Arthur Hayes มองสถานการณ์โดยรวมในปัจจุบันของอุตสาหกรรมคริปโตว่า การปราบปรามในสหรัฐส่งผลต่อรายย่อยเท่านั้น และสถานการณ์ใน “จีน” นั้นสำคัญกว่าและอาจเป็นจุดกำเนิดของ Bull Run ครั้งต่อไป
การบังคับใช้กฎระเบียบอย่างต่อเนื่องกำลังผลักดันธุรกิจ crypto ในสหรัฐออกนอกประเทศ แน่นอนว่ามันเป็นนัยของการเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญที่สร้างความกังวลต่อนักลงทุนจำนวนมาก และนำไปสู่ราคาคริปโตโดยรวมที่ลดลง
แต่ Hayes มองว่า การปรามปราบครั้งนี้ส่งผลต่อรายย่อยมากกว่า และในระยะยาวมันไม่ได้มีผลมากนักต่อสถานการณ์โดยรวม เขามองว่าสถานการณ์ในจีนตอนนี้ต่างหากที่สำคัญและควรจับตามอง
การปราบปรามไม่ส่งผลต่อรายใหญ่ใน US
ในบล็อกโพสต์ล่าสุด Hayes อดีต CEO ของ BitMEX กล่าวว่านักลงทุนรายย่อยที่ขาย crypto เพราะสถานการณ์ในสหรัฐอเมริกานั้น ไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดนักเพราะจริงๆ แล้วการปราบปรามครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเงินทุนในตลาดเท่าใดนัก
“ในทางกลับกัน เงินทุนของรายใหม่หรือคนรวยนั้นมีเยอะกว่ารายย่อยทั้งหมดมาก และมันเคลื่อนย้ายไปมาได้ทั่วทั้งโลกไม่ว่าคุณจะเป็นคนอเมริกันหรือไม่ เงินที่ไหลเวียนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหรัฐ และเศรษฐีชาวอเมริกันก็สามารถเคลื่อนย้ายเงินทุนผ่านตัวกลางได้ทั่วโลกตราบใดที่พวกเขาจ่ายค่าคอมมิชชั่น”
Hayes เสริมว่า เงินทุนที่มีนัยยะนั้นเป็นของประชากรเพียง 1% แรกที่เป็นผู้ถือครองความมั่งคั่งส่วนใหญ่ในอเมริกา เงินจำนวนนี้จะถูกนำไปใช้ใน “สินทรัพย์ถาวรและร้านค้ามูลค่าในรูปแบบต่างๆ รวมถึง Bitcoin” หากรัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจพิมพ์เงินออกมาใหม่ อีกรอบ เงินของคนเหล่านี้ต่างหากที่ส่งผลต่อตลาดโดยรวม ไม่ใช่รายย่อยและเงินเหล่านี้กำลังจะถูกย้ายไปที่อื่น
“จีน” จะกลายเป็นจุดศูนย์รวมใหม่
แม้ว่าจีนจะสั่งแบน cryptocurrencies แต่นักลงทุนและเงินส่วนใหญ่ก็กำลังกลับมาอย่างช้าๆ ผ่านทาง “ฮ่องกง” เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของรัฐ (SFC) เริ่มรับคำขอใบอนุญาตแพลตฟอร์มการซื้อขาย crypto แล้ว
ผู้ร่างกฎหมายของฮ่องกงได้เชิญ Coinbase ในซานฟรานซิสโกให้มาลงทะเบียนในภูมิภาคนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานว่าหน่วยงานการเงินของฮ่องกงได้กดดันสถาบันการเงินรายใหญ่ เช่น – HSBC, Standard Chartered และ Bank of China – ให้ยอมรับลูกค้า crypto
พวกเขากำลังปูพรมแดงอ้าแขนรับกระดานแลกเปลี่ยน crypto ทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับการตรวจสอบด้านกฎระเบียบในฝั่งตะวันตก และนี่เป็นเหตุผลที่ Hayes มองว่าเงินทุนสถาบันยักษ์ใหญ่จากสหรัฐจะไหลเข้าสู่จีนผ่านทางฮ่องกงแทนและเกิด Bull Run ขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ