บริษัทขุดคริปโตของสหรัฐฯ ชิงขายอุปกรณ์มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ในรัสเซีย

จากความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ Compass Mining กำลังมองหาช่องทางสะสางอุปกรณ์ทั้งหมดของบริษัทตนในรัสเซียในการขายครั้งใหญ่ที่มีมูลค่าถึง 30 ล้านดอลลาร์

Compass Mining Inc ซึ่งเป็นบริษัทขุด Cryptocurrency ชั้นนำกำลังพยายามขายอุปกรณ์ในรัสเซีย มูลค่ารวมของอุปกรณ์ที่จะขายอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ ทั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่ไ่ม่สามารถย้ายออกนอกประเทศได้

ความเร่งรีบนี้ในการชำระบัญชีเป็นผลมาจากการคุกคามการคว่ำบาตรจากการทำธุรกิจกับรัสเซีย Whit Gibbs ซีอีโอของ Compass Mining บอกกับ Bloomberg ว่าเขาเข้าใจแรงจูงใจของการคว่ำบาตรดี แต่รู้สึกว่า “การลงโทษนั้นเกินขนาดไปหน่อยสำหรับนักขุดชาวอเมริกัน”

“การขุด Bitcoin นี่แหละที่ได้รับผลเสียที่แทเจริง” Gibbs กล่าว แม้ว่าอัตราแฮชของ Bitcoin (BTC) จะอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็มีความกลัวว่าการขายจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขที่โดดเด่น อุปกรณ์ที่ Compass จำหน่ายนั้นคิดเป็นเกือบ 15% ของกำลังการผลิตซึ่งเท่ากับ 12 เมกะวัตต์

บริษัทมีแผนที่จะจัดส่งอุปกรณ์ 10 เมกะวัตต์ไปในหลายพื้นที่ในรัสเซีย แต่ผลจากภัยคุกคามล่าสุด Compass จะมุ่งเน้นไปที่โรงงานในภูมิภาคอเมริกาเหนือเป็นหลัก

Gibbs แสดงความมองโลกในแง่ดีว่าบริษัทจะหาผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ส่วนใหญ่ และเสริมว่ารายได้ที่ได้รับจะแจกจ่ายให้กับเจ้าของที่มีจำนวนประมาณ 2,000 ราย

BitRiver Mining ถูกคว่ำบาตรแล้ว

ท่าทีของ Compass เพื่อขายฮาร์ดแวร์นั้นส่วนใหญ่ได้รับแรงจูงใจจากการคว่ำบาตร BitRiver ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขุดคริปโต ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรถูกกำหนดโดยกระทรวงการคลังสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเชิงลบตามมา

Igor Runets ซีอีโอของ BitRiver ระบุว่า การคว่ำบาตรเป็นอุบายที่จะ “เปลี่ยนสมดุลของอำนาจทั่วโลกเพื่อประโยชน์ของบริษัทอเมริกัน” Runets ปฏิเสธอย่างรุนแรงต่อการเรียกร้องว่า BitRiver ให้บริการแก่หน่วยงานหรือปัจเจกบุคคลจากรัสเซียที่ถูกลงโทษ

หลังจากการกวาดล้างการขุดคริปโตของจีนในปี 2021 นักขุดคริปโตจำนวนมากได้แห่กันไปที่รัสเซียเพื่อสร้างพื้นที่การขายเหรียดิจิทัล สิ่งที่ดึงดูดพวกเขาพวกเขาคือโอกาสในการใช้งานพลังงานราคาถูกจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำและก๊าซธรรมชาติ แต่ดูเหมือนว่าเทพนิยายจะใกล้ถึงจุดจบอันขมขื่น

นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน มหาอำนาจตะวันตกได้ตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตรสถาบันและผู้มีอำนาจของประเทศ ส่งผลให้แบรนด์ชั้นนำตัดสัมพันธ์กับประเทศรัสเซียด้วยเช่นกัน

แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำได้ประกาศว่าในขณะที่ “การทำ Blanket Ban” ไม่ได้อยู่แผนการที่กำหนดไว้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ระบุแผนการที่จะร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาจะไม่ถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรในที่สุด