จากข้อมูลของ Bloomberg ร่างกฎหมายฉบับล่าสุดจะแบน Algorithmic Stablecoin อย่าง Luna ของ TerraUSD เป็นเวลา 2 ปี ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลทำการศึกษาโทเค็นที่ไร้หลักประกันจากภายนอกเพิ่มเติม (Endogenously collateralized)
เหล่าผู้นำใน House Financial Services Committee ยังคงเจรจาเงื่อนไขของร่างกฎหมายต้องการเสนอเพื่อควบคุมสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น แม้ว่าการเลือกตั้งกลางวาระกำลังใกล้เข้ามาก็ตาม
ร่างกฎหมายควบคุม Algorithmic Stablecoin
“Endogenously” ที่กลายถึงนี้ หมายถึงสิ่งที่ผลิตหรือสังเคราะห์ขึ้นภายในสิ่งมีชีวิตหรือระบบ ยกตัวอย่างเช่น ก่อนที่ TerraUSD และ Luna จะล่มสลายในเดือนพฤษภาคม ผู้สร้างใช้อัลกอริทึมในการสร้างหรือเผา Luna เพื่อรักษามูลค่าของ TerraUSD ให้คงที่ที่ 1 ดอลลาร์ แต่สิ่งที่นำมาค้ำมูลค่านั้น ไม่ใช่หลักประกันจากภายนอกเช่นเงินสด แต่เป็นเพียงกลไกภายในเท่านั้น
หลังการล่มสลายมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ระเหยไปภายในไม่กี่วัน และการล่มสลายได้กลายเป็นกรณีศึกษาอันโด่งดังของนักวิจารณ์คริปโตที่ได้เพิ่มความสนใจให้กับฝ่ายนิติบัญญัติและหน่วยงานกำกับดูแล
ในร่างกฎหมายก่อนหน้านี้ ทางรัฐกำหนดให้ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ต้องรักษาปริมาณสำรองเพื่อรักษาสภาพคล่องในอัตราส่วน 1:1 สำหรับเหรียญ Stablecoin ทั้งหมดที่หมุนเวียน และจะจำกัดประเภทของสินทรัพย์ที่สามารถสำรองได้
ร่างล่าสุดเสนอเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ
ร่างล่าสุดซึ่ง Bloomberg เผยแพร่ จากประธานคณะกรรมการ Rep. Maxine Waters และ Rep. Patrick McHenry ต้องการระบุรายละเอียดที่ลึกไปกว่านั้น
ร่างกฎหมาย Stablecoin จะกลายเป็นช่องทางให้ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ออก Stablecoin ได้โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอยู่ เครือข่ายดังกล่าวจะควบรวมหน่วยงานกำกับดูแลในระดับรัฐด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ออก Stablecoin ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลกลางได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 180 วัน จากรายงานข่าว พวกเขาคาดว่า คณะกรรมการจะสามารถนำร่างกฎหมายนี้มาเปิดโหวตได้ทันทีภายในสัปดาห์หน้า
ร่างกฎหมาย Stablecoin มีการดำเนินการมาหลายเดือนแล้ว และมีความล่าช้าเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะความกังวลของ Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Yellen ได้อ้างถึงการล่มสลายของ TerraUSD หลายครั้งเมื่อเรียกร้องให้มีการควบคุมพื้นที่ crypto เพิ่มเติม
ในทำนองเดียวกัน Rep. Waters เน้นย้ำถึงความเสี่ยงของ Stablecoin เมื่อต้นปีนี้ โดยกล่าวว่า “การสอบสวนได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่า Stablecoin จำนวนมากไม่ได้มีสินทรัพย์สำรองที่ค้ำมูลค่าไว้อย่างแท้จริง และมันอาจคุกคามเสถียรภาพทางการเงินของสหรัฐฯ ได้หากไม่ได้รับการแก้ไข
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ