JCBA และ JVCEA ได้เผยแพร่คำร้องขอปฏิรูปภาษีสำหรับปี 2023 โดยคำร้องขอดังกล่าวเป็นการเรียกร้องให้มีการจัดเก็บภาษีของ Crypto แยกต่างหากในอัตรา 20%
Japan Crypto-Asset Business Association (JCBA) และ Japan Crypto-Asset Exchange Association (JVCEA) ได้ร่วมกันออกคำร้องขอปฏิรูปภาษีสำหรับสินทรัพย์ Crypto ซึ่ง Fiscal 2023 Tax Reform Request (คำร้องขอปฏิรูปภาษีประจำปีบัญชี 2023) กล่าวถึงประเด็นต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมองว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม
ปัญหาเหล่านั้นรวมไปถึงความจำเป็นในการอำนวยความสะดวกในการยื่นภาษี การขาดความสอดคล้องภายในระบบระเบียบ การเปรียบเทียบกับระบบภาษีสินทรัพย์ Crypto ในต่างประเทศ และความสำคัญของสินทรัพย์ Crypto ในยุทธศาสตร์ Web3 ของญี่ปุ่น ซึ่งดูเหมือนว่าเรื่องสุดท้ายนั้นจะเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดในการขอปฏิรูปภาษีโดยประธานของกลุ่มการศึกษาระบบภาษี Gaku Saito กล่าวว่า
“หากรัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้ Web 3.0 เป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ ความถี่ที่ประชาชนจะเข้ามาติดต่อกับสินทรัพย์ดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้… การทำให้การถือครอง [Cryptocurrency] เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายก็จะนำไปสู่การเกิดขึ้นมากมายของ Web 3.0 และมีส่วนช่วยในการพัฒนาตลาด”
คำร้องขอดังกล่าวเป็นการเรียกร้องให้มีการเก็บภาษีของ Crypto แยกต่างหากในอัตรา 20% โดยผลขาดทุนสามารถยกยอดมาจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ Crypto ได้เป็นเวลา 3 ปีนับจากปีถัดไป สิ่งนี้จะนำไปใช้กับการทำธุรกรรมตราสารอนุพันธ์ด้วย
ทำให้อุตสาหกรรมเจริญรุ่งเรือง
เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มผู้สนับสนุน Crypto ในญี่ปุ่นได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรม Crypto จะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้ เมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาได้ยื่นคำร้องต่อรัฐบาลให้ผ่อนปรนกฏข้อบังคับด้านภาษีนิติบุคคล เนื่องจากเกรงว่ามันจะนำไปสู่การย้ายถิ่นของเหล่าผู้ที่มีความสามารถ พวกเขายังต้องการให้ลดอัตราภาษีปัจจุบันของนักลงทุนรายย่อยจากสูงสุดถึง 55% เป็น 30%
สถาบันการเงินในประเทศอยู่ก็เริ่มให้ความสนใจใน Crypto ในเดือนกรกฎาคม 2022 มีการเปิดเผยว่าธนาคารทรัสต์ของญี่ปุ่นได้รับไฟเขียวให้สามารถกำกับดูแล Crypto ได้ เนื่องจาก FSA ตั้งเป้าที่จะเสริมสร้างการคุ้มครองนักลงทุนด้วยการยกเลิกกฎระเบียบของธนาคารทรัสต์
ภาษี Crypto ก่อให้เกิดเสียงคร่ำครวญไปทุกหนแห่ง
หลายประเทศต่างกำลังสงสัยว่าจะจัดการกับปัญหาการจัดเก็บภาษีของสินทรัพย์ Crypto ได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น เกาหลีใต้ได้เลื่อนแผนการจัดเก็บภาษี Crypto อีกครั้ง โดยเลื่อนไปเป็นปี 2025 ประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย ได้ออกกฎระเบียบด้านภาษีที่รุนแรงซึ่งทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลง
ไม่ช้าก็เร็ว นักลงทุนจะต้องเผชิญหน้ากับการจัดเก็บภาษี Crypto เนื่องจากประเภทสินทรัพย์ดังกล่าวจะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น สิ่งนี้จะควบคู่ไปกับกฎระเบียบทั่วไปอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากในระยะสั้น แต่มันจะทำให้ตลาดมีความชอบธรรมมากยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ