ผู้ร่วมก่อตั้ง Solana ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้คนที่ต้องการให้ Bitcoin (BTC) เปลี่ยนไปใช้กลไกฉันทามติ Proof of Stake (PoS) ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องในการขุด Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของ “เรื่องราวที่เป็นปัญหา”
ในการให้สัมภาษณ์กับ Kate Rooney แห่ง CNBC Anatoly Yakovenko ผู้ร่วมก่อตั้งของ Solana กล่าวว่ามันเป็นความเห็นของเขาที่ว่าเครือข่าย Cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดควรเปลี่ยนไปใช้ PoS
“นี่อาจจจะเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมากที่สุดที่คุณจะทำให้ผมพูดได้ แต่ในที่สุดแล้วหาก [Bitcoin] ไม่ย้ายไป Proof of Stake ก็จะไม่มีใครใช้มันอีกต่อไป” Yakovenko กล่าว
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุด Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อข้อเสนอแนะของเขา เขากล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแล้ว “การสร้างระบบ Proof of Stake จะมีประสิทธิภาพมากกว่า” และจากมุมมองทางวิศวกรรม มันก็ให้ความปลอดภัยในระดับเดียวกัน
Yakovenko ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยธรรมชาติของ Bitcoin ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบ Proof of Work (PoW) อาจจจะอธิบายสาเหตุที่ตัวเครือข่ายนั้นไม่มีระบบนิเวศ Layer 2 ที่ดี กลับกันแล้ว มันรับบทบาทเป็นตัวกับเก็บมูลค่า “ซึ่งอาจจะยังใช้ได้ในตอนนี้ แต่เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า”
Bitcoin นำรูปแบบ Proof of Work มาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและป้องกันการใช้จ่ายซ้ำซ้อน ในช่วงปีแรกๆ นักขุดสามารถตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมโดยใช้เพียงพีซีหรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป แต่เมื่อเครือข่ายมีขนาดใหญ่มากขึ้น มันก็ได้พัฒนาไปสู่ความต้องการพลังงานในระดับที่น่าเหลือเชื่อ
ผู้ร่วมก่อตั้ง Solana ไม่ใช่รายแรกที่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง
Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้งของ Ripple ได้เรียกร้องให้ Bitcoin นำรูปแบบ Proof of Stake มาใช้เมื่อช่วงต้นปีนี้ เขาได้ยกระดับการเรียกร้องด้วยแคมเปญจน์ “Change the Code, Not the Climate” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ถูกคิดมาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ Bitcoin
Ethereum (ETH) เครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองก็กำลังย้ายไป Proof of Stake ในปลายปีนี้ ETH ซึ่งเป็นอันดับสองในรายการสินทรัพย์ Crypto ที่มีการ Stake มากที่สุด โดยมีมูลค่าการ Stake 32.89 พันล้านดอลลาร์
Yakovenko ยกย่อง Solana ว่าเป็นหนึ่งในเครือข่าย PoS ชั้นนำจากความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานของมัน Solana ได้รับชื่อเสียงว่าเป็นนักฆ่า Ethereum แต่ก็ได้เงียบหายไปในเวลาไม่นาน
“ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานในสายอาชีพของฉันในการสร้างโค้ดที่ประหยัดพลังงานบนมือถือเท่าที่จะทำได้ และฉันจะรู้สึกละอายใจมากหาก Solana ไม่ได้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด” Yakovenko กล่าว
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ