The New York Times รายงานว่า เว็บเทรดคริปโต Kraken อยู่ภายใต้การสอบสวนโดยหน่วยงานของสหรัฐฯ โทษฐานละเมิดมาตรการการคว่ำบาตร หน่วยงานกำลังตรวจสอบว่าผู้ใช้งานในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรได้รับอนุญาตให้ซื้อและขาย Crypto หรือไม่
เว็บเทรดคริปโต Kraken อยู่ภายใต้เรดาร์ของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ (OFAC) เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการการคว่ำบาตร กระทรวงการคลังกำลังตรวจสอบว่า Kraken ได้มีการอนุญาตให้ผู้ใช้งานในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรซื้อและขาย Cryptocurrency หรือไม่ แหล่งข่าวบอกกับ New York Times เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ทั้ง Kraken และกระทรวงการคลังยังไม่มีการยืนยันถึงการสอบสวนดังกล่าว
การสอบสวนเริ่มขึ้นในปี 2019 และ New York Times อ้างถึง “บุคคล 5 รายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือมีความรู้ในการสอบสวน” บุคคลเหล่านี้กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจจะบังคับเก็บค่าปรับกับกระดานเทรด ซึ่งได้เผชิญหน้ากับหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐฯ (CFTC) ตั้งข้อหากับพวกเขาในปี 2021 พร้อมโทษปรับ 1.25 ล้านดอลลาร์
กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่ากระดานเทรดดังกล่าวได้มีการอำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินทรัพย์ในบัญชีที่อยู่ในอิหร่าน ซีเรีย และคิวบาหรือไม่ มีรายงานว่า อดีตพนักงานคนหนึ่งอ้างว่า Kraken มีการสร้างรายได้จากผู้ใช้งานในประเทศเหล่านั้น
รายงานระบุว่า มีผู้ใช้งานมากกว่า 1,500 รายในอิหร่าน 149 รายในซีเรีย และ 83 รายในคิวบา การสอบสวนดังกล่าวเน้นย้ำถึงความพยายามของทางการที่เพิ่มมากขึ้นในการที่จะควบคุมตลาด Crypto
Crypto อยู่ภายใต้สปอตไลท์สำหรับการใช้งานในประเทศที่ถูกคว่ำบาตร
ฝ่ายนิติบัญญัติมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของ Crypto ในการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร หลายๆ หน่วยงานกล่าวว่า Crypto นั้นขัดขวางผลกระทบของการคว่ำบาตร ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้น
หน่วยงานเหล่านี้ได้เตือนกระดานเทรด Crypto ห้ามไม่ให้พวกเขาเปิดบริการในประเทศที่ถูกคว่ำบาตร ซึ่งรวมถึงรัสเซีย บางรายได้ปฏิบัติตาม เช่น Binance ซึ่งได้ทำการปิดหลายบัญชีที่เชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รายอื่นๆ มีการต่อต้านเล็กน้อย โดย Kraken กล่าวในเดือนมีนาคม 2022 ว่าพวกเขาจะไม่แบนผู้ใช้งานที่ไม่ได้ถูกคว่ำบาตร
การแฮ็กหน่วยงาน Crypto ของเกาหลีเหนือยังได้รับความสนใจจากหน่วยงานของรัฐ รวมถึงกระทรวงการคลังสหรัฐฯ พวกเขาได้แบนที่อยู่ ETH 3 รายการที่ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือในเดือนเมษายน 2022
สหภาพยุโรปก็ยังเร่งรัดเรื่องกฎระเบียบ
สหรัฐฯ ไม่ใช่ภูมิภาคหลักเพียงแห่งเดียวที่ต้องการจะเข้าควบคุมตลาด Crypto สหภาพยุโรป (EU) ยังได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อป้องกันเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและเพื่อรับประกันการคุ้มครองผู้ลงทุน
ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้ข้อสรุปในกฎระเบียบที่ครอบคลุมสำหรับอุตสาหกรรม Crypto เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 ส่งผลให้บริษัทกระดานเทรด Crypto จำนวนมากเริ่มเตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อการดำเนินการในภูมิภาคนี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
