ในประเทศจีน ประชาชนได้หันไปใช้ NFT ที่เก็บไว้ในบล็อกเชนโดยใช้ Arweave เพื่อบันทึกช่วงเวลาของการระบาดครั้งใหญ่และสื่อที่เซ็นเซอร์อื่นๆ
Arweave ซึ่งเป็นโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลบนบล็อกเชน เป็นบล็อกเชนรูปแบบใหม่โดยอิงจากกฎของมัวร์เรื่องต้นทุนการจัดเก็บข้อมูลที่ลดลง ผู้ใช้งานจ่ายเงินล่วงหน้าสำหรับพื้นที่จัดเก็บหนึ่งร้อยปีซึ่งมีมูลค่าต่ำกว่าหนึ่งเซ็นต์ต่อเมกะไบต์ และดอกเบี้ยที่สะสมไว้จะครอบคลุมต้นทุนการจัดเก็บที่ลดน้อยลงตลอดไป ปัจจุบันมีการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า 1 ล้านชิ้นบน Permaweb โดยมีประมาณ 200 แอพที่พัฒนาแล้ว
สำหรับชาวจีนจำนวนมาก การใช้บล็อกเชนเพื่อบันทึกช่วงเวลาที่ไม่อาจจะลืมได้จากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ได้กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม 2020 พวกเขาระดมทุน 8 ล้านดอลลาร์จาก Andreessen Horowitz, Coinbase Ventures และ Union Square เพื่อช่วยต่อสู้กับการปิดบังข้อมูลการระบาดครั้งใหญ่ของรัฐบาล
แม้ว่าคอลเลกชัน NFT หลักๆ ซึ่งรวมไปถึง BAYC และ CryptoPunks จะขายได้อย่างแน่นอน แต่รูปโปรไฟล์กลับมีความสำคัญเพียงเล็กน้อยต่อพลเมืองจีนเหล่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่รุนแรงในเมืองใหญ่บางแห่งของจีน
“ความเจ็บปวดของเราควรได้รับการจดจำ” Dereck Yi ทนายความจากบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ซึ่งรับผิดชอบในการผลิต NFT หลายตัวกล่าว NFT ส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนใน OpenSea นั้นขายในราคาที่ต่ำมาก เนื่องจากคุณค่าของ NFT ไม่ได้อยู่ที่คุณค่าทางศิลปะ แต่อยู่ในสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า
“ความทรงจำไม่ได้มีไว้ขาย” Yi กล่าว คลิปวิดีโอขอความช่วยเหลือที่เรียกว่า “Voices of April” ถูกสร้างขึ้นโดยคนหลายคน ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างพยายามบันทึกคลิปบนแพลตฟอร์มดังกล่าวซึ่งเป็นฮาร์ดไดรฟ์บนบล็อกเชนที่บันทึกข้อมูลอย่างไม่เปลี่ยนแปลงตลอดไป
Content Creator มากมายเข้าร่วม Arweave
ในความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปกปิดข้อมูล ผู้ผลิตเนื้อหาหลายๆ รายได้หันมาใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวเพื่อสำรองพอดแคสต์และโพสต์ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้บน Weibo
ผู้เผยแพร่ชาวจีนรายหนึ่งใช้บล็อกเชนเพื่อจัดเก็บบทความที่เขียนโดยนักเขียน 100,000 คนอย่างถาวร
ในทำนองเดียวกัน LikeCoin มีปลั๊กอิน WordPress เพื่อรักษาเนื้อหาเอาไว้
“ถ้าคุณมีบทความ ตราบใดที่คุณคิดว่ามันสำคัญพอที่จะเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ของมนุษย์อย่างถาวร คุณก็ทำได้” Kin Ko ผู้ก่อตั้ง LikeCoin กล่าว
เทคโนโลยีของ Ko เคยถูกใช้โดยชาวฮ่องกงที่ต้องการเก็บรักษาเนื้อหาจาก Radio Television Hong Kong การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากการประกาศโดยบริษัทผู้แพร่ภาพกระจายเสียงแจ้งว่าจะเริ่มลบเนื้อหาที่มีอายุเกิน 1 ปี
ย้อนกลับไปในปี 2019 ภาพวิดีโอของการโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงทำให้ความเชื่อมั่นของสาธารณชนในการบังคับใช้กฎหมายลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อหาวิดีโอถูกตั้งข้อหาทางการเมืองและเพิ่มโอกาสที่มันจะถูกลบออก
สุดท้ายแล้ว การใช้เทคโนโลยีของ Ko เพื่อเก็บรักษาเนื้อหาต่างๆ กลายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
สถานที่จัดเก็บหลายแห่งเป็นกุญแจสำคัญในการเก็บรักษา
ในกรณีส่วนใหญ่ NFT จะมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่จัดเก็บออนไลน์ของสินค้ามากกว่าตัวสินค้าเอง หากเนื้อหาถูกลบออกจากตำแหน่งจัดเก็บที่ NFT ชี้ไป การคลิกลิงก์ใน NFT จะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด “Not Found” 404
ผู้เชี่ยวชาญของ MIT จาก Digital Currency Initiative กล่าวว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาเนื้อหาคือการสร้างความซ้ำซ้อนให้เพียงพอ “ดังนั้น หากมีคนต้องการนำเนื้อหาออก พวกเขาจะต้องไปหาทุกคนที่โฮสต์สำเนาเหล่านั้น” Neha Narula กล่าว
LikeCoin ใช้ Arweave เพื่อจัดเก็บไฟล์มีเดียในหลายๆ ตำแหน่ง ทำให้เนื้อหาท้าทายต่อการปิดบังข้อมูล แต่จะค้นหาตำแหน่งได้ง่ายขึ้นโดยใช้ระบบไฟล์ InterPlanetary (IPFS)
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ