มีรายงานว่าแอลเบเนียกําลังวางแผนที่จะเก็บภาษีรายได้ที่เกิดจากสินทรัพย์คริปโตตั้งแต่ปี 2023 ตามร่างกฎหมายฉบับใหม่ โดยมอบหน้าที่ให้กับ Albanian Financial Supervisory Authority (AFSA)
Exit News รายงานว่าร่างภาษีจะกลายเป็นกฎหมายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเปิดทางให้เกิดระบอบการจัดเก็บภาษีคริปโตใหม่ในปีต่อไป กล่าวกันว่า ร่างดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการขอคำปรึกษาจากสาธารณชนในขณะนี้
ร่างนี้ยังเน้นย้ำถึงคําจํากัดความของสินทรัพย์เสมือนโดยเน้นว่า: “การนำเสนอมูลค่าดิจิทัลที่สามารถฝาก ซื้อขายหรือโอนในรูปแบบดิจิทัล และสามารถใช้เพื่อการชําระเงินหรือการลงทุนหรือเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนรวมถึง แต่ไม่จํากัดเพียงเงินคริปโต”
Sponsoredคําจํากัดความนี้ไม่รวมสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) โดยเฉพาะ
แอลเบเนียพยายามนิยามการขุดคริปโต
แอลเบเนียอยู่ในช่วงที่พยายามจะนิยามการขุดเหมืองคริปโตว่าเป็น “กิจกรรมการใช้พลังคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ระบบเพื่อแก้ปัญหาอัลกอริทึมคริปโต เพื่อยืนยันการทําธุรกรรมและรับเครื่องมือเสมือนเป็นการแลกเปลี่ยน รวมถึงการประมวลผลและยืนยันกิจกรรมการทําธุรกรรมผ่านการลงทุนเครื่องมือเสมือนที่กําหนดโดยผู้ใช้โหนดคอมพิวเตอร์ที่เข้าร่วมในกระบวนการนี้”
พัฒนาการดังกล่าวยังเป็นไปตามข่าวที่เผยแพร่ในเดือนมกราคมเกี่ยวกับการที่ชาวแอลเบเนียสามคนถูกจับในข้อหาขุดคริปโตด้วยพลังงานที่ขโมยมา ตั้งแต่นั้นมา ทางการแอลเบเนียได้พยายามลดการสูญเสียพลังงานโดยใช่เหตุ
ข้อมูลจากร่างกฎหมายฉบับใหม่ เผยว่ารายได้ใด ๆ ที่ได้จากธุรกรรม คริปโต หรือที่ได้จากการขุด จะถูกจัดประเภทเป็นรายได้จากธุรกิจในอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทของธุรกิจตามความเหมาะสม ในกรณีอื่น ๆ บุคคลธรรมดาจะต้องเสียภาษีเงินได้ 15% ลบด้วยเงินปันผลตามรายงาน
เมื่อต้นเดือนนี้ ที่ประชุมของรัฐสภาแอลเบเนียเรียกร้องให้หน่วยงานกํากับดูแลทางการเงิน (AFSA) อนุมัติกฎระเบียบคริปโตและ “กระชับความร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลระหว่างประเทศเพื่อทำให้ประสบการณ์ในตลาดคริปโตดียิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม การทํางานบนกรอบกำกับคริปโตในประเทศแอลเบเนียนั้นเริ่มต้นขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งเป็นตอนที่คณะกรรมการ AFSA อนุมัติกฎระเบียบสองข้อโดยระบุว่า: “ว่าด้วยความเพียงพอของเงินทุน และเงินทุนของหน่วยงานที่ดําเนินงานในตลาดการเงินโดยใช้เทคโนโลยีการลงทะเบียนแบบกระจาย” และ “สําหรับการออกใบอนุญาตของหน่วยงานที่ใช้กิจกรรมในฐานะเอเยนต์ของโทเค็นดิจิทัล”
