ความสัมพันธ์รหว่างสหรัฐอเมริกากับกับรัสเซียตึงเครียดมากขึ้นกับการคว่ำบาตรอีกรอบ เนื่องจากข้อจำกัดจากการคว่ำบาตรล่าสุดนั้นรวมการทำเหมือง Bitcoin เข้าไปด้วย
วันที่ 20 เมษายน 2022 สหรัฐอเมริกาได้ทำการคว่ำบาตรนิติบุคคลจำนวนมาก ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งใน Russia และแม้แต่บริษัทขุดเหมือง
ทั้งนี้ สำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Treasury’s Office of Foreign Assets Control – OFAC) กล่าวว่าได้มีการระบุบริษัทขุด Cryptocurrencyเข้าไปในการคว่ำบาตรเป็นครั้งแรก โดยบริษัทดังกล่าวคือ Bitriver AG อันเป็นบริษัทขุดคริปโต ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์
สำนักงานฯ ระบุว่าบริษัทแห่งนี้ดำเนินการในสามสำนักงานทั่วรัสเซียแม้ว่าจะมีการย้ายกรรมสิทธิ์ทางกฎหมายในทรัพย์สินของตนไปยังสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อยในปี 2021
การคว่ำบาตรบริษัตในอุตสาหกรรมครั้งแรกใน Russia
Brian Nelson เลขาธิการหน่วยข่าวกรองด้านการก่อการร้ายและการเงิน กล่าวว่า
กระทรวงการคลังสามารถและจะเพ่งเล็งผู้ที่หลบเลี่ยง พยายามหลบเลี่ยง หรือให้ความช่วยเหลือในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย เนื่องจากพวกเขากำลังช่วยสนับสนุนสงครามอันโหดร้ายของปูติน”
สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตร Russia หลายครั้ง นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้รวมถึงการคว่ำบาตรธนาคารและผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของประเทศ
ทั้งนี้ Bitriver ถูกกำหนดให้เป็น “ผู้ดำเนินการในภาคเทคโนโลยีของเศรษฐกิจสหพันธรัฐรัสเซีย” โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยอ้างว่าเป็นผู้ให้บริการการขุดคริปโตเคอเรนซี ที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศรายใหญ่ที่สุดในโลก มีศูนย์ข้อมูลพลังงานหมุนเวียน 100 เมกะวัตต์พร้อมคนงานเหมือง 75,000 คนในเมือง Bratsk ของไซบีเรีย
กรมธนารักษ์กล่าวว่าบริษัทดำเนินการขุดคริปโตขายเพื่อสร้างกำลังการผลิตให้กับลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้รัสเซีย “สร้างรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ”
“รัสเซียมีข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบในการขุดคริปโต เนื่องจากมีแหล่งพลังงานและสภาพอากาศที่หนาวเย็น อย่างไรก็ตาม บริษัทเหมืองแร่พึ่งพาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่นำเข้าและการชำระเงินด้วยสกุลเงินปกติ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตร”
นอกจากบริษัทเหมืองแร่แล้ว กระทรวงการคลังยังคว่ำบาตรธนาคาร Transkapitalbank ของรัสเซีย รวมถึงบุคคลและหน่วยงานอีกกว่า 40 รายที่นำโดยผู้มีอำนาจของรัสเซียชื่อว่า Konstantin Malofeyev
กระแสต่อต้านอุตสาหกรรมคริปโตเพิ่มขึ้น
มีการหว่านล้อมในหมู่นักการเมืองที่ต่อต้านอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ ซึ่งยังคงเชื่อว่ารัสเซียกำลังใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร
ไม่กี่วันหลังจากการบุกรุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ กรมธนารักษ์ประกาศว่าธุรกรรมคริปโตเป็น “ธุรกรรมหรือการซื้อขายที่หลอกลวงอย่างมีลำดับขั้นตอน” ซึ่งสามารถใช้ในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรได้
ในสัปดาห์นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ย้ำประเด็นว่าเงินดิจิทัลสามารถใช้เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวด้วยคำเตือนว่าประเทศต่างๆ เช่น รัสเซียและอิหร่าน สามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่ว่ารัสเซียจะหันไปใช้คริปโตเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรนั้นได้รับการโต้แย้งอย่างกว้างขวางจากนักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโตเอง
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ