กองทุนยักษ์ใหญ่จากจีนยื่นเปิด Bitcoin ETF ใน Hong Kong

บริษัทลงทุนชั้นนำของจีนสองแห่ง คือ Harvest Fund และ China Southern Fund กำลังจะเปิด ฺBitcoin ETF ในฮ่องกง

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความสนใจของนักลงทุนใน BTC ETF ในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มชะลอตัว โดยมีกระแสการไหลเข้าลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

กองทุนจีนเตรียมเปิด Bitcoin ETF ใน Hong Kong

ตามรายงานของ Securities Time กิจการในเครือของ Harvest Fund และ China Southern Fund ในฮ่องกงกำลังมีส่วนร่วมในกระบวนการยื่นขออนุญาตออก BTC ETF

Harvest Fund ได้ยื่นขอเสนอโครงการ BTC ETF ไปยังคณะกรรมการหลักทรัพย์และธุรกิจซื้อขายล่วงหน้าแห่งฮ่องกงแล้ว ขณะที่สาขาของ China Asset Management ในฮ่องกงก็ได้ทำหุ้นส่วนกับผู้รักษาทรัพย์สินของ BTC ETF ในฮ่องกงด้วย

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเชื่อว่าการขออนุญาตเหล่านี้อาจได้รับการอนุมัติในไตรมาสที่สอง ของปี 2024 โดย Harvest Fund และ China Southern Fund มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 230 พันล้านและ 280 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์อย่างมาก

ช่วงเวลาของการเคลื่อนไหวเหล่านี้ตรงกับรายงานของ CoinShares ที่ระบุว่า ความตื่นเต้นเรื่อง “ETF” มีแนวโน้มลดลง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสการไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุนดิจิทัล รวมถึง ETF ที่ได้รับอนุมัติในสหรัฐอเมริกา มีเพียง 646 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 862 ล้านดอลลาร์ในสองสัปดาห์ก่อน

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการไหลเข้าสะสมตั้งแต่ต้นปีสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนดิจิทัล ยังคงมีการเติบโต โดยเพิ่มขึ้นจาก 13.14 พันล้านดอลลาร์สองสัปดาห์ก่อน เป็น 13.81 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

การยื่นขอเปิด BTC ETF ในฮ่องกงโดยกองทุนชั้นนำของจีนอาจเป็นสัญญาณที่ดี ความพยายามของฮ่องกงในการสร้างตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัล ประกอบกับความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์กับจีน อาจแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่อ่อนลงของจีนต่อสกุลเงินดิจิทัล

ซึ่งอาจส่งผลในทางบวกต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล ผู้นำในอุตสาหกรรมได้กล่าวชื่นชมความชัดเจนทางกฎระเบียบของฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของสภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบที่เอื้อของฮ่องกง เนื่องจากความเป็นอิสระของฮ่องกงภายใต้ข้อตกลง “ระบบหนึ่งประเทศสองระบบ” กับจีนจะสิ้นสุดลงในปี 2547 ซึ่งอาจก่อให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการบูรณาการในระยะยาวของระบบการเงินระหว่างฮ่องกงและจีน รวมถึงการเฝ้าระวังที่อาจเข้มงวดขึ้น