การเปิดตัว iOS 17 ของ Apple ได้ทำให้นักการตลาดและนักโฆษณาในสายงาน Crypto ตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่อยู่ภายใต้ความน่าหลงใหลจากนวัตกรรมใหม่ในครั้งนี้ คือการที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น
แต่การอัพเดต iOS ในครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการทำโฆษณา Web3 ไปอย่างไรบ้าง?
คุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวของ Apple iOS 17
หัวใจสำคัญของคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวของ iOS 17 อยู่ที่การที่ Apple ตัดสินใจที่จะลบพารามิเตอร์การติดตาม URL จากแอปต่างๆ หลังการใช้งาน ซึ่งรวมไปถึงเมล์ ข้อความ หรือแม้แต่การชมเว็บแบบส่วนตัวของ Safari เองก็ตาม
“เราโฟกัสในการทำให้ผู้ใช้งานของเราสามารถควบคุมข้อมูลความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการให้บริการคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม และมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ดีที่สุดในโลก แนวทางนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากคุณสมบัติต่างๆ บนแพลตฟอร์มของเรา เช่น การอัพเดตครั้งใหญ่ของ Safari Private Browsing เช่นเดียวกับการขีดความสามารถของโหมด Lockdown”
Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว
ในอดีตที่ผ่านมา นักโฆษณา Web3 จะใช้พารามิเตอร์การติดตาม URL เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของผู้บริโภคจากเว็บไซต์ต่างๆ หลังจากที่ได้คลิกลิงก์ไปแล้ว วิธีการนี้จะช่วยให้พวกเขาได้รับข้อมูลที่ล้ำค่ามาเพื่อสร้างกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่: กลยุทธ์ทางการตลาดบน Web3 สำหรับโปรเจกต์บล็อกเชน!
ด้วยคุณสมบัติ Link Tracking Protection ของ iOS 17 ข้อมูลที่สามารถใช้ระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้ใน URL เหล่านี้จะหายไป แต่สำหรับผู้บริโภคแล้ว ลิงก์เหล่านี้จะยังคงทำงานได้ตามปกติ คุณสมบัติที่อัพเดตใหม่อาจจะเป็นสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางที่นักโฆษณาในสายงาน Crypto ใช้ในการตรวจสอบการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน รวมไปถึง การประเมินผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาด ด้วยเช่นกัน
Rae Guimond ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของ PriceSpider เชื่อว่า ความต้องการในความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของผู้บริโภคจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ ทั่วโลกจึงเริ่มปรับตัวเข้าหาเรื่องการปกป้องข้อมูลที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
“บริษัทต่างๆ เข้าใจแล้วว่าผู้บริโภคต้องการความเป็นส่วนตัว พวกเขาต้องการอำนาจในการควบคุมข้อมูลของพวกเขากลับคืนมา”
Rae Guimond ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของ PriceSpider กล่าว
อย่างไรก็ตาม ความต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น คือสิ่งที่ทำให้เกิดความท้าทายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ต่อนักการตลาดสาย Crypto และ Web3 ที่ซึ่งคุ้นเคยกับการรวบรวมข้อมูลที่หลากหลายมาเพื่อใช้ในการสร้างกลยุทธ์การตลาด
ผลกระทบที่มีต่อการทำโฆษณา Web3
มีบางเรื่องที่เราสามารถเปรียบเทียบได้ระหว่าง iOS 17 และเวอร์ชั่นก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น iOS 14.5 เปิดตัว App Tracking Transparency ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลสำหรับนักโฆษณา Web3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำการตลาดผ่านทางอีเมล (Email Marketing)
และใน iOS 17 ภาคส่วนของการโฆษณา Web3 อาจจะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักการตลาดสาย Crypto ที่ต้องพึ่งพาพารามิเตอร์การติดตาม URL เป็นอย่างมาก
“บริษัทเป็นจำนวนมากทำการส่งข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของตน ซึ่งหมายความว่า การอัพเดตในครั้งนี้อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้พอสมควรเลยทีเดียว”
Charles Manning ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Kochava กล่าว
อย่างไรก็ตาม Brian McKenna รองประธานของ DMi Partners มองเห็นถึงความหวังอยู่เล็กน้อย การวิเคราะห์ในเบื้องต้นของเขาแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบต่อการทำการตลาดผ่านทางอีเมลอาจจะมีไม่มากเท่าที่ควร สิ่งที่สำคัญคือการทำความเข้าใจว่า พารามิเตอร์ URL ตัวไหนที่ iOS 17 จะลบออกไป และค้นหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะสูญเสียข้อมูลดังกล่าว
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่: Web3 Marketing Agency ที่ดีที่สุด 6 ราย ที่จะช่วยโปรโมทโปรเจกต์คริปโตของคุณได้!
อีกหนึ่งในกลยุทธ์ของ Apple ในการป้องกันการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานอย่างลับๆ คือการประกาศห้ามแอปต่างๆ ในการใช้งาน “Fingerprinting” (การตรวจสอบลายนิ้วมือ) ซึ่งบริษัทต่างๆ ใช้เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานผ่านสัญญาณจากอุปกรณ์
เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ Apple บังคับให้นักพัฒนาแอปปรับการใช้งาน Application Programming Interfaces (API) ให้เหมาะสม ผู้ที่ไม่สามารถให้เหตุผลที่เหมาะสมในการใช้งานคุณสมบัติดังกล่าว ก็จะมีความเสี่ยงที่แอปของพวกเขาจะถูกลบออกจาก App Store วิธีการนี้เป็นการขัดขวางไม่ให้นักการตลาดสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานอย่างลับๆ ได้อีกต่อไป
“ถึงจะรวมเอาระบบ Cookies ที่เลิกใช้งานกันไปแล้ว และ โซลูชั่นความเป็นส่วนตัวที่กำลังเร่งดำเนินการ ข้อมูลที่ใช้เพื่อการวิเคราะห์และวัดผลที่ Apple และ Google ให้มานั้นก็ยังไม่ครอบคลุมมากพอที่จะช่วยให้เราทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจากแคมเปญทางการตลาดโดยไม่มีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม สำหรับนักโฆษณาที่ยังคงต้องพึ่งพาข้อมูลผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง นี่คืออีกหนึ่งในปัญหาสั่งสมที่จะทำให้การวัดผลทำได้ยากยิ่งขึ้น”
Michael Monaco รองประธานอาวุโสของ Kepler กล่าว
ปรับตัวกับมาตรฐานแบบใหม่
ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ Apple ก็ไม่ปล่อยให้หนทางของผู้ลงโฆษณามืดมิดไปเสียทั้งหมด พวกเขากำลังปรับปรุงโซลูชั่น Private Click Measurement ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับการระบุแหล่งที่มาของโฆษณาที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว
คุณสมบัตินี้ — ซึ่งมีให้ใช้งานสำหรับ Safari Private Browsing — อาจจะช่วยบรรเทาความยุ่งยากให้กับนักโฆษณา Crypto และ Web3 ที่ต้องการเชื่อมโยงข้อมูลที่ขาดหายไปเข้าด้วยกัน
Guimond เชื่อว่า เมื่อความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น นักการตลาดก็จะต้องดำเนินการในเชิงรุกมายิ่งขึ้นเช่นกัน เธอเสนอให้ทำการรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง โดยขอความยินยอมจากผู้ใช้งาน และประเมินความถี่ในการใช้งานข้อมูลจากบุคคลที่สาม Guimond ยังแนะนำให้ทำการ SWOT Analysis อย่างครอบคลุมเพื่อปรับตัวกับความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่: Web3 Lead Generation: คู่มือฉบับสมบูรณ์
ท้ายที่สุดแล้ว ความสามารถในการปรับตัวและความคล่องตัวคือสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องที่จะกลายมาเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการทำโฆษณา Web3
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ