Satoshi Nakamoto สร้าง Bitcoin (BTC) เพื่อให้เป็นเครื่องมือการชำระเงินอิสระ อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินยังคงมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมคริปโต และปัญหาทางเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบต่อมูลค่าคริปโตเช่นกัน ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงจากผลของการผิดนัดเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ดังนั้น BeInCrypto ขอให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาผลกระทบของการผิดนัดชำระใน Bitcoin และ Stablecoins
เกิดอะไรขึ้น
สหรัฐอเมริกาแตะเพดานหนี้ในเดือนมกราคม 2566 เพดานดังกล่าวเป็นขีดจำกัดของสภาคองเกรสในการกู้ยืมเงินที่รัฐบาลสามารถทำได้
Janet Yellen รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ คาดการณ์ในเดือนพฤษภาคมว่าสหรัฐฯ อาจผิดนัดชำระหนี้ได้ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 หากสภาคองเกรสไม่เพิ่มเพดานหนี้ ผลที่ตามมาของสถานการณ์นี้ไม่สามารถคาดเดาได้
Mark Zandi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Rating Agency กล่าวว่าการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ อาจทำลายระบบการเงินที่มีอยู่
ความคิดเห็นของเขาไม่ได้ถูกสมาทานในระดับสากล เช่น Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan ให้เหตุผลว่าทางการสหรัฐฯ จะไม่เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ