กรมแรงงานสหรัฐฯ กําลังได้รับการต่อต้านจากโครงการริเริ่มของอุตสาหกรรมคริปโต โดยขอให้ยกเลิกข้อแนะนำก่อนหน้านี้ว่าด้วยการรวมคริปโตไว้ในแผนเกษียณ 401(k)
สภานวัตกรรมคริปโต (Crypto Council for Innovation – CCI) มาพร้อมกับการสนับสนุนจาก Coinbase และ Block และกําลังขอให้กรมแรงงานสหรัฐฯ ถอนข้อแนะนำที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม ซึ่งเตือนผู้บริโภคเกี่ยวกับอันตรายของการจัดสรรเงินคริปโตในแผนเกษียณ 401(k) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกรมฯ กําลังเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าให้ความสําคัญกับความเสี่ยงของคริปโตน้อยเกินเกินไป ในขณะที่ละเลยผลประโยชน์ขององค์กร
การต่อสู้เพื่ออิสรภาพของแผนเกษียณ 401 (k)
ในขั้นต้น กรมแรงงานสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการรวมคริปโตไว้ในแผนเกษียณ 401(k)ในเดือนมีนาคม
Ali Khawar ผู้ช่วยเลขาธิการกรมแรงงานสหรัฐฯ กล่าวกับ Wall Street Journal ในขณะนั้นว่ากรมฯ “มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการตัดสินใจตัวแผนการเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถลงทุนโดยตรงโดยใช้สกุลเงินปกติหรือสกุลเงินดิจิทัลหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น NFT เหรียญ และสินทรัพย์คริปโต”
ผู้ให้บริการเงินสำหรับเกษียณอายุรายแรกที่เริ่มดำเนินการคือ Fidelity Investments ในเดือนเมษายน โดยให้บริการแผนการเกษียณอายุ ให้กับบริษัท 23,000 แห่งแล้ว นอกจากนี้ยังประกาศว่ากําลังสร้างบัญชี “สินทรัพย์ดิจิทัล” ในแผน 401 (k) เช่นกัน
การประกาศของ Fidelity ทำให้เกิดการวิจารณ์จากกรมแรงงานทันที โดยมาพร้อมกับ “ความกังวลอย่างยิ่ง” กับสิ่งที่ Fidelity ได้ทําลงไป และแนะนําให้บริษัทที่ให้บริการแผนเกษียณ 401(k) รอว่าตนจะถูกสอบสวนว่าด้วยในประเด็นที่เกี่ยวกับการ “กำหนดขอบเขตการกระทำของตนให้อยู่ในร่องในรอย”
กลุ่มอุตสาหดังกล่าวเข้าสู่ CCI ด้วยกับการสนับสนุนของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Coinbase และ Block ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลระบบทำจ่ายของ Jack Dorsey หรือที่เป็นที่รู้จักก่อนหน้านี้ในชื่อ Square
กลุ่มอุตสาหกรรมคริปโตได้ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการใหกรมแรงงานยกเลิกข้อแนะนําที่ประกาศออกมาในเดือนมีนาคมและให้ความคุ้มครองแก่ผู้จัดการแผนเกษียณอายุจากการเรียกร้องการละเมิดหน้าที่
“[กรมแรงงาน] พิจารณาเฉพาะความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัลอย่างแคบ ๆ ในขณะที่ไม่สนใจผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการเติบโตและการกระจายพอร์ตการลงทุน เช่นเดียวกับตัวเลือกการลงทุนประเภทอื่น ๆ ผู้วางแผนจะต้องพิจารณาทั้งความเสี่ยงและประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล” Sheila Warren ซีอีโอของ CCI กล่าวกับ Barron’s
CCI ยังอ้างว่าความคิดเห็นของกรมแรงงานไม่สอดคล้องกับคําสั่งบริหารของประธานาธิบดี Joe Biden ซึ่งประกาศออกมาในเดือนมีนาคมด้วย โดยมอบหมายให้แผนกต่าง ๆ ศึกษาแง่มุมต่าง ๆ ของ Crpytocurrency และนําเสนอสิ่งที่ตนค้นพบ
พรรครีพับลิกันเข้ามาร่วมวงเช่นกัน กล่าวคือ ในเดือนพฤษภาคม วุฒิสมาชิกทอมมี่ ทูเบอร์วิลล์ (R-Ala) ได้เปิดตัว “พระราชบัญญัติเสรีภาพทางการเงิน” ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มุ่งจํากัดอํานาจของกรมแรงงานในการกําหนดว่าแผนเกษียณอายุแบบไหนที่ผู้สูงอายุสามารถลงทุนได้
DOL มีพันธมิตรที่สําคัญสองรายในศึกครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม DOL สร้างมิตรอีกสองราย ได้แก่ วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน (D-Mass) และวุฒิสมาชิกทีน่า สมิธ (D-Minn.) ซึ่งเป็นนักวิจารณ์คริปโตนามอุโฆษ โดยวุฒิสมาชิกทั้งสองคนเขียนจดหมายถึง Fidelity เพื่อสอบถามว่าเหตุใดบริษัทจึงเพิกเฉยต่อคําแนะนําของกรมแรงงานในเดือนมีนาคม และบริษัทจะลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ได้อย่างไร
Fidelity ตอบกลับมาว่าตนให้คํามั่นว่าจะสานต่อการเจรจากับฝ่ายนิติบัญญัติ เช่นเดียวกับที่เคยทำเมื่อต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ Fidelity วางแผนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มการจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2023 ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดสรรพอร์ตโฟลิโอได้มากถึง 20% ให้เข้าไปอยู่บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของตน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ