ทีมของ JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou คาดการณ์ว่าราคาของ bitcoin อาจลดลงถึง $13,000 เนื่องจากความวุ่นวายหลังจากการล่มสลายของ FTX และ “Margin calls” ที่จะตามมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ต้นทุนในการผลิต BTC ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินทรัพย์อาจลดลง ในขณะนี้ ราคาอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์ “แต่มีแนวโน้มว่าจะกลับมาที่ระดับต่ำสุดที่ 13,000 ดอลลาร์ในช่วงเดือนฤดูร้อน” ทีมงานกล่าว
JPMorgan มองอุตสาหกรรมอ่อนแอลง
ทีมวิเคราะห์ของธนาคาร Wall Street ประเมินว่าการล่มสลายอย่างต่อเนื่องของตลาด crypto อาจทวีความรุนแรงขึ้นในเร็ววัน และนำไปสู่การลดมูลค่าของ bitcoin ลงอีก
Sponsoredผู้เชี่ยวชาญระบุว่าวิกฤตของ FTX และการหยุดชะงักของ Alameda Research ซึ่งเป็นบริษัทในเครือทำให้เกิด Margin Calls หรือ “การเรียกเงินประกันจำนวนมาก” และการบังคับชำระหนี้ซึ่งอาจผลักดันราคาของสกุลเงินดิจิทัลหลักให้ต่ำถึง 13,000 ดอลลาร์
ทีมงานของเห็นว่าปัญหาหลักไม่ใช่หายนะจาก Sam Bankman-Fried แต่เป็นความจริงที่ว่ามีองค์กรไม่มากนักที่สามารถช่วยเหลือได้พวกเขาได้:
“สิ่งที่ทำให้เฟสใหม่ของอุตสาหกรรมคริปโตลดลงซึ่งเกิดจากการล่มสลายของ Alameda Research และ FTX นั้นเป็นปัญหามากขึ้นคือ จำนวนที่ลดลงของหน่วยงานหรือองค์ที่มีงบดุลที่แข็งแกร่งสามารถช่วยเหลือผู้ที่มีทุนต่ำและเลเวอเรจสูงได้”
ดังที่เห็นได้จากการที่ Binance ไม่สามารถช่วยเหลือ FTX ได้แม้ว่าพวกเขาจะเป็นกระดานเทรดอันดับ 1 ก็ตาม พวกเขาเลือกปัดข้อเสนอหลังการทำ Due Diligence เพื่อครึ่งวันเท่านั้น โดยกล่าวว่า มันอยู่เหนือความสามารถในการช่วยเหลือของพวกเขา
ผลกระทบต่อราคา Bitcoin
เหตุการณ์นี้อาจส่งผลเสียต่อราคาของ bitcoin เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดบางรายอาจมองว่าระดับนี้เป็น “ขอบเขตล่าง” ของฤดูหนาว crypto นี้:
“การลดลงของต้นทุนการผลิตอาจถูกมองว่าเป็นผลลบต่อแนวโน้มราคา bitcoin ในอนาคต ตราบใดที่ผู้เข้าร่วมตลาดบางรายมองว่าต้นทุนการผลิตเป็นขอบเขตล่างของช่วงราคาของ bitcoin ในตลาดหมี”
หลังการถอนดีล สร้างความตื่นตระหนกเพิ่มเติมให้กับตลาด และมูลค่าตลาดโลกลดลงต่ำกว่า 850 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Bitcoin ร่วงลงต่ำสุดในรอบสองปีที่ 15,500 ดอลลาร์
