ถึงแม้ว่าจะมีพัฒนาการในเชิงบวกในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ตลาด Crypto ก็ยังคงประสบกับความยากลำบากในระดับปานกลาง จากการที่ราคาของ Bitcoin (BTC) แตะระดับต่ำสุดในปี 2022 Ethereum นั้นก็มีราคาลดลงอย่างมากเช่นกัน ถึงแม้ว่ามันพึ่งจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนไปใช้ Proof-of-Stake ก็ตาม
ราคาของ Bitcoin ลดลงมาต่ำกว่า 19,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ Ethereum ลดลงมาเหลือต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์ มูลค่าตลาดของ Crypto ก็ลดลงมาต่ำกว่า 950 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงถึง 6.4% เพียงในช่วงเวลา 24 เท่านั้น นี่ไม่ใช่สัญญานในเชิงบวกที่นักลงทุนต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้อดทนต่อ ‘ฤดูหนาวคริปโต’ มาอย่างต่อเนื่องในปี 2022
มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการไหลออกของเงินทุน เนื่องจากมันเกิดเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่อาจจะส่งผลให้เกิดราคาที่ตกต่ำ มีการพูดคุยกันอย่างมากสำหรับ Ethereum ซึ่งได้มีช่วงเวลาที่สำคัญจากการเข้าสู่การอัพเกรด The Merge
ราคา Ethereum กลับมาต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์หลังจาก The Merge
ราคา ETH ที่ลดลงมาต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์นั้นอาจจะเป็นข่าวที่สำคัญมากกว่าการลดลงของราคา BTC เพราะสุดท้ายแล้ว หลายๆ คนคาดหวังว่าสินทรัพย์จะมีความเคลื่อนไหวของราคาในเชิงบวกหลังจาก The Merge อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยก็ในระยะสั้น
มีเหตุผลบางประการที่ดูเหมือนว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาของ ETH ลดลง ประการแรก Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. ก่อให้เกิดเสียงเซ็งแซ่หลังจากที่เขากล่าวว่า การเปลี่ยนไปใช้รูปแบบ Staking อาจจะทำให้ ETH กลายเป็นหลักทรัพย์ ยังไม่มีคำแถลงที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การถกเถียงในหัวข้อนี้ดำเนินไปอย่างดุเดือดมาซักระยะหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ มันยังมีข้อกังวลบางประการในเรื่องเกี่ยวกับการรวมศูนย์ เนื่องจากข้อมูลของ Santiment นั้นแสดงให้เห็นว่า กว่า 45% ของธุรกรรม Ethereum ถูกประมวลผลโดยกระเป๋าเงิน 2 ใบ นักวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นว่า flashbots ได้มีการถ่ายเทบล็อกของ Ethereum มากกว่า 82% หลัง The Merge
Fed ขึ้นดอกเบี้ย
มีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มระยะสั้นของตลาด Crypto และตลาดอื่นๆ นั่นก็คือความจริงที่ว่า มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้น
มีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอีก 75 Basis Points (1 BPS = 0.01%) ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความกระตือรือร้นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อในประเทศลง แต่ความเอาจริงเอาจังในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยก็ยังไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก มีการพูดคุยกันว่าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ไม่ช้าก็เร็ว
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ