DeFi Protocol Osmosis (OSMO) หยุดการทำงานหลังจากเกิด “ข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง” ที่อาจจะนำไปสู่การขโมยเงิน 5 ล้านดอลลาร์จากกลุ่มสภาพคล่องของโปรโตคอลทางการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
ผู้พัฒนาหลักและผู้ตรวจสอบเครือข่ายได้หยุดการทำงานของเชนในช่วงเช้าของวันที่ 8 มิถุนายน
ข้อผิดพลาดนี้ได้รับการรายงานเป็นครั้งแรกโดยผู้ใช้งานใน Reddit ซึ่งเตือนว่าเมื่อมีคนฝากเงินไปยังกลุ่มสภาพคล่องและถอนออกทันที เหมือนว่ามูลค่าการถอนจะเพิ่มขึ้น 50%
โพสต์นั้นถูกลบโดยผู้ดูแลฟอรัมไปแล้ว แต่ไม่ใช่ก่อนที่ผู้ใช้งานจะทำการใช้บั๊กดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งทำเงินไปได้หลายล้านดอลลาร์ในสกุลเงินดิจิทัล
SponsoredOsmosis ทวีตว่า: “กลุ่มสภาพคล่องไม่ได้ถูก ‘สูบออกไปทั้งหมด’ ผู้พัฒนากำลังแก้ไขข้อผิดพลาด ตรวจสอบความสูญเสีย (ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และดำเนินการกู้คืน”
รายงานก่อนหน้านี้ได้ชี้ให้เห็นว่าข้อผิดพลาดดังกล่าวอาจจะทำให้กลุ่มสภาพคล่องถูกสูบออกไปทั้งหมด
Osmosis ระบุข้อผิดพลาดและแก้ไข
จากการอัพเดตในภายหลัง ทีมงานได้รายงานว่า “สามารถระบุข้อผิดพลาดได้แล้วและเริ่มทำการเขียนแพทช์เพื่อแก้ไข กำลังดำเนินการทดสอบเพิ่มเติมก่อนที่จะแนะนำให้ผู้ตรวจสอบประสานงานเพื่อการรีสตาร์ท” ในขณะที่เชนหยุดทำงาน Osmosis DEX และกระเป๋าเงินดั้งเดิมยังไม่สามารถใช้งานได้
Osmosis เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ (AMM) ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Cosmos ซึ่งช่วยให้สามารถทำธุรกรรมข้ามเชนได้ DefiLlama มันดำเนินการ Decentralized Exchange (DEX) ซึ่งมี TVL ประมาณ 212 ล้านดอลลาร์ ณ เวลาที่เชนถูกระงับ จากข้อมูลของ DefiLlama
ช่องโหว่ที่ร้ายแรงนี้เกิดขึ้นหลังจากการอัพเกรดซอฟต์แวร์ล่าสุดเป็นเครือข่าย Osmosis ซึ่งหมายถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ใน Discord มีรายงานว่าผู้ตรวจสอบบางคนเริ่มสร้างปัญหาหลังจากการอัพเกรด ซึ่งรวมไปถึง “บล็อกบางอันมักจะขาดหายไปเสมอ”
ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้ ราคาของ OSMO ลดลง 4.3% ที่ 1.08 ดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง โทเค็นร่วงลง 90% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 11.25 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม จากข้อมูลของ CoinGecko
