BlackRock หนึ่งในสถาบันจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยืนเรื่องขอจดทะเบียน Bitcoin Spot ETF ต่อ SEC สหรัฐ ท่ามกลางการปราบปรามเหรียญ Altcoin ต่างๆ
ถือได้ว่าเป็นการแหวกกระแสความปั่นป่วนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก เมื่อสถาบันยักษ์ใหญ่ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ ออกมายื่นขอจดทะเบียนกองทุนบิทคอยน์ ETF เมื่อปลายสัปดาห์
อาจเป็นเจ้าแรกที่จด Bitcoin Spot ETF ได้สำเร็จ
ภายในเอกสารยื่นขอจดทะเบียนระบุว่า พวกเขาจะใช้บริษัท Coinbase Custody Trust เพื่อดูแลบิทคอยน์ของนักลงทุนในกองทุนดังกล่าว และมี Bank of New York Mellon (BNYM) เป็นผู้ดูแลเงินสดที่เกี่ยวข้อง
หากพวกเขาได้รับการอนุมัติจาก SEC สหรัฐ นั่นหมายความว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่กองทุนคริปโต จะเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้มีความพยายามที่คล้ายคลึงกันจาก Grayscale, Ark Investment, และอีกมากมาย แต่ก็ถูกทางหน่วยงานปฎิเสธมาตลอด
การเข้ามาของ BlackRock จะเสริมสภาพคล่องให้แก่ตลาด
สภาพคล่องของ BTC เริ่มมีปัญหานับตั้งแต่ที่ Binance ยกเลิกโปรแกรมการซื้อขายบิทคอยน์แบบไม่มีค่าธรรมเนียมเมื่อต้นปีนี้ หลังจาก FTX พังทลายลงเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
เอกสารของ FTX เผยว่า พวกเขาไม่สามารถระบุที่อยู่ของ BTC เกือบทั้งหมดของลูกค้า ว่าอยู่ที่ใดหรือมีอยู่จริงไหมหลังจากล้มละลาย และมันนับเป็นจำนวนมหาศาลเพราะพวกเขาเป็นกระดานแลกเปลี่ยนอันดับ 2 ณ ขณะนั้น ทำให้ตลาดเข้าสู่ตลาดหมีและขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง
ด้วยสภาวะขาดสภาพคล่องของตลาดนี้เองทำให้ราคาผันผวนผันผวนเป็นอย่างมาก แต่ถ้ากองทุนของ BlackRock เข้ามาในตลาดได้สำเร็จ สภาพคล่องของ bitcoin อาจแข็งแกร่งขึ้นและลดความผันผวนในตลาดลง
ในฐานะที่พวกเขาเป็นหนึ่งในสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากการจดทะเบียนสำเร็จ BTC จะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้นเป็นอย่างมากและอาจทำให้เงินของนักลงทุนสถาบันไหลหลากกลับเข้ามาสู่สินทรัพย์อีกครั้ง
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ