แม้ว่าเครือข่ายจะมีการกระจายอำนาจ แต่ Cloud Provider ผู้ให้บริการอาจไม่เป็นเช่นนั้น Solana ที่มีโหนดรันอยู่บน cloud จึงมีความกระจุกตัวสูง การแบนจากผู้ให้บริการจึงทำให้โหนดออฟไลน์ไปกว่า 40%
Solana ซึ่งภาคภูมิใจในตัวเองที่เป็นเครือข่ายป้องกันการเซ็นเซอร์แบบกระจายอำนาจ ไม่ต่างไปจากบล็อคเชนอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นอย่างมาก เป็นผลให้ยังคงมีความเสี่ยงต่อผู้ให้บริการแบบรวมศูนย์ เพราะเครือข่ายอาจหยุดให้บริการได้ตลอดเวลา
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว หนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายหลักของ Solana ตัดสินใจหยุดให้บริการแก่ผู้ที่ใช้โหนด Solana ทำให้โหนดเหล่านั้นออฟไลน์ทั้งหมด
โหนด 40% ออฟไลน์และนับเป็น 20% ของ Network State ทั้งหมด
Hetzner Online GmbH ผู้ให้บริการคลาวด์ที่แบนโหนด Solana ทั้งหมดทำให้ออฟไลน์ และต้องปิดโหนดมากกว่า 1,000 โหนดในชั่วข้ามคืน แม้ว่าหลายคนกำลังสำรองและใช้งานบริการของผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่เป็นคู่แข่งกัน แต่ก็ไม่มีการรับประกันว่าเหตุการณ์ที่คล้ายกันจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
การตัดสินใจของ Hetzner ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Solana มากพอที่จะทำให้เครือข่ายออฟไลน์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันก็มีผลกระทบเป็นอย่างมาก การทำให้กลไกฉันทามติของ Solana หยุดทำงาน หรือหยุดกิจกรรมทั้งหมดบนบล็อกเชน – สัดส่วนNetwork State ทั้งหมด 39% ของเครือข่ายจะต้องหายไป
การตัดสินใจของ Hetzner ทำให้เครือข่ายออฟไลน์ลดลง 20% และหากผู้ให้บริการหลักอีก 2 รายของ Solana คือ AWS และ Equinix ปิดโหนดจำนวน 65% ของจำนวนทั้งหมด ระบบก็จะหยุดทำงานอย่างแท้จริง
Hetzner Cloud Provider เคยแสดงจุดยืนด้านคริปโตมาก่อนแล้ว
แม้ว่า Hetzner จะไม่เตือนผู้รันโหนดก่อนที่จะออฟไลน์ แต่จุดยืนของบริษัทที่มีต่อบล็อคเชนนั้น ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อต้นปีนี้ ในโพสต์ Reddit บน subreddit อย่างเป็นทางการของผู้ให้บริการเครือข่าย โฆษกของบริษัทยืนยันว่า “ไม่อนุญาตให้รันโหนดบนแบนด์วิดท์ Hetzner”
“ไม่อนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราสำหรับแอปพลิเคชันใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขุดซึ่งรวมถึง Ethereum และห้ามการขุดทั้ง PoW และ PoS รวมถึงการซื้อขาย ทั้งหมดนี้ห้ามเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเรา แม้ว่าคุณจะรันเพียงโหนดเดียว เราก็ถือว่ามันเป็นการละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของเรา”
แม้ว่าการหยุดทำงานของโหนด Solana จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายถาวรกับเครือข่าย แต่เหตุการณ์นี้ควรเป็นการเตือนไปยังชุมชนว่าแม้ว่า blockchain จะได้รับการกระจายอำนาจ แต่ก็อาจยังคงต้องพึ่งพึงบุคคลที่ 3 อยู่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
