เศรษฐกิจของจีนเข้าสู่ภาวะ “เงินฝืด” เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin (BTC) ในระยะสั้น
นักวิเคราะห์ Marcel Pechman กล่าวว่าภาวะเงินฝืดในจีน จะทิ้งผลกระทบในระยะสั้นถึงระยะกลางต่อ Bitcoin สินค้าโภคภัณฑ์ และหุ้นที่พึ่งพาการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
“การถือสินทรัพย์เหล่านี้หรือหุ้นที่ขึ้นอยู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกหรือมีอัตราทดที่สูงเป็นเรื่องที่ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง” Pechman กล่าว
“เงินฝืด” ครั้งแรกในรอบ 2 ปี
เมื่อเดือนที่แล้ว จีนประสบกับภาวะเงินฝืดเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้แรงกดดันทางเศรษฐกิจที่จีนกำลังมีปัญหาและอาจเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ตามดัชนีราคาผู้บริโภคอย่างเป็นทางการ ราคาผู้บริโภคของจีน (CPI) ลดลง 0.3% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เมื่อไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 0.8% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 0.4% ในเดือนมิถุนายน
ปัญหารุมเร้า
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงเนื่องจากปัญหาต่างๆ ทั้งการส่งออกที่ลดลง อัตราการว่างงานของเยาวชนที่สูงเป็นประวัติการณ์ และตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซา โดยล่าสุด Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่เบอร์ 2 ของจีนก็เพิ่งยื่นล้มละลายไป
นอกจากนี้ จีนยังเผชิญกับราคาตกต่ำในหลายภาคส่วน รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น เหล็กและถ่านหิน ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ผักและเครื่องใช้
ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจอาจทำให้อุปสงค์ลดลงและภาระหนี้เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากกับดักเศรษฐกิจที่ยากจะหลุดพ้นจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเดิมๆ ที่ผู้กำหนดนโยบายของจีนใช้
ภาวะเงินฝืดก่อให้เกิดความเสี่ยงโดยเฉพาะสำหรับประเทศที่มีหนี้ในระดับสูง เช่น จีน เนื่องจากเงินฝืดจะเพิ่มต้นทุนในการชำระหนี้ และอาจขัดขวางการกู้ยืม การใช้จ่าย และการลงทุน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ