วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ 3 คนเสนอ ร่างกฎหมาย ที่จะห้ามแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ ไม่ให้เปิดใช้งานธุรกรรมที่สนับสนุนเงินหยวนดิจิทัลของจีนในวันพฤหัสบดี
“Defending Americans from Authoritarian Digital Currencies Act” (กฎหมายปกป้องชาวอเมริกันจากสกุลเงินดิจิทัลจากเผด็จการ) กล่าวถึงความกลัวว่าแอพที่ให้บริการบน Google และ/หรือ App Store ของ Apple อาจจะถูกใช้เพื่อสอดแนมพลเมืองสหรัฐฯ วุฒิสมาชิก Tom Cotton (R-AR), Mike Braun (R-IN) และ Marco Rubio (R-FL) เชื่อว่าปัญหานี้เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจ โดยพยายามดำเนินการเชิงรุกในการปฏิเสธความพยายามของจีนที่จะ “บ่อนทำลายเศรษฐกิจ [ของสหรัฐฯ] ในระดับพื้นฐานที่สุด”
e-CNY ซึ่งเป็นเงินหยวนดิจิทัลของจีน ได้รับการออกแบบมาเพื่อแทนที่เหรียญและธนบัตรจริง และมันจะถูกควบคุมและออกโดยธนาคารกลางของจีน สกุลเงินดังกล่าวได้ปรากฏตัวในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งเมื่อต้นปีนี้
Sponsored“เงินหยวนดิจิทัลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นจะช่วยให้สามารถควบคุมและเข้าถึงชีวิตทางการเงินของบุคคลได้โดยตรง” วุฒิสมาชิก Braun กล่าวในแถลงการณ์ “เราไม่สามารถอนุญาตให้ระบอบเผด็จการนี้ใช้สกุลเงินดิจิทัลที่รัฐควบคุมเป็นเครื่องมือในการแทรกซึมเศรษฐกิจของเราและข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองอเมริกันได้”
สำนักงานของวุฒิสมาชิก Cotton ระบุว่า เงินหยวนดิจิทัลอาจจะทำให้จีน “มองเห็นธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่ายแบบเรียลไทม์ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสำหรับคนอเมริกันที่เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว”
วุฒิสมาชิก Rubio (R-FL) ยังอธิบายว่าเงินหยวนดิจิทัลเป็น “ความเสี่ยงทางการเงินและการเฝ้าระวังที่สำคัญที่สหรัฐฯ ไม่สามารถทำได้”
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม รายงานโดย The Center for a New American Security ระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลของจีนและระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์สามารถเพิ่มการเฝ้าระวังของรัฐบาลได้ โดยสังเกตว่า “ธุรกรรมอาจจะมีข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับผู้ใช้งานและกิจกรรมทางการเงินของพวกเขา”
จีนร้องสหรัฐฯ “กลั่นแกล้ง”
ในการตอบโต้ สถานเอกอัครราชทูตจีนกล่าวถึง ร่างกฎหมาย ใหม่ของสหรัฐฯ ว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของประเทศที่ “กลั่นแกล้งบริษัทต่างชาติ” ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
หากร่างกฎหมายมีการลงนามแล้ว บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมทั้ง Google และ Apple จะต้องลบแอพจีนออกจากร้านค้าของตน ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริการยอดนิยมต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง WeChat และ Alipay เนื่องจากปัจจุบันทั้งคู่ยอมรับการใช้งานของเงินหยวนดิจิทัล
โปรเจ็กต์เงินหยวนดิจิทัลของจีนในปัจจุบันเป็นผู้นำในด้านโครงการ CBDC ทั้งหมด โดยประเทศในเอเชียได้ทำการทดลองมาหลายครั้งและเปิดเผยถึงความตั้งใจที่จะเข้าไปสำรวจถึงเรื่องการชำระเงินระหว่างประเทศ ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน จีนเปิดเผยว่าจะมีอีก 11 เมืองในการทดลองการใช้งานเงินหยวนดิจิทัล รวมไปถึงเมืองเทียนจิน ฉงชิ่ง กวางโจว ฝูโจว เซียะเหมิน และมณฑลเจ้อเจียง
