ตลาดหมี Crypto ทำให้เหล่า Scammer ต้องพัฒนากลยุทธ์ และพวกมันปรับตัวได้ดีกว่าที่เราจะจินตนาการได้ การศึกษานี้จัดทำขึ้นในการสัมมนาผ่านเว็บโดย Chainalysis
ทางบริษัทศึกษาพฤติกรรมขอนักต้มตุ๋นเพื่อประเมินแนวโน้มด้านอาชญากรรมในช่วงตลาดหมีของอุตสาหกรรมคริปโตที่ผันผวนสูง รายงานพบว่าส่วนใหญ่จะใช้กลยุทธ์การแจกของฟรีและกลลวงโรแมนซ์สแกม (Romance) ที่สามารถกวาดเงินจากกระเป๋าของเหยื่อได้
พฤติกรรมของ Scammer หลัง Terra ล่มสลาย
ตามรายงานของหัวหน้าฝ่ายวิจัยอาชญากรรมทางไซเบอร์ของบริษัท Eric Jardine การล่มสลายของ Terra ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้นักต้มตุ๋นเหล่านี้ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์
การล่มสลายของ Algorithmic Stablecoin และผลกระทบที่ตามมาทำให้นักลงทุนตื่นตระหนก ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงลังเลที่จะลงทุนในโครงการต่างๆ
เป็นผลให้การหลอกลวงให้ลงทุนไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เคยเป็นในช่วงตลาดกระทิง “การเล่นบทเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า” นั้นไม่สมเหตุสมผล และในช่วงเวลานี้เองที่นักต้มตุ๋นใช้วิธีหลอกล่อเหยื่อด้วยความโลภด้วยการหลอกลวง “แจกของฟรี และ โรแมนซ์สแกม”
ผู้บริหารกล่าวว่า
“สภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปทำให้การหลอกลวงผ่านลงทุนแบบเดิมไม่น่าจะได้กำไร พวกเขาพัฒนาไปใช้กลโกงอื่น ๆ ที่ใช้ความรู้สึกทางอารมณ์เป็นหลัก เพื่อออกอุบายต่างๆ”
การฉ้อโกงในปี 2021 -2022
รายได้โดยรวมจากการหลอกลวงสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากเกือบ 11 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เป็น 5.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022
รายได้จากการโจมตีแรนซัมแวร์ก็ลดลง 40.3% เป็นอย่างน้อย 456.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 จาก 765.6 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 แนวโน้มนี้บ่งชี้ถึง ความไม่เต็มใจในหมู่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่จะจ่ายเงินให้กับผู้โจมตีแรนซัมแวร์มากกว่าจำนวนความพยามในการแสวงประโยชน์ของแฮคเกอร์
อย่างไรก็ตาม มีการหลอกลวงอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม นั่นคือการหลอกลวงทางการตลาดที่ซับซ้อน อย่างโปรเจค Hyperverse แพลตฟอร์ม Metaverse ที่หลอกลวงผู้ใช้งานและขโมยเงินไปเกือบ 1.3 พันล้านดอลลาร์ โปรเจคนี้มีการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ บนโลกออนไลน์มากมาย
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ