ผู้บริโภคชาวอเมริกันสูญเสียเงินไปกว่า 1 พันล้านดอลลาร์จากการฉ้อโกงที่มีความเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลในช่วงปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลรายงานล่าสุดจาก Federal Trade Commission (FTC)
จากการรายงานข้อมูลการคุ้มครองผู้บริโภคล่าสุดของ FTC ระหว่างเดือนมกราคม 2021 ถึงเดือนมีนาคม 2022 มีการรายงานว่าผู้บริโภคได้สูญเสียเงินไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์จากการฉ้อโกงที่มีความเกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency จำนวนเงินประมาณ 1 ในทุกๆ 4 ดอลลาร์นั้นเป็นเงินที่สูญเสียไปในการฉ้อโกงต่อ Crypto รายงานระบุว่ามันได้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดสำหรับเหล่าอาชญากรมากมาย
เรื่องราวการฉ้อโกงด้วย Cryptocurrency
ผู้บริโภคที่สูญเสีย Cryptocurrency ไปส่วนใหญ่ รายงานระบุว่าประมาณ 575 ล้านดอลลาร์ เกิดจากโอกาสในการลงทุนปลอมๆ การหลอกลวงเหล่านี้ได้เสนอถึงโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนมหาศาลจากการลงทุนใน Cryptocurrency แต่มันจะทำให้ผู้ที่ “ลงทุน” สูญเสียเงินทุนทั้งหมดไปแทน
นอกจากแผนการลงทุนปลอมๆ เหล่านี้แล้ว มันยังมีเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อ เรื่องที่โดดเด่นที่สุดอันดับ 2 คือ Romance Scams (หลอกให้รักเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเหยื่อ) ซึ่งความรักที่คาดหวังไว้จะดึงดูดให้ใครสักคนมาลงทุนในการฉ้อโกงของสกุลเงินดิจิทัล รายงานยังระบุถึงการที่เหล่านักต้มตุ๋นแอบอ้างเป็นภาคส่วนธุรกิจหรือรัฐบาล และอ้างว่าเงินของพวกเขามีความเสี่ยงที่จะถูกฉ้อโกงหรือถูกดำเนินการสอบสวน เว้นเสียแต่ว่าจะแปลงมันเป็นสกุลเงินดิจิทัล
การฉ้อโกงจำนวนมากเหล่านี้เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลมีเดีย โดยเกือบครึ่งหนึ่งรายงานถึงการฉ้อโกงที่มีความเกี่ยวข้องกับ Crypto มาตั้งแต่ปี 2021 โดยระบุว่ามันเริ่มต้นด้วยโฆษณา โพสต์ หรือข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รายงานของ FTC ได้เน้นย้ำถึงสัญญาณอันตรายหลายประการสำหรับผู้บริโภคที่ต้องระวัง รวมไปถึงการเรียกร้องผลกำไรที่รับประกันหรือผลตอบแทนที่เกินปกติจากการลงทุนด้วย Crypto คนแสร้งรักที่จะขอให้มีการส่งหรือชำระเงินด้วย Crypto หรือหน่วยงานใดๆ ที่หลอกให้มีการชำระเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล
ปีที่แล้ว ศูนย์การรายงานการฉ้อโกงและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตระดับชาติของสหราชอาณาจักรได้รับรายงานการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเป็นจำนวน 7,118 ฉบับ จากรายงานของตำรวจเมืองลอนดอน การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ได้มีการขโมยเงินจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไปเป็นจำนวน 146 ล้านปอนด์ (200 ล้านดอลลาร์) ภายในสิ้นเดือนกันยายน ซึ่งมากกว่าปี 2020 ประมาณ 30%
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
