หลายคนคิดว่า Keith Grossman เป็นบ้าไปแล้วกับการนำ TIME เข้าสู่ Web3 แต่ตอนนี้เขาสร้างรายได้มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์และฟื้นฟูแบรนด์แอนะล็อกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและท่ามกลาง NFT Hater
Grossman กล่าวว่า TIME กำลังเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลผ่านคริปโตและ NFTs และเสนอความคิดของเขาเกี่ยวกับ Web3 เพื่อโต้ตอบกับกลุ่มที่ยังสงสัยในนวัตกรรมนี้
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าแผนหลักของทางบริษัทไม่เคยคิดจะเข้าสู่โลก Web3 เราเพียงพยายามฟื้นฟูแบรนด์ที่ถูกละเลยมาเป็นเวลาสิบๆ ปีเท่านั้น
แต่เนื่องจากผลกระทบจาก COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนเข้าหาอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การระบาดใหญ่ทั่วโลกทำให้เขาตระหนักว่า ข้อมูลประจำตัวทางดิจิทัลของเขามีความสำคัญพอๆ กับตัวตนทางกายภาพของเขา
Meme อาจเป็นรากฐานของ NFT
Grossman มีความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่เริ่มทำงานที่ WIRED ในปี 2014 ซึ่งเขาได้ผลักดันให้บริษัทซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อขุด Bitcoin ในสำนักงาน
หลังจากที่ซึมซาบมานานหลายปีในที่สุดก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อ Nyan Cat ซึ่งเป็น GIF แบบไวรัลของแมวตดสีรุ้งที่มีร่างเป็น PopTart ขายเป็น NFT ในราคา 300 ETH ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 หรือประมาณ 587,000 ดอลลาร์ในขณะนั้น
เขาไม่เพียงมองว่า NFT เป็นโอกาสทางธุรกิจเท่านั้น แต่เขายังเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างมีมและ NFT “หน้าปกของ TIME ขอบสีแดงที่มีมานานกว่า 99 ปี คือ meme อย่างหนึ่ง” เขาเรียกมันว่า “analog meme”
TIME กับความสำเร็จและการต่อต้านของ NFT Hater
หลังจากที่เขานำบริษัทเข้าสู่โลก NFTs เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 หลายคนหาว่าเขาบ้า แต่เขาเป็นเพียงคนที่ชอบเทคโนโลยีก็เพียงเท่านั้น
TIME ได้เปิดตัวคอลเลคชัน NFT 5 รายการ ประกาศความร่วมมือ NFT กับแร็ปเปอร์ Timbaland นำ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum บนบล็อกเชนมาขึ้นปกนิตยสาร และเปิดตัว NFTs เพื่อการบรรเทาทุกข์ของยูเครนเป็นต้น
ตอนนี้ประมาณ 1 ปีต่อมา พวกเขาทำกำไรได้มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์จาก NFTs เพียงอย่างเดียว Grossman รู้สึกทึ่งกับความคิดของผู้ที่เกลียดนวัตกรรม NFT และ Web3 ซึ่งมักจะโพสต์ต่อต้าน NFT ทางออนไลน์ และกล่าวว่า “ผมไม่เข้าใจการเมืองของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นนี้”
เขากล่าวว่า ผู้คนชอบพูดว่าพวกเขารักการเปลี่ยนแปลงแต่ผู้คนไม่ได้รักการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ เมื่อพวกเขาไม่เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนำไปสู่จุดใด หรือพวกเขาไม่ได้ควบคุมการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง
แม้จะมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ NFTs แต่จุดยืนของเขาใน Web3 นั้นไม่เปลี่ยนแปลง เขาเชื่อว่าสังคมจะเคลื่อนไปสู่การยอมรับผ่านสิ่งที่เขาเรียกว่า “Experience State” ซึ่งเน้นที่ประสบการณ์ที่ได้รับมากกว่าการคำนึงถึงเทคโนโลยีพื้นฐาน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ