เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี Elon Musk ได้เข้าซื้อกิจการของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Twitter ในราคา 44,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนมันให้เป็น “Everything App”
หนึ่งปีผ่านไป เราจะมาดูกันว่า มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มหาเศรษฐีคนดังนำมาสู่แพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) บ้าง
การรีแบรนด์และเริ่มเก็บค่าธรรมเนียม
Musk เริ่มทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ Twitter ด้วยการเพิ่มรูปแบบการสมัครสมาชิก และเปลี่ยนชื่อแพลตฟอร์มเป็น ‘X’ การตัดสินใจในครั้งนี้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมามากมายจากผู้ใช้งานคริปโต ว่าต่อไปนี้ พวกเขาจะสามารถสร้างรายได้จากการโพสต์บนแพลตฟอร์มได้แล้ว
ก่อนที่ Musk จะเข้าซื้อแพลตฟอร์ม คอมมูนิตี้คริปโตต่างคาดเดากันว่า มหาเศรษฐีคนดังรายนี้จะทำการสร้างสกุลเงินคริปโตและเพิ่มมันลงไปบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้
อย่างไรก็ตาม Musk ได้ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ใดๆ ที่เขาจะสร้างโทเค็นสกุลเงินคริปโตขึ้นมา และกล่าวว่า แพลตฟอร์ม ‘X’ จะ “ไม่มี” การพัฒนาโทเค็นคริปโตขึ้นมาอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: Elon Musk ปัดข่าวลือ ‘X Token’ หลังจากเกิด TwitterDAO ขึ้นลงฉับพลัน
ความฝันในการสร้าง ‘Everything App’
ถึงแม้ว่าจะ Musk จะทำลายความฝันของหลายๆ คนในเรื่องการสร้างโทเค็นคริปโต แต่เขาก็ยังคงมุ่งมั่นในการที่จะทำให้ ‘X’ เป็น ‘Everything App’ ซึ่ง Musk ได้ระบุว่า แอปนี้จะถูกรวมเข้ากับบริการทางการเงินที่หลากหลายในเร็วๆ นี้
Linda Yaccarino ซีอีโอคนใหม่ของ X ยังกล่าวอีกว่า X คืออนาคตของการเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียง, วิดีโอ, การส่งข้อความ, การชำระเงิน, และการธนาคาร เป็นต้น เธอกล่าวว่า:
“การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะไม่มีขีดจำกัดอย่างแน่นอน X จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างได้ Elon Musk กับชั้นต่างก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับทีมงานของเรา รวมถึงพาร์ทเนอร์ทุกราย เพื่อนำ X โฉมใหม่มาสู่โลกนี้”
ปัญหา “บอท” ยังคงมีอยู่
หนึ่งปีหลังจากการเข้าซื้อกิจการของ Musk ปัญหาบอทบนแพลตฟอร์มก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีรายนี้เคยแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับปัญหานี้ ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้ามารับหน้าที่ซีอีโอเสียอีก
เพื่อต่อสู้กับบอทเหล่านี้ X ได้เปิดตัวรูปแบบการสมัครสมาชิกที่หลากหลายสำหรับผู้ใช้งาน โดยรูปแบบใหม่ล่าสุดก็คือ แผนการเก็บเงิน 1 ดอลลาร์สำหรับการสมัครสมาชิก ซึ่งถูกเรียกว่า “Not A Bot” ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการทดสอบในประเทศนิวซีแลนด์และฟิลิปปินส์
อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวในการหยุดยั้งบัญชีบอทและสแปมเป็นจำนวนมหาศาลก็ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก ซึ่งเห็นได้จากการที่พวกเขายังคงต้องต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ต่อไป
ในขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มก็ยังคงได้รับความนิยมในฐานะแพลตฟอร์มหลักสำหรับการสนทนาเกี่ยวกับคริปโต เหล่าอินฟลูเอนเซอร์, ซีอีโอ, นักการเมือง หรือกระทั่ง หน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ก็ยังคงใช้ X ในการโต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้คริปโต
ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มจะลดลง แต่ชื่อเสียงของพวกเขาในฐานะฐานที่มั่นสำหรับโปรเจกต์คริปโตก็ยังคงมั่นคงอยู่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: X (Twitter) เตรียมเรียกเก็บเงิน 1 ดอลลาร์ เพื่อต่อสู้กับบอทและสแปม
ทวีตของ Musk ก็ยังคงขับเคลื่อนตลาดต่อไป
ก่อนที่จะมาซื้อ Twitter ชื่อเสียงของ Musk นั้นเป็นที่รู้จักกันในเรื่องการพูดถึงเกี่ยวกับ Meme Coins หลายต่อหลายครั้ง โพสต์ของเขามีผลกระทบอย่างมากต่อราคาของสกุลเงินคริปโต เช่น Dogecoin และ Floki Inu เป็นต้น
และสิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะของเจ้าของแพลตฟอร์ม Musk เคยได้กล่าวอย่างติดตลกว่า Floki (ซึ่งเป็นสุนัขพันธ์ Shiba Inu ที่เขาเลี้ยงไว้) จะขึ้นมาเป็น CEO คนใหม่ของ Twitter (X) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ทะยาน! ราคา Dogecoin ดีดเมื่อ Elon Musk แก้ไขโปรไฟล์ Twitter
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ