การศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดยบริษัทวิเคราะห์ Juniper Research ประเมินว่าการชำระเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) อาจสูงถึง 2.13 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
บริษัทเชื่อว่ารัฐบาลทั่วโลกจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินและปรับปรุงสภาพทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
การปะทุของ CBDC
ผู้เชี่ยวชาญของ Juniper Research ที่วิเคราะห์ตลาดฟินเทคและการชำระเงินเชื่อว่าธุรกรรมดังกล่าว สามารถพุ่งสูงขึ้นจาก 100 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 2.13 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 นับเป็นการเติบโตกว่า 213,000%
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยเสริมว่าหน่วยงานที่รวมศูนย์ทั่วโลกจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงระบบการชำระธุรกรรมทางดิจิทัล (settlement) และเปิดใช้งานบริการทางการเงินเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจใช้มันเพื่อควบคุมการเงินของผู้บริโภคและสอดส่องกิจกรรมทางการเงินของผู้ใช้งาน
การวิจัยระบุเพิ่มเติมว่าภายในปี 2030 มูลค่า 92% ของธุรกรรมทั้งหมดในเบื้องต้นจะได้รับการชำระในท้องถิ่น ในระยะต่อมา เครื่องมือนี้อาจเริ่มชำระบัญชีข้ามพรมแดนได้ ผู้เขียนรายงาน Nick Maynard แสดงความคิดเห็น:
“ในขณะที่การชำระเงินข้ามพรมแดนในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายสูงและความเร็วในการทำธุรกรรมช้า แต่จุดประสงค์นี้ไม่ใช่จุดประสงค์หลักในการพัฒนาสินทรัพย์นี้ของทางธนาคารกลาง เนื่องจากการนำมันมาใช้จะมีความเฉพาะเจาะจงในแต่ละประเทศ และการพัฒนาการชำระบัญชีแบบข้ามพรมแดนจากถูกพัฒนาทีหลังโดยสถาบันที่เกี่ยวข้อง”
ประเทศไหนกำลังพัฒนาอยู่บ้าง
ประเทศจีนเป็นประเทศที่ปรากฏขึ้นทันทีเมื่อพูดถึงสินทรัพย์นี้ เนื่องจากรัฐบาลได้เปิดตัวโครงการริเริ่มหลายอย่างเพื่อทำให้หยวนดิจิทัลเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
บริษัทได้แจกจ่าย e-CNY มูลค่า 4.6 ล้านดอลลาร์ให้แก่ชาวเมืองเฉิงตู และมากกว่า 6 ล้านดอลลาร์แก่ชาวปักกิ่งเมื่อต้นปี 2022 นอกจากนี้ ชาวเมืองเซินเจิ้นได้รับเงินหยวนดิจิทัลจำนวน 2.3 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023
จีนอนุญาตให้ชำระเงินด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว สิ่งนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองสหรัฐฯ กับเพื่อนร่วมงานชาวจีน
วุฒิสมาชิกอเมริกัน Marsha Blackburn, Roger Wicker และ Cynthia Lummis เรียกร้องให้นักกีฬาสหรัฐอย่าใช้หยวนดิจิตอล ในขณะที่ Zhao Lijian โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาวิจารณ์ว่าพวกเขา “ปฏิบัติตามจิตวิญญาณ” ของเกมและ “หยุดสร้างปัญหา” ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ
นอกจากนี้ บราซิล ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ยังได้ริเริ่มโปรแกรมการทดสอบผลิตภัณฑ์ เพื่อตรวจสอบว่าสกุลเงินของประเทศพวกเขาในรูปแบบดิจิทัลที่กำลังจะมีขึ้นสามารถโต้ตอบกับเครือข่ายการเงินท้องถิ่นได้หรือไม่ และสามารถชำระเงินข้ามพรมแดนได้หรือไม่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ