Crypto.com และ DataMesh บริษัท Fintech ของออสเตรเลียประกาศโซลูชันการชำระเงินที่ปรับขนาดได้เป็นครั้งแรกภายใต้ความร่วมมือครั้งใหม่เพื่ออนุญาตให้ชำระเงินในชีวิตประจำวันด้วย Crypto ได้**
ความร่วมมือนี้มีขึ้นเพื่ออนุญาตการชำระเงินแบบดิจิทัลสำหรับการซื้อในร้านค้าบางแห่งในออสเตรเลียโดยไม่จำเป็นต้องแปลงเงินทุนเป็นเงิน Fiat (สกุลเงินทั่วไป) อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเฝ้าระวังหลักทรัพย์ได้ออกคำเตือนใหม่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ Crypto รายใหญ่และการขาดกฎระเบียบเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
ความร่วมมือเป็นผลมาจากความต้องการภายในประเทศ
มีรายงานว่า การเป็นหุ้นส่วนระหว่าง Crypto.com และ DataMesh นั้นเป็นผลมาจากความต้องการของนักเทรดรายย่อยและสถาบันที่เพิ่มสูงขึ้น
แถลงการณ์กล่าวเน้นย้ำว่า “ลูกค้าที่ถือกระเป๋าเงิน Crypto.com สามารถซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันได้ เช่น น้ำมัน กาแฟ และแซนด์วิชจากสถานีเชื้อเพลิงและร้านสะดวกซื้อ OTR 175 แห่งทั่วทั้งวิกตอเรีย เซาท์ออสเตรเลีย และเวสเทิร์นออสเตรเลียโดยการใช้ Crypto เพียงแค่ใช้แอพ Crypto.com เพื่อสแกน QR Code บนโทรศัพท์ของพวกเขา”
ในขณะเดียวกัน Peregrine Corp เจ้าของสถานีเชื้อเพลิง OTR วางแผนที่จะขยายขีดความสามารถไปยังร้านค้าปลีกอีก 250 แห่งทั่วประเทศ รวมไปถึงร้าน Krispy Kreme บางแห่งอีกด้วย
Karl Mohan ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ Crypto.com ในเมลเบิร์น กล่าวว่า ออสเตรเลียพร้อมสำหรับการปฏิวัติสกุลเงินดิจิทัล โดยกล่าวเสริมว่า “การศึกษาข้อมูลล่าสุดของเราแสดงให้เห็นว่า 55% ของทั้งร้านค้าและผู้บริโภคต้องการทำธุรกรรมด้วย Crypto และต้องการนวัตกรรมนี้ภายในร้านค้า OTR ซึ่งจะนำความทะเยอทะยานเหล่านี้มาสู่ชีวิตประจำวัน และสร้างความมั่นใจว่าออสเตรเลียนั้นอยู่ในแถวหน้าของวิวัฒนาการในการชำระเงินด้วย Crypto”
บริษัทอ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจโดยบริษัทวิจัยอิสระ PureProfile ซึ่งระบุว่าความต้องการและอุปสรรคของ Cryptocurrency นั้นคือการใช้เป็นการชำระเงินในชีวิตประจำวัน จากการสำรวจพบว่า ภายใน 1 ปี ร้านค้า 1 ใน 3 กล่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะรับการชำระเงินด้วย Cryptocurrency แล้ว ในขณะที่ 60% จะพร้อมภายใน 3 ปี
Mark Nagy ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของ DataMesh Group กล่าวว่า “เราทราบดีว่าร้านค้ากำลังต้องการทางเลือกอื่นๆ ในการชำระเงิน รวมถึง Crypto ที่จะเป็นโอกาสในการเป็นกระแสในการชำระเงินที่หลากหลายและช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบการผสานรวมความสามารถในการประมวลผลที่จะทำให้การชำระเงิน Crypto รวดเร็วและเข้าถึงได้สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง”
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังหลักทรัพย์ของออสเตรเลียกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเป็นเจ้าของ Crypto ในประเทศนั้นเป็น “กรณีที่ชัดเจนสำหรับกฎระเบียบ”
ASIC ยังคงผลักดันกฎระเบียบต่อไป
การสำรวจข้อมูลจากนักลงทุนรายย่อย 1,053 รายที่จัดทำขึ้นในเดือนพฤศจิกายนโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) พบว่า Crypto นั้นกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตามหลังกลุ่มสินทรัพย์ประเภทตราสารทุนในตลาดภายในประเทศมาติดๆ
จากจำนวน 44% ของนักลงทุนรายย่อยที่ถือ Crypto ประมาณ 25% ถือมันเป็นการลงทุนเดียวของพวกเขา ผู้ทำการสำรวจระบุ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ASIC เน้นย้ำว่าผู้คนหันมาใช้วิดีโอ YouTube และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพื่อดูข้อมูลมากขึ้น กล่าวคือพวกเขาเลือกศึกษาข้อมูลจากเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ (เหล่าผู้สร้างผลงานบนสื่อโซเชียล) มากกว่าที่ปรึกษาทางการเงินที่เชี่ยวชาญในการตัดสินใจลงทุนทางดิจิทัลเหล่านี้
Joe Longo ประธาน ASIC กล่าวว่า “จากการที่นักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมากเข้ามาในตลาดการเงิน ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้เราเกิดความเข้าใจในนักลงทุนรายย่อย และช่วยให้เราพิจารณาได้ว่าการกำกับดูแลของเราจะเป็นไปในทิศทางใด”
โปรเจกต์การศึกษาข้อมูลหนึ่งปีเกี่ยวกับประโยชน์และข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ได้รับการประกาศออกมาก่อนหน้านี้โดยธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA)
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ