Celsius ฟ้องร้อง Jason Stone และบริษัท KeyFi ของเขาต่อศาลพิจารณาคดีล้มละลายสหรัฐอเมริกาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางบริษัทกล่าวหาว่า Stone หลอกลวงโดยการอ้างว่าเป็นผู้นำในด้านบริการ coin staking และ DeFi
ด้านผู้ฟ้องร้องกล่าวว่า Stone และ KeyFi พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไร้ความสามารถในการทำกำไร ทำให้บริษัทสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการบริหารจัดการที่ล้มเหลว นอกจากนี้เขายังกล่าวหาอีกพวก KeyFi ไม่ใช่แค่ไร้ความสามารถแต่เป็น “โจร”
การฟ้องของ Stone ก่อนหน้านี้
Stone ซึ่ง KeyFi ถูกซื้อโดยเซลเซียสในปี 2020 ฟ้องเซลเซียสในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามสัญญา ในคดีความ KeyFi อ้างว่าเซลเซียสใช้เงินทุนของลูกค้าเพื่อ ลงทุนใน crypto แต่ล้มเหลวในการบริหารบัญชีขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นอันตรายต่อเงินฝากของลูกค้าและล้มเหลวในการปฏิบัติตามสัญญา”
ในเดือนเดียวกันนั้น เซลเซียสได้ยื่นขอคุ้มครองการล้มละลายในบทที่ 11 หนึ่งเดือนหลังจากที่บริษัทหยุดการถอนเงินและการแลกเปลี่ยนของลูกค้าทั้งหมด บริษัทอ้างถึงปัญหาด้านสภาพคล่องที่กระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแลจากแอละแบมา เคนตักกี้ นิวเจอร์ซีย์ เท็กซัส และวอชิงตันเปิดการสอบสวน
การฟ้องร้องกลับจาก Celsius
ฝ่ายเซลเซียสอ้างว่า Stone และ KeyFi ขโมยเหรียญหลายล้านดอลลาร์จากกระเป๋าเงินที่ควบคุมด้วยเซลเซียสและโอนไปยังกระเป๋าเงินที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ในคำฟ้องอ้างว่า Stone ใช้เหรียญที่โอนไปเหล่านั้นเพื่อซื้อ NFT หลายร้อยรายการ และส่งไปยังกระเป๋าเงินของตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น CryptoPunks, Bullrun Babes และโปรเจคอื่นอีกมกมาย นอกจากนี้ยังมีเงินบางส่วนที่พวกเขานำไปลงทุนต่อในบริษัทอื่นๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากบริษัท ทางบริษัทยังกล่าวหาอีกว่า Stone ได้ใช้งาน Tornado Cash เพื่อลบร่องรอยการทำธุรกรรมเหล่านี้ ซึ่งมีมูลค่าราว 1.4 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายน 2021
นอกจากข้อหาเรื่องการขโมยเงินนี้แล้ว ทางบริษัทยังฟ้องร้องอีกว่า Stone ทำให้บริษัทสูญเสียเงินกว่า 50 ล้านดอลลาร์ จากการบริหารการลงทุนที่ผิดพลาดใน DeFi ทำให้สถานะ ETH ที่เปิดไว้ถูก liquidate ไปในวันที่ 23 กุมภาพันธ์
ในการฟ้องร้องกลับ ทางบริษัทได้ขอให้ศาลอนุมัติคำขอหลายรายการ รวมถึงการมอบ “ทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้” คืนซึ่งมันอาจจะเป็นทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่ KeyFi ถือครองอยู่ ทางบริษัทกล่าวว่า KeyFi และ Stone มีพฤติกรรมที่ละเมิด และมีเจตนาที่มุ่งร้าย
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ