ประธานบริษัท Epic Games นาย Tim Sweeney แถลงว่าบริษัทไม่คิดจะแบน NFTs เพราะอยากให้อิสระกับนักพัฒนาและผู้ใช้ในการตัดสินใจว่าพวกเขาควรจะสร้างเกมส์อย่างไรด้วยตนเอง และจะไม่แทรกแซง
จากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม Mojang Studios กลุ่มนักพัฒนาเบื้องหลังเกมส์ Minecraft เลือกแบน NFTs เพราะพวกเขามองว่า มันมีมิติของการเก็งกำไรมากเกินไป พร้อมทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนที่อาจกีดกั้นการเข้าถึงของนักเล่นเกมส์ นอกจากนี้ การฉ้อโกงก็มีอยู่มาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นในการเล่นเกมส์
การตัดสินใจนี้ก็เกิดเป็นข้อถกเถียงอันร้อนแรงในชุมชนชาว NFT ในขณะเดี๋ยวกันก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของกลุ่มคนที่เคลือบแคลงต่อเกมส์คริปโต
NFTs Worlds ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเเบนโดย Minecraft
ผลกระทบต่อการตัดสินใจนี้ ส่งผลเป็นอย่างมากต่อโปรเจค NFT Worlds ซึ่งสร้างอยู่บนเซิฟเวอร์สาธารณะของ Minecraft โปรเจคนี้เป็นระบบ Play-to-earn (P2E) และสร้างอยู่บนระบบนิเวศน์ของคริปโตและ NFT อย่างเต็มตัว ปัจจุบันยอดขาย NFTs ของโปรเจคมีมากกว่า 51,000 ETH มูลค่ากว่า 80.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหลังจากการประกาศดังกล่าว ราคา Floor ร่วงลงจาก 3.33 ETH ไปสู่ 1.01 ETH นับว่าลดลงกว่า 70% และเหรียญโทเคน WRLD ได้ร่วงลงไปมากกว่า 55% หากบริษัทกำลังหาทางออกกับ Minecraft และหากไม่สำเร็จอาจต้องย้ายแพลตฟอร์มไปที่อื่น ที่มีระบบโครงสร้างคล้ายคลึงกัน
Epic Games เลือกให้อิสระกับนักพัฒนาเกมส์และผู้ใช้งาน
ถือว่าเป็นบริษัทเกมส์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จากการประสบความสำเร็จจากเกมส์ Fortnite เกมส์ battle royal ที่นับมีว่าส่วนประกอบของ Metaverse อยู่มาก แม้ว่าทางบริษัทจะไม่ได้ประกาศตัวสนับสนุนวงการคริปโต หรือ NFT แต่นาย Sweeney ก็เลือกที่จะไม่ห้ามหรือบีบบังคับผู้พัฒนาใดๆ แตกต่างจากท่าทีของ Minecraft
“นักพัฒนาควรได้รับอิสระในการสร้างเกมส์ และผู้ใช้งานทุกๆ ท่านก็มีอิสระในการเลือกว่าจะเล่นมันหรือไม่ เราเชื่อว่าในฐานะผู้สร้างเกมส์ หรือ ร้านค้า ไม่ควรแทรกแซงประเด็นนี้โดยการยัดเยียดมุมมองของตนเองให้กับลูกค้า บริษัทของเราไม่ทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน” Sweeney ตอบกลับความเห็นที่ของผู้ใช้ twitter ที่อยากให้เเบน NFTs
ในขณะเดียวกันผู้ใช้งาน Twitter นาม @Low5ive ถามกลับนาย Sweeney ว่า ถ้าหากสนับสนุน Free speech จริง ทำไมทางบริษัท ถึงมีนโยบายเซ็นเซอร์ความคิดเห็นที่มีเนื้อหาเกลียดชังและการเหยียด มันดูขัดแย้งกับสิ่งที่เขากล่าว นาย Sweeney ได้ตอบกลับว่า แม้ว่าทางบริษัทจะมีนโยบายนี้จริง แต่ NFT ไม่ได้อยู่ภายใต้นโยบายดังกล่าว
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ