ตัวบ่งชี้ TD Sequential ที่ช่วยคาดการณ์จุดสูงสุดของตลาดคริปโตในวิกฤตช่วงโควิด-19 ส่งสัญญาณ ถึงเวลาซื้อ Bitcoin
การซื้อขายถือเป็นหนึ่งในแง่มุมที่น่าตื่นเต้นที่สุดของตลาดเหรียญคริปโต ดังนั้น จึงมีการจัดเก็บข้อมูลตัวบ่งชี้เรื่องการซื้อขายเพื่อให้เทรดเดอร์ใช้เป็นเครื่องมือคาดการณ์ทิศทางราคาคริปโต ซึ่งชุดตัวบ่งชี้นี้ถือได้ว่าเกิดขึ้นและพัฒนาควบคู่มากับการเติบโตของตลาดคริปโต
การเข้าใจว่าตัวบ่งชี้เหล่านี้ทำงานอย่างไร และควรหยิบตัวบ่งชี้ใด มาใช้ในช่วงเวลาไหนถือเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ ก่อนจะเริ่มซื้อขายคริปโต
TD Sequential คือหนึ่งในตัวบ่งชี้ดังกล่าวที่คิดค้นโดย Tom DeMark โดยตัวบ่งชี้ทั้งหมดของ DeMark ถูกออกแบบมาเพื่อคาดการณ์จุดพลิกผันของตลาด
TD Sequential คืออะไร
TD Sequential ถูกใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลราคาเพื่อระบุจุดแข็งหรือจุดอ่อนของเทรนด์ตลาดและความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ช่วง countdown ของ TD Sequential เป็นตัวบ่งชี้อัตราการลดลงของผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งดูได้จากทิศทางของเทรนด์ในปัจจุบัน
เว็บไซต์ทางการอธิบายว่า
“ด้วยกระบวนการการเปรียบเทียบราคาหลายช่วง ซึ่งใช้ทั้งตัวบ่งชี้ Setup และ Countdown ตัวบ่งชี้ Sequential จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลราคาที่ดูไม่สอดคล้องกันเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดแข็งหรือจุดอ่อนของเทรนด์ตลาดและโอกาสการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน”
ตัวบ่งชี้นี้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์แบบสวนเทรนด์ที่ช่วยแก้ปัญหาของ TA indicators หลายตัวที่ช่วยสร้างกำไรได้ดีในช่วงที่ตลาดกำลังเป็นที่นิยม แต่ใช้จัดเรียงตลาดไม่ค่อยได้ โดย TD Sequential สามารถใช้ในกรอบเวลาและเงื่อนไขตลาดแบบใดก็ได้
คุณลักษณะหลักของตัวบ่งชี้นี้ ได้แก่
- ใช้ในกรอบเวลา หรือสินทรัพย์การเงินแบบใดก็ได้
- ประกอบด้วย 2 ช่วง ได้แก่ ช่วง setup (9-count) และช่วง Countdown (13-count)
- แสดงผลได้แค่ในรูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่นหรือบาร์ชาร์ต
- เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการคาดการณ์จุดพลิกผันของตลาดแบบล่วงหน้า
- ช่วยกำหนดระดับการสนับสนุนและต่อต้าน
- กฎของ TD Sequential ปรับเปลี่ยนได้ง่าย ดังนั้น จึงนำไปใช้ได้หลากหลายรูปแบบ
TD Sequential ทำงานอย่างไร
ข้อมูลในเว็บไซต์ระบุว่า การใช้ตัวบ่งชี้นี้มี 9 ขั้นตอน แต่เพื่อให้เข้าใจง่าย Hackernoon แนะนำให้โฟกัสไปที่ขั้นตอนหลัก โดยขั้นแรก คือ การมองหาแพทเทิร์นในแท่งเทียนญี่ปุ่น 9 แท่ง ที่จุดปิดในแต่ละแท่งมีมูลค่าสูงหรือต่ำกว่า 4 แท่งก่อนหน้า
กราฟนี้คือตัวอย่างของข้อมูลที่แนะนำให้ซื้อ
กราฟแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีจุดปิดติดต่อกัน 9 จุด ซึ่งมีมูลค่าต่ำกว่า จุดปิดของ 4 แท่งก่อนหน้า จุดที่เหมาะที่สุดสำหรับการซื้อ คือ ช่วงที่จุดต่ำของบาร์แท่งที่ 8 หรือ 9 สูงกว่าจุดของแท่งที่ 6 และ 7
ส่วนกราฟนี้คือตัวอย่างข้อมูลที่แนะนำให้ขาย
สัญญาณการซื้อจะเกิดขึ้น เมื่อจุดสูงของบาร์แท่งที่ 8 หรือ 9 สูงกว่าของบาร์แท่งที่ 6 และ 7
สิ่งที่หวังกับเรื่องจริง
นักวิเคราะห์จำนวนมากยอมรับในความแม่นยำของตัวบ่งชี้นี้ หนึ่งในนั้นคือ Thomas Thornton ผู้ก่อตั้งบริษัทให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่ชื่อ Hedge Fund Telemetry
เมื่อเทียบผลการใช้ตัวบ่งชี้ TD Sequential ของนักวิเคราะห์ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในช่วงหลายปีนี้ จะทำให้เห็นความแม่นยำของตัวบ่งชี้นี้ได้ดียิ่งขึ้น
ในปี 2020 ในขณะที่เทรดเดอร์จำนวนมากยังเชื่อมั่นใน Bitcoin ตัวบ่งชี้แนะนำว่า ตลาดคริปโตจะยังอยู่ในภาวะตลาดหมีต่อไป และจะเกิดภาวะวิกฤตที่สาหัสยิ่งกว่า
Thornton ยืนยันว่า สัญญาณนี้ เมื่อรวมกับการที่มีคนแห่ซื้อ Bitcoin จำนวนมาก ช่วยบ่งชี้ว่า นักลงทุนจะเริ่มเทรดแบบยาวและกลับไปมีท่าทีเป็นกลางกับ Bitcoin
Bitcoin ต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงกะทันหันจริงๆ หลังจากที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 10,323 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ราคา Bitcoin ค่อยๆ ลดลงจนมีราคาต่ำถึง 3,860 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สถานะปัจจุบันของ Bitcoin
Thornton อ้างว่า จากการอ่านผลตัวบ่งชี้ TD Sequential Bitcoin น่าจะกำลังอยู่ในจุดต่ำสุดแล้ว
ในขณะเดียวกัน Thornton มองว่า ยังพอมีหวังที่ราคา Bitcoin จะเปลี่ยนกลับมาเป็น 17,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Thornton แนะนำให้เทรดเดอร์ซื้อขายในจำนวนน้อยและหยุดการซื้อขายที่มูลค่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น
เมื่อสำนักข่าว BeInCrypto ติดต่อขอความเห็นจาก Thornton เขาอธิบายว่า “สัญญาณเตือนอาจเป็นจริงอีกครั้งก็ได้ ผมยังเชื่อว่า ยังมีความเสี่ยงสูงเรื่องคู่ค้าและการล้างพอร์ต และเมื่อมีหน่วยงานที่กำกับดูแลและนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทุกอย่างก็ยิ่งยากขึ้น เพราะฉะนั้น ควรหยุดการซื้อขายไว้ที่ราคา 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และไม่ควรเทรดเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุนของคุณ นั่นคือสิ่งที่ผมแนะนำคนที่ติดตามผม”
ในขณะที่ผลิตบทความ Bitcoin มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 16,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพียงเล็กน้อย หลังจากราคาลดลงไปแล้ว 5 เปอร์เซ็นต์
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ