จากการแถลงการณ์ที่ เผยว่า SALT New York 2022 Abra อยู่ระหว่างการเปิดตัว Abra Bank และ Abra International
Abra Bank ตั้งเป้าที่จะเป็นธนาคารที่ได้รับการควบคุมแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยลูกค้าจะสามารถฝากเงินและทําธุรกรรมโดยใช้คริปโตเคอเรนซีได้ ในขณะที่ Abra International วางแผนที่จะเป็นนิติบุคคลระดับโลกที่ให้บริการเหล่านี้
“Abra Bank จะเป็นธนาคารชาร์เตอร์แห่งแรกที่ดําเนินการโดยรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นธนาคารเต็มรูปแบบ และไม่ใช่ทรัสต์ โดยดำเนินการในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปิดใช้สำหรับการซื้อขาย การดูแล การลงทุน NFT บัตรเครดิต และอื่นๆ อีกมากมาย” Bill Barhydt เขียนแจกแจงรายละเอียด
ธนาคารแห่งนี้ ซึ่งมีกําหนดจะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2023 จะเปิดโอกาสให้สําหรับนักลงทุนรายสถาบันและ บุคคลธรรมดาที่ได้รับการรับรอง ทั้งนี้ ข้อกําหนดข้างต้นจะมีผลจนกว่า Abra Bank จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่หน่วยงานในสหรัฐอเมริกากําหนดให้นักลงทุนได้รับการรับรอง Abra International จะสามารถเข้าถึงได้โดยผู้ใช้งานทุกคน โดยจะมี “ใบอนุญาตที่คล้ายกันสําหรับผู้ใช้งานที่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน” โดยจะออกให้ใช้งานในเดือนตุลาคม
บริษัทยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า Abra Boost ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ “นักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการฝากเงินและรับดอกเบี้ยจากสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขา” ตลอดจนรับดอกเบี้ยและถือหุ้นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการในวันที่ 3 ต.ค.
เกี่ยวกับ Abra
Abra เปิดตัวในปี 2014 โดย Bill Barhydt อดีตนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ซึ่งปัจจุบัน แอ็ปพลิเคชันดังกล่าวเป็น “แอ็ปที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานเข้าถึงรายได้ ดอกเบี้ยการซื้อการขาย และการซื้อขายโดยใช้เงินดิจิทัล”
ในปี 2021 บริษัทระดมทุนได้ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐสําหรับการขยายธุรกิจไปทั่วโลก รอบนี้นําโดย Ignia
และ Blockchain Capital
บริษัทได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “บริษัทเทคโนโลยี 25 อันดับแรกที่น่าจับตามองในปี 2018” ใน The Wall Street Journal ในปี 2018 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพมูลค่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐแห่งต่อไปโดย Forbes ในปี 2021
ความปั่นป่วนของตลาด
แถลงการณ์ของ Abra เผยแพร่ในช่วงเวลาที่บริษัทคริปโตหลายแห่งกําลังดิ้นรนเพื่อให้กิจการยังดำเนินต่อไปได้
แพลตฟอร์มเช่น Voyager Digital และ BlockFi ประสบกับความปั่นป่วนในช่วงที่ตลาดล่ม ซึ่งเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมและดูเหมือนว่าจะดําเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้ รูปแบบธุรกิจของ Voyager Digital ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ประสบความสําเร็จและผิดกฎหมาย โดยอิงจากคดีที่ลูกค้ายื่นฟ้อง ในขณะที่ BlockFi ต้องได้รับการประกันตัวจากแพลตฟอร์มคริปโต FTX เพื่อดําเนินกิจการต่อไป
บริษัทที่มีชื่อเสียงเช่น Coinbase, Kraken, Crypto.com Bitpanda ต้องเลิกจ้างพนักงานหลายร้อยคน ทั้งยังต้องหยุดการจ้างงานเพิ่มเติมและปรับโครงสร้างทางการเงินของพวกเขา
สําหรับข่าวล่าสุดของ Be[In]Crypto คลิกที่นี่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ