BAB-NFTs คือ token ประเภท Soulbound ใช้สำหรับ KYC ผู้ใช้งานกระดานเทรด Binance NFTs นี้จะไม่สามารถส่งมอบได้เพราะจะถูกฝั่งอยู่ในกระเป๋าของผู้ใช้งาน
Binance เปิดตัว Binance Account Bound Token (BAB) หรือการฝัง NFTs ในกระเป๋าบน BNB Chain เพื่อตอบโจทย์เงือนไขการ KYC NFTs ตัวนี้จะบันทึกกิจกรรมต่างๆ บนกระเป๋า ทั้งการใช้งาน Dapps และการส่ง smart contract ต่างๆ
โทเค็น BAB สามารถใช้งานได้ร่วมกับโปรโตคอลอื่นได้เช่นกัน ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะทำ KYC ด้วยรูปแบบ Soulbound Token หรือในรูปแบบดั่งเดิม
BAB-NFTs อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
การถือครอง BAB เป็นเพียงการระบุตัวตน ว่าผู้ใช้งานกระเป๋านั้นๆ ผ่านระบบ KYC ของ Binance ซึ่งมันจะไม่แสดงข้อมูลที่มากไปกว่านั้น และไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวเหรียญนี้อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และอาจมี BAB Token ประเภทอื่นๆ ตามมาในอนาคต Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance กล่าวว่า
“Soulbound Tokens จะมีบทบาทที่สำคัญในการแสดงหลักฐานสำคัญต่างๆ บนโลก Web3 หรือในสังคมแบบกระจายศูนย์ (decentralized society) เราเห็นความเป็นไปได้มากมายในการใช้งาน BAB token และเรามุ่งหน้าเพื่อร่วมพัฒนากับชุมชนต่างๆ ในการปฎิวัติวงการนี้”
Soulbound Token จำเป็นต่อ Decentralized Society
BAB Token ไม่ใช่ Soulbound Token แรก แต่มันเป็น NFTs ประเภทนี้ชิ้นแรกบน BNB Chain ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Phala Network ได้เปิดตัว Soulbound Token ไปก่อนหน้าแล้ว โดยมันทำหน้าที่เป็น คุณสมบัติของตัวละครในเกม Metaverse บนโปรเจค PhalaWorld
อีกบริษัทหนึ่งคือ Idexo ที่ได้ประกาศสนับสนุนเทคโนโลยีนี้ บน Web3 ของเขา พร้อมอำนวยความสะดวกในการทำ SDK ที่นักพัฒนาสามารถสร้างเหรียญของเขาบนโปรเจคได้ด้วย “โค้ดเพียงบรรทัดเดียว”
โลก NFTs นั้นเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งแม้จะอยู่ในช่วงตลาดคริปโตขาลง การหาคุณค่าจากเทคโนโลยีนี้และใช้ประโยชน์จากมัน คือ จุดมุ่งหมายหลักของชุมชน NFTs Vitalik Buterin เป็นอีกคนหนึ่งที่กล่าวเสริมว่า Soulbound Token ถูกสร้างขึ้นเพื่อ Decentralized Society โดยเฉพาะ
สิ่งที่ควรจับตามอง คือ Soulbound Token จะเป็นส่วนสำคัญสำหรับ NFTs ในอุตสาหกรรม blockchain หรือไม่ แต่แน่นอนสำหรับ Binance พวกเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นส่วนหลักได้ด้านการกำกับดูแลและ KYC สำหรับแนวทางการทำงานของ Binance
ทว่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 การทำ KYC ทำให้ Binance สูญเสียลูกค้าไปแล้วกว่า 90% นับเป็นการสูญเสียโอกาสไปกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ