กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DOJ) ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับชาวยุโรปสองคนจากบทบาทของพวกเขาในการประชุมบล็อกเชนของเกาหลีเหนือปี 2019
Alejandro Cao de Benos พลเมืองชาวสเปน และ Christopher Emms พลเมืองของสหราชอาณาจักร ทั้งสองคนได้รับ “คำฟ้องแทนที่” (คำฟ้องเพิ่มเติมที่ได้ทำการฟ้องในข้อหาที่มีความคล้ายคลึงกับข้อหาเดิมที่เคยมีการฟ้องไปแล้ว) จากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าทั้ง Cao de Benos และ Emms ถูกตั้งข้อหา “สมคบคิดในการละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ” ในเกาหลีเหนือโดยการให้บริการบล็อกเชนที่ผิดกฎหมาย
Emms ต้องการให้เจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือมุ่งความสนใจไปที่เทคโนโลยีบล็อกเชน เพราะมันมีความเป็นไปได้ที่จะ “โอนเงินข้ามประเทศใดๆ ในโลกได้โดยไม่คำนึงถึงมาตรการคว่ำบาตรหรือบทลงโทษต่อประเทศใดๆ“
เกาหลีเหนือได้เผชิญหน้าต่อการคว่ำบาตรจากความพยายามที่จะเพิ่มคลังอาวุธนิวเคลียร์ Griffith, Cao de Benos และ Emms ได้ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการนำเสนอเรื่องดังกล่าวในการประชุมบล็อกเชนของเกาหลีเหนือที่จัดขึ้นในปี 2019
ตามที่กระทรวงยุติธรรมให้ข้อมูล Emms และ Cao de Benos มีบทบาทที่สำคัญต่อการประชุม
DOJ อ้างว่าทั้งคู่นำเสนอกลยุทธ์ในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร
ประการแรก Cao de Benos ได้ชักชวน Virgil Griffith ผู้พัฒนา Ethereum และบอกเขาว่าหนังสือเดินทางของเขาจะไม่ถูกประทับตรา ทั้งสามคนได้ทำการนำเสนอต่อเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมไปถึงแผนในการสร้าง “สัญญาอัจฉริยะเฉพาะทาง” และกลยุทธ์ในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร
Virgil Griffith ถูกตัดสินจำคุก 63 เดือนสำหรับบทบาทของเขาในการประชุม หลังจากที่เขาสารภาพในข้อหาสมคบคิดในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ นอกจากไปการติดคุกแล้ว กริฟฟิธยังถูกปรับเงินเป็นจำนวน 100,000 ดอลลาร์อีกด้วย
หากดูจากการฟ้องร้อง Griffith แล้ว Emms และ Cao de Benos อาจจะต้องเผชิญกับบทลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้นสำหรับบทบาทของพวกเขา ทั้งคู่ยังคงไม่ถูกคุมตัวและอาจมีข้อพิพาททางกฎหมายบางประการที่ต้องทำ เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ
“สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้ระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากทั่วทั้งโลกที่มีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางเป้าหมายจากการเพิ่มการครอบครองนิวเคลียร์และความไม่เสถียรในภูมิภาค” ผู้ช่วยอัยการสูงสุด Matthew G. Olsen กล่าว
คำฟ้องนี้พร้อมกับความสำเร็จในการดำเนินคดีกับผู้สมรู้ร่วมคิด Virgil Griffith แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากระทรวงยุติธรรมจะควบคุมตัวใครก็ตามที่รับผิดชอบต่อการสมคบคิดกับเกาหลีเหนือเพื่อละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
พวกเขามีความกังวลเพิ่มขึ้นว่ารัสเซียอาจจะใช้ Cryptocurrency เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากการบุกรุกยูเครน
ความพยายามของสหรัฐฯ ในการระงับการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลโดยรัฐบาลรัสเซียได้ถูกดำเนินการด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจต่อเรื่องนี้ด้วย
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ