บริษัทขุดคริปโตที่พึ่งพา Ethereum อย่างมากมีรายรับลดลงหลังจากการควบรวมกิจการ นักลงทุนท่ีรอดจากวิกฤติมาได้หันมาสนใจการขุด BTC และ Hive Blockchain ก็เป็นหนึ่งในนั้น
อดีตยักษ์ใหญ่ด้านการขุด Ethereum อย่าง Hive Blockchain กำลังกระจายความเสี่ยงหลังจากการสูญเสียกระแสเงินสด ทั้งนี้ Ethereum Merge เกิดขึ้นในกลางเดือนกันยายน หลังจากนั้น บริษัทไม่สามารถขุดสินทรัพย์ได้อีกต่อไป
การเปลี่ยนไปใช้ Proof-of-stake เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเครือข่ายในแง่ของการปฏิบัติตาม ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ถือ ETH ที่สามารถได้รับผลตอบแทนจากการ Staking อย่างไรก็ตาม บริษัทที่พึ่งพาการขุด Ethereum ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
Hive Blockchain เป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้น แต่งบดุลของบริษัทยังดูมีความหวัง Jaran Mellerud ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุด BTC ได้วิเคราะห์รายงานไตรมาสสามของบริษัทที่เปิดเผยว่าเหตุใด Hive จึงน่าจะอยู่รอดได้
BTC เข้ามาแทนที่
นักวิเคราะห์ประเมินว่า Hive สูญเสียรายได้ไป 40% หลังจากการควบรวมกิจการ เขาเสริมว่า “ธุรกิจการขุด ETH ที่เลิกใช้แล้วนั้นทำกำไรได้มากกว่าธุรกิจการขุด BTC ที่เหลืออยู่” เขาเสริมว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นจริงต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60%
ข่าวดีสำหรับ Hive คือกำลังเปลี่ยนสถานที่ขุด Ethereum ให้เป็นเหมือง BTC กล่าวคือ บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มความสามารถในการขุด Bitcoin จาก 2.8 EH/s (exahashes ต่อวินาที) เป็น 3.3 EH/s ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
Hive ยังมีงบดุลที่มีสภาพคล่องซึ่งประกอบด้วยการถือครอง Bitcoin เป็นหลัก ตามรายงาน บริษัทมีเงินสดเพียง 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถือครอง 3,311 BTC ซึ่งคิดเป็น 88% ของสภาพคล่อง ปัจจัยนี้ทำให้เป็นผู้ถือครอง BTC ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในหมู่นักขุดสาธารณะ
นอกจากนี้ Hive ยังมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต่ำที่สุดในหมู่นักขุดคริปโตสาธารณะ Mellerud กล่าวว่าด้วยหนี้สินที่มีดอกเบี้ยเพียง 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทจึงรอดพ้นจากการชำระหนี้จำนวนมหาศาลที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อคู่แข่ง
ประโยชน์ของพลังงานทดแทน
Hive เป็นบริษัทขุดคริปโตแห่งแรกที่เปิดตัวสู่สาธารณะในปี 2017 นอกจากนี้ การดำเนินงานที่ใช้พลังงานน้ำและพลังงานความร้อนใต้พิภพอย่างเต็มรูปแบบตั้งอยู่ในแคนาดา สวีเดน และไอซ์แลนด์ ซึ่งหมายความว่าบริษัทไม่ได้เผชิญกับการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานมหาศาลที่กระทบกับนักขุดรายอื่น
นอกจากนี้ ในอดีต ทางบริษัทสามารถบีบ BTC ได้มากกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ระหว่าง 5% ถึง 30% “นี่อาจเป็นเพราะบริษัทบรรลุเวลาทำงานที่สูงขึ้นจากการจ่ายไฟฟ้าพลังน้ำที่สม่ำเสมอ” นักวิเคราะห์ให้ความเห็น
ขณะนี้นักขุด Bitcoin อยู่ในภาวะซบเซาด้วยราคาสินทรัพย์ที่ตกต่ำ อัตราแฮชที่สูง และพลังงานที่มีราคาแพง อัตราการแฮชลดลง 14% จากจุดสูงสุด 273 EH/s ภายในวันที่ 28 พ.ย. แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อัตราแฮชกลับมาอยู่ที่ 251 EH/s
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ