หลังจาก Blur เข้าสู่พื้นที่ NFT แพลตฟอร์มเจ้าตลาดอย่าง OpenSea ก็ถูกแย่งส่วนแบ่งทางตลาดไปในระดับหนึ่ง ปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของคู่แข่งครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อ OpenSea
ตามทวีตของ Delphi Digital สิ่งที่น่าสนใจในครั้งนี้คือ TVL ที่เติบโตอย่างมากของแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมี TVL สูง แต่ OpenSea ก็ยังคงมีผู้ใช้งานรายวันบนเครือข่ายมากขึ้นตามข้อมูล on-chain และมีผู้ใช้งานรายวันเยอะกว่ามาก
การเติบโตของ Blur อาจมาจาก Wash Trade
หนึ่งในเหตุผลอาจเป็นเพราะปริมาณการซื้อขายแบบ Wash Trade ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม ซึ่งนับเป็น 11% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด อ้างอิงจากข้อมูลของ Dune Analytics นั่นจึงเป็นที่มาของปริมาณการซื้อขายและ TVL ที่เพิ่มขึ้น แต่กลับมีผู้ใช้งานรายวันที่น้อยและไม่สัมพันธ์กัน
ณ ขณะที่เขียน OpenSea สามารถครอบครอง 46.1% ของตลาดการซื้อขาย NFT ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระบบนิเวศส่วน Blur เข้าอยู่ที่ 42.5% ของตลาดโดยรวม
แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่ทั้งสองตลาดก็มีการเติบโตในหลายภาคส่วน การเติบโตส่วนใหญ่ของพวกเขาอาจมาจากความสำเร็จและความต้องการของ NFT หมวด Bluechip อย่าง BAYC และ MAYC
การซื้อขาย NFTs ของ Apes
จากข้อมูลที่ได้รับจาก NFTGO ราคาเฉลี่ยของคอลเลกชัน MAYC เพิ่มขึ้น 10.73% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ที่น่าสนใจก็คือVolume การซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 222.79% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
แม้ว่าคอลเลกชัน NFT จะค่อนข้างคึกคักและมีการซื้อขายค่อนข้างมาก แต่เหรียญ APE โทเค็นดั้งเดิมของบริษัทกลับมีสภาพที่ไม่สู้ดีนัก
ในเดือนที่ผ่านมา ราคาโดยรวมของ APE ลดลงอย่างมาก แม้จะมีการเติบโตของเครือข่าย ซึ่งสามารถตีความได้ว่า ผู้ใช้งานใหม่ๆ ที่เข้ามาในเครือข่าย ไม่ได้สนใจเหรียญ APE จำนวนกระเป๋าที่ใช้งานประจำวันที่ถ่ายโอน APE ก็ลดลงในช่วงเวลานี้เช่นกัน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ