐานที่เหมาะสม ไม่ใช่การพังทลายของ ZEC เพราะเมื่อวาฬบางส่วนขายแต่กลุ่มทุนใหญ่สะสมเพิ่ม ก็หมายถึงระยะสั้นต้องระวังแต่ระยะยาวยังมั่นใจ
SponsoredUSD527 จุดสำคัญขับเคลื่อนการดีดตัวรอบใหม่ของแซดแคชในไทย
Zcash ซื้อขาย ใกล้กับ 518 USD โดยเป้าต่อไปอยู่เหนือขึ้นไปเล็กน้อยที่ 527 USD ถ้าปิด 12 ชั่วโมงเหนือแนวต้านนี้จะยืนยันความแข็งแกร่งและเปิดทางสู่ 633 USD ซึ่งคิดเป็นการปรับขึ้นราว 22% จากราคาปัจจุบัน หากผู้ซื้อรักษาโมเมนตัมเหนือ 633 USD จุดหมายถัดไปที่มีความมั่นใจสูงคือ 737 USD
แนวรับสำหรับการพักฐานก็ชัดเจนไม่แพ้กัน โดยแนวรับแรกอยู่ใกล้กับ 435 USD หากเสีย 435 USD จะเสี่ยงต่อการลงไปสู่ 370 USD และถ้าไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดความผันผวนหนักขึ้นหากตลาดในวงกว้างอ่อนตัว
เนื่องจากสภาพคล่องปลายปียังค่อนข้างบาง ทั้งสองฝั่งควรรอความชัดเจนก่อนนักลงทุนจะตัดสินใจ
สรุปง่ายๆ ขณะนี้ 527 USD คือแนวต้านสำหรับโอกาสขาขึ้น ส่วน 435 USD คือแนวรับที่ป้องกันการย่อลึกให้ผู้ซื้อ