ปริมาณการซื้อขายของ OpenSea ลดลงอีกในเดือนสิงหาคม อันมีสาเหตุมาจากการที่ตลาด Crypto โดยรวมเป็นขาลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายในตลาด NFT ทั่วโลกในเชิงลบ
OpenSea ได้กลายเป็นตลาด Non-Fungible Token (NFT) ที่โดดเด่นในช่วง 4 ปีครึ่งที่ผ่านมา แพลตฟอร์มสำหรับการซื้อ ถือครอง และขายของสะสมดิจิทัลและตลาดที่แข่งขันกันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแนวโน้มในเชิงลบของตลาด Crypto ในปีนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกๆ พื้นที่ในอุตสาหกรรม
หลังจากที่แตะระดับสูงสุดประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ยอดขายของ OpenSea ก็ลดลงอย่างมากในเดือนสิงหาคม โดยสร้างรายได้เพียง 502 ล้านดอลลาร์ หรือลดลง 89% ภายใน 7 เดือน
ในขณะที่ช่วงเดือนมกราคม 2022 นั้นยังเป็นระดับสูงสุดตลอดกาลของแพลตฟอร์ม แต่ในเดือนสิงหาคม 2021 OpenSea ก็แตะระดับสูงสุด ณ ขณะนั้นที่ 3 พันล้านดอลลาร์ ตัวเลขของเดือนที่แล้วเป็นการลดลง 85% เมื่อเทียบแบบปีต่อปีและเป็นการลดลง 5% จากตัวเลข 529 ล้านดอลลาร์ของเดือนก่อนหน้า
คอลเล็กชั่นยอดนิยมบน OpenSea มียอดขายลดลงเป็นอย่างมาก
คอลเล็กชั่นยอดนิยมอันดับต้นๆ บน OpenSea นั้นรวมถึง Bored Ape Yacht Club (BAYC), Otherdeed จาก Otherside, Mutant Ape Yacht Club (MAYC), CryptoPunks และ Moonbirds จากตารางด้านล่าง NFT ที่ไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับแรกของของสะสมดิจิทัลในเรื่องยอดขายตลอดกาลคือ Ethereum Name Service, ABC, y00ts, DigiDaigaku Genesis และ CLONE X – X TAKASHI MURAKAMI
Bored Apes คอลเล็กชั่นชั้นนำของ OpenSea มีจำนวนผู้ซื้อที่ไม่ซ้ำกันถึงจุดต่ำสุดเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนที่แล้ว
แม้ว่าราคาขายโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นโดยต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์เล็กน้อยในเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม และเพิ่มขึ้นเป็น 132,598 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม แต่การทำธุรกรรมโดยรวมก็ยังคงต่ำกว่า 500 รายการ ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายที่ลดลงเหลือต่ำกว่า 60 ล้านดอลลาร์ในเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
CryptoPunks ยังคงเป็นคอลเล็กชั่น NFT อันดับต้นๆ แต่ยอดขายลดลงตลอดปี 2022 คอลเล็กชั่นนี้ยังไม่อาจทะลุ 150 ล้านดอลลาร์ในยอดขายประจำเดือนในปีนี้ โดยยอดขายในเดือนมกราคมที่ 124 ล้านดอลลาร์เป็นจุดสูงสุด ยอดขายของมันลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือนในเดือนสิงหาคมโดยมีมูลค่าประมาณ 25 ล้านดอลลาร์
หลังจากที่ทำลายสถิติมากมายในเดือนแรกในฐานะ NFT ที่ซื้อขายได้ในเดือนพฤษภาคมด้วยยอดขายประมาณ 944 ล้านดอลลาร์ Otherdeed จาก Otherside Metaverse ก็มีปริมาณการซื้อขายประจำเดือนลดลงเช่นกัน
มันมีเพียงไม่กี่โปรเจกต์ในโลกของ NFT ที่เริ่มต้นด้วยผู้ซื้อที่ไม่ซ้ำกันมากกว่า 20,000 ราย และมีราคาขายโดยเฉลี่ยมากกว่า 20,000 ดอลลาร์ หลังจากผ่านตลาดหมีในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายของ Otherdeed ลดลงเหลือต่ำกว่า 30 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการลดลงถึง 97%
ในช่วงเวลาเดียวกัน ยอดขายของ Moonbirds และ Mutant Ape Yacht Club ก็ลดลงกว่า 96% และ 90% จากจุดสูงสุดของพวกเขาตามลำดับ
ปริมาณการซื้อขายของ OpenSea สัมพันธ์กับยอดขายของตลาด NFT ทั่วโลก
ปริมาณการซื้อขายประจำเดือนของตลาด NFT นั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง และรูปแบบเดียวกันนี้ได้สะท้อนให้เห็นในยอดขาย NFT ทั่วโลก
จากที่ OpenSea มีรายได้ 502 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ยอดขายทั่วโลกลดลง 7% จาก 682 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมเป็น 634 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม
OpenSea ยังคงครองส่วนแบ่งปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่
ถึงแม้ว่าปริมาณการซื้อขายในเดือนสิงหาคมจะลดลงมากกว่า 80% จากจุดสูงสุดของปีนี้ แต่ OpenSea ยังคงเป็นผู้นำในตลาด NFT ที่มีปริมาณการซื้อขายรายเดือนที่มากที่สุด
ปริมาณการซื้อขายรวมที่มีการบันทึกไว้ของตลาด NFT อยู่ที่ 613 ล้านดอลลาร์ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 502 ล้านดอลลาร์ OpenSea ครองส่วนแบ่ง 82% ของตลาด NFT ในเดือนสิงหาคม
Magic Eden ขึ้นมาอันดับ 2 ด้วยตัวเลขประมาณ 66 ล้านดอลลาร์ คู่แข่งรายอื่นๆ เช่น LooksRare, Solanart, Foundation และ Nifty Gateway มีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างน้อย
X2Y2 ขยับอันดับขึ้นมา
ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา (ณ เวลาที่เขียนบทความ) X2Y2 ซึ่งเป็นตลาด NFT ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้แซงหน้า OpenSea ในเรื่องปริมาณการซื้อขาย X2Y2 มีปริมาณการซื้อขายที่ประมาณ 340 ล้านดอลลาร์จากธุรกรรม 80,000 รายการและผู้ใช้งาน 19,000 ราย
ภายในช่วงเวลาเดียวกัน OpenSea มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 334 ล้านดอลลาร์จากผู้ใช้งาน 265,000 รายในการทำธุรกรรมประมาณ 1.6 ล้านครั้ง
ปริมาณการซื้อขายของ X2Y2 ส่วนใหญ่มาจากการเปิดตัว Tokenomics 2.0 ซึ่งลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเป็น 0 ซึ่งเป็นกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการขึ้นทะเบียนและซื้อขายของสะสมดิจิทัลคุณภาพสูงบนแพลตฟอร์ม ตลอดจนให้รางวัลแก่ผู้ใช้งานที่กระตือรือร้นสำหรับความภักดีของพวกเขา
ในขณะนี้ OpenSea ยังคงเป็นราชาแห่งแพลตฟอร์ม NFT แต่เวลาจะบอกเราเองว่า X2Y2 หรือตลาดอื่นๆ บน Solana หรือเครือข่ายที่คล้ายกันจะช่วงชิงมงกุฏของพวกเขาจากการเป็นตลาดยอดนิยมสำหรับนักสะสมหลายล้านคนหรือไม่
ตลาดหมี NFT จะดำเนินต่อไปหรือไม่?
Parsa Abbasi ผู้ก่อตั้ง LivelyVerse ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องอนาคตของตลาด NFT
เขาบอกกับ Be[In]Crypto ว่า “เราไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่ามันเป็นตลาดหมี และตลาดหมีส่งผลกระทบต่อพื้นที่ Crypto ทั้งหมด NFT ก็เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่นี้เช่นกัน นอกจากนั้น มันยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกด้วย
ประการหนึ่งเลยก็คือ การที่มันเป็นฤดูกาลที่เจ้าของ(NFT หรือ Crypto)ได้ประสบกับการขาดทุนมากกว่าผลกำไรก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง ถึงกระนั้น เราก็ไม่ควรลืมว่าในตลาดการเงิน พฤติกรรมการทำตามผู้คนส่วนใหญ่นั้นก็เป็นเรื่องที่แพร่หลายมาก เมื่อหุ้น โทเค็น หรือ NFT เริ่มทำเงินให้กับนักลงทุน คนอื่นๆ ก็นำเงินเข้ามาโดยไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากหวังผลกำไรด้วยเช่นกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ตลาดพัง”
เขาสรุปว่า “ในความคิดของผม ผู้คนควรลงทุนเงินของพวกเขาในสิ่งที่มีค่าและโปรเจกต์ที่ทำงานได้จริง และตัดสินใจลงทุนอย่างมีตรรกะ ผมเชื่อว่า “ลิงดิจิทัล” ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี มันควรจะเป็นบางสิ่งที่สะสมมูลค่าได้ ในขณะที่วิกฤตและการชะลอตัวกำลังดำเนินอยู่ นักลงทุนต่างหันมาสนใจพันธบัตร ดังนั้น มันจึงสามารถคาดเดาได้ว่าเงินจะไม่มาอยู่ใน NFTs ท้ายที่สุดแล้ว นี่อาจจะเป็นการทดสอบความอดทนสำหรับเหล่า NFT ก็ได้ ซึ่งเราจะมาดูกันว่าพวกมันจะสามารถเก็บสะสมมูลค่าได้หรือไม่”
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ