Trusted

วิธีการใช้งาน RSI Indicator ในการเทรด Crypto

3 mins
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

นักเทรด Crypto ส่วนใหญ่ใช้ RSI indicator เพื่อกำหนดการเคลื่อนไหวของราคาและระบุสัญญาณซื้อและขาย หากคุณต้องการเริ่มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและเรียนรู้วิธีสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด คุณควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ RSI ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค และนี่คือบทความสั้นๆ ของ วิธีการใช้งาน RSI Indicator ที่จะช่วยให้คุณเริ่มสำรวจโลกของการซื้อขาย Cryptocurrency ได้

RSI คืออะไร?

RSI Indicator 2

RSI ย่อมาจาก Relative Strength Indicator และเป็น 1 ใน Indicator (ตัวชี้วัด มักจะถูกเรียกว่า อินดี้) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล RSI Indicator จะวัดโมเมนตัม ราคาสกุลเงินดิจิทัล (ขึ้นอยู่กับราคาปิด) และความเร็วในการเคลื่อนไหวของราคา Indicator นี้จะบอกคุณเมื่อสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลมีการซื้อเกินหรือขายเกิน

RSI Indicator ถูกนำมาใช้ในปี 1978 โดย J. Welles Wilder Jr. ซึ่งถือเป็นบิดาแห่งตัวชี้วัดทางเทคนิคสำหรับการซื้อขาย

นักเทรดจะใช้ RSI Indicator เพื่อลองและทำนายราคาในอนาคตของ Cryptocurrency แม้ว่า Indicator อาจทำให้เข้าใจผิดในบางครั้ง นักเทรดที่เข้าใจวิธีการทำงานจะได้รับแนวคิดที่ถูกต้องแม่นยำเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต RSI เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค

นักเทรดไว้วางใจ RSI Indicator เพื่อระบุสัญญาณตลาดและ0tบอกว่าตลาดเป็นขาขึ้นหรือขาลง RSI เป็นกราฟเส้นที่แกว่งไปมาระหว่าง 2 ฝั่งที่สุดขั้วและสามารถอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0 ถึง 100

ฉันทามติทั่วไปคือเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30% แสดงว่าตลาดมีการขายมากเกินไป และเมื่อ RSI สูงกว่า 70% แสดงว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไป

จะคำนวณ RSI ได้อย่างไร?

แกนหลักของ RSI Indicator นี้จะเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อนักเทรดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งแสดงให้พวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของราคาโดยเฉลี่ยที่สูงขึ้นเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของราคาโดยเฉลี่ยที่ลดลงในกรอบเวลาเริ่มต้น 14 ช่วง นั่นหมายถึง RSI Indicator วัดเทียน 14 แท่งสุดท้าย แต่การซื้อขายแต่ละครั้งสามารถปรับกรอบเวลาที่ต้องการเพื่อให้เหมาะกับกลยุทธ์การซื้อขายที่ต้องการได้ โดยสามารถแสดงกรอบเวลาเป็นสัปดาห์ วัน ชั่วโมง หรือนาที

สูตรการคำนวณ RSI Indicator คือ:

RSI = 100 – [100/(1 + RS)]

ที่นี่ RS = กำไรเฉลี่ย/ขาดทุนเฉลี่ย

กำไรเฉลี่ย = ผลรวมของกำไรต่อช่วงเวลา/กรอบเวลา

ขาดทุนเฉลี่ย = ผลรวมของการขาดทุนต่อช่วงเวลา/กรอบเวลา

อย่างไรก็ตาม นักเทรดไม่ควรกังวลเกี่ยวกับการคำนวณสูตร RSI เนื่องจากเว็บเทรดทั้งหมดจะให้ค่า RSI และแสดงกราฟเส้น RSI บนชาร์ทของตลาดอยู่แล้ว

จะอ่าน RSI Indicator ได้อย่างไร?

RSI Indicator 3
BTC RSI: TradingView

โดยปกติ RSI Indicator จะมีอยู่ 3 เส้น มีเส้นประตรง 2 เส้น เส้นหนึ่งอยู่ด้านบนและอีกเส้นอยู่ด้านล่าง มีอีกเส้นหยักที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งบางครั้งอาจจะวิ่งข้ามอีก 2 เส้นที่เหลือไป แต่โดยปกติแล้ว มันจะแกว่งไปมาระหว่าง 2 เส้น

เส้นหยักคือ RSI Indicator และค่าของมันคือการบ่งชี้ว่าสินทรัพย์ที่เทรดมีการซื้อหรือขายมากเกินไป เมื่อ RSI Indicator วิ่งไปถึงค่า 30 หรือต่ำกว่า แปลว่าสินทรัพย์จะถูกขายมากเกินไป และเมื่อข้ามค่า 70 ขึ้นไป แปลว่าสินทรัพย์จะมีการซื้อมากเกินไป

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่า เพียงเพราะว่าสินทรัพย์มีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลง มันหมายความว่าสิ่งต่างๆ กำลังเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

Relative Strength Indicator สามารถช่วยกำหนดสภาวะตลาดและรับรู้แนวโน้มราคาได้ หาก RSI ข้ามเส้นที่ 50 แสดงว่ามันเป็นเทรนด์ หาก RSI ตัดผ่าน 50 แสดงว่ามีแนวโน้มเชิงบวก และหมายความว่าราคากำลังเพิ่มขึ้น (ตลาดกระทิง) Indicator ที่ลดลงต่ำกว่า 50 แสดงว่าราคากำลังตกลง (ตลาดขาลง)

แม้จะมีข้อมูลทั้งหมดที่ RSI ให้มา นักเทรดก็ยังต้องใช้ Indicator อื่นๆ เพื่อสร้างสัญญาณซื้อและขาย และให้แน่ใจว่าสัญญาณเทรดที่ใช้นั้นแม่นยำที่สุด

RSI vs. MACD

RSI Indicator 4
BTC RSI vs. MACD: TradingView

MACD หรือ Moving Average Convergence Divergence เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมยอดนิยมอีกตัวหนึ่ง มันจะวัดความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์

MACD Indicator จะวัดความแตกต่างของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนไหวแบบ Exponential Moving Averages (EMAs) 2 เส้น ซึ่งปกติคือ EMA 12 ช่วงและ EMA 26 ช่วง เส้น MACD เป็นผลมาจากความแตกต่าง เส้น EMA 9 ช่วง ซึ่งเรียกว่าเส้นสัญญาณ จะแสดงเหนือเส้น MACD นักเทรดจำนวนมากใช้เพื่อระบุสัญญาณซื้อและขายระยะสั้น

เมื่อ MACD ตัดเหนือเส้นสัญญาณ แสดงว่าเป็นสัญญาณซื้อ เมื่อเส้น MACD ตัดผ่านต่ำกว่าเส้นสัญญาณ EMA 9 ช่วง มันจะถูกตีความว่าเป็นสัญญาณขาย

RSI Indicator จะช่วยให้นักเทรดทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาล่าสุด ในขณะที่ MACD มีความสัมพันธ์ระหว่าง EMA ทั้งสอง นักเทรดจำนวนมากใช้ตัวชี้วัดทั้ง 2 ร่วมกันเพื่อพยายามคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตและระบุสัญญาณเทรด

แม้ว่า RSI และ MACD จะเป็นตัวชี้วัดโมเมนตัม แต่ก็จะวัดในองค์ประกอบที่แตกต่างกัน และอาจนำไปสู่สัญญาณที่ขัดแย้งกันได้ ตัวอย่างเช่น หาก RSI มีมูลค่ามากกว่า 70 เป็นระยะเวลานาน มันอาจจะบ่งชี้ว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้นักเทรดเชื่อว่าอาจมีการปรับฐานราคา แต่ในขณะเดียวกัน ตัวบ่งชี้ MACD ยังจะแนะนำว่าราคาสามารถแตะระดับที่สูงขึ้นได้

ตัวชี้วัดทั้ง 2 ตัวเป็นส่วนเสริมและมักใช้งานร่วมกัน ในขณะที่ MACD ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Exponential RSI จะแสดงกราฟของค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดล่าสุด การระบุแนวโน้มของตลาดจะง่ายกว่ามากหากใช้ MACD และ RSI Indicator มันจะแสดงให้เห็นถึงการกลับตัวของเทรนด์โดยแสดงระดับราคาที่ซื้อและขายมากเกินไป

RSI Divergence คืออะไร?

RSI Indicator 5
RSI Divergence: TradingView

RSI Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาของสกุลเงินดิจิทัลไปถึงจุดสูงสุดหรือต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ถึงค่าที่สอดคล้องกัน กราฟราคาและตัวบ่งชี้เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีประสิทธิภาพ ความแตกต่างของ RSI สามารถเป็นได้ทั้ง:

  • A Bearish Divergence: สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ RSI Indicator ไม่ยืนยันระดับสูงสุดใหม่ และนี่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโมเมนตัมที่อ่อนตัวลง
  • A Bullish Divergence: ในกรณีนี้ ราคาของสินทรัพย์ถึงจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI Indicator ไม่ยืนยัน นักเทรดจะตีความว่ามันเป็นสัญญาณซื้อ

ความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์และ RSI Oscillator อาจจะบ่งบอกถึงการกลับตัวของเทรนด์

Convergence และ Divergence ของราคาและ RSI

สัญญาณการซื้อขายที่สำคัญที่สุดสองประการที่กำหนดโดย RSI Indicator คือเทรนด์ Convergence และ Divergence นักเทรดใช้สัญญาณเหล่านี้เพื่อระบุเทรนด์ของราคาและคาดการณ์เมื่อตลาดกำลังจะเปลี่ยนเทรนด์

ปรากฏการณ์ Convergence เกิดขึ้นเมื่อราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ในการกำหนดโครงสร้าง Convergence กราฟราคาต้องมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือ RSI ที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน

ปรากฏการณ์ Divergence เป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม และเกิดขึ้นเมื่อกราฟราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม

ในกรณีของ Relative Strength Index จะเกิด RSI Divergence เมื่อราคาสูงขึ้นและเกิดระดับสูงสุดที่สูงขึ้น ในเวลาเดียวกัน RSI ตกลงและสร้างระดับสูงสุดที่ต่ำลง

รูปแบบนี้พบได้ที่ตลาดกระทิง (เทรนด์ขาขึ้น) และมักเรียกว่าเป็นการกลับตัวที่แข็งแกร่ง โดยปกติ ราคาจะเปลี่ยนทิศทางและตกลงเมื่อ RSI Divergence เกิดขึ้น

นักเทรดควรตระหนักถึงระดับราคาที่สามารถให้เทรนด์เหล่านี้:

  • higher high (HH)
  • higher low (HL)
  • lower high (LH)
  • lower low (LL)

รูปแบบ RSI Divergence มักจะเห็นในแท่งเทียนหลายแท่งก่อนที่เทรนด์ขาขึ้นจะเปลี่ยนทิศทางหรือทะลุแนวรับ RSI Divergence ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าราคาแนวรับจะพังในไม่ช้า และยังเป็นสัญญาณว่าเทรนด์ขาขึ้นมีแนวโน้มที่จะกลับตัว

นักเทรดอาจจะรับรู้ได้ถึง Bearish Divergence หากมูลค่าของสินทรัพย์ไปถึงระดับที่สูงขึ้นและ RSI Oscillator ไปถึงระดับที่ต่ำกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด Bullish Divergence

Failure Swings

Failure Swings เป็นสัญญาณของการกลับตัวของเทรนด์ Failure Swings จะเกิดขึ้นเมื่อ Index Oscillator ไม่เป็นไปตามจุดสูงสุดของเทรนด์ขาขึ้นหรือจุดต่ำสุดในเทรนด์ขาลง Failure Swings ที่เป็นไปได้มี 2 แบบคือ:

  • Failure Swings Top: เกิดขึ้นเมื่อราคาถึงจุดสูง แต่ RSI Indicator ลดลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดของการแกว่งล่าสุด (จุดล้มเหลวล่าสุด) นี่คือสัญญาณที่จะขาย
  • Failure Swings Low: สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อราคาแตะจุดต่ำ แต่ RSI Indicator อยู่เหนือระดับการแกว่งสูงสุดล่าสุด นี่เป็นสัญญาณให้ซื้อ

จะอ่าน RSI ได้อย่างไร?

ค่าของ RSI Indicator อยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 เมื่อ RSI Indicator อยู่ที่ประมาณ 50 จะถือว่าสมดุล เมื่อมูลค่าลดลงต่ำกว่า 30 จะถือว่ามีการขายมากเกินไป ในขณะที่เมื่อเกิน 70 จะถือว่ามีการซื้อมากเกินไป

นักเทรด Cryptocurrency มองหาตัวชี้วัดเหล่านี้เพื่อตรวจสอบว่าแรงซื้อหรือขายถึงจุดแตกหักหรือไม่ ตัวอย่างเช่น หาก RSI Indicator มีมูลค่า 75 และสินทรัพย์มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนควรจะคาดหวังว่าราคาจะกลับตัว

ค่า RSI ที่แย่คือเท่าไหร่?

สำหรับ วิธีการใช้งาน RSI Indicator นักเทรดมักจะใช้ RSI Indicator กับตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาระบุเทรนด์ของตลาดและสัญญาณได้อย่างถูกต้อง โดยปกติ นักเทรดจะสร้างระบบของตนเองรอบๆ RSI Indicator

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดควรหลีกเลี่ยงการขายเมื่อ RSI Indicator ลดลงต่ำกว่า 40 ซึ่งถือว่าเป็น Panic-Selling (การขายจากความตื่นตะหนกตกใจ) เมื่อ RSI Indicator สูงขึ้นเหนือ 70 คือเมื่อ FOMO (Fear Of Missing Out) เข้ามา และนักเทรดควรละเว้นจากการซื้อ นั่นจะเป็นจุดสูงสุดของภาวะกระทิง

จะใช้ RSI Indicator ในการซื้อขาย Crypto ได้อย่างไร?

บ่อยครั้งที่นักเทรดสกุลเงินดิจิทัลจะใช้ RSI Indicator เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ในการเปิดสถานะการซื้อขาย ตัวชี้วัดจะต้องส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ นักเทรดสามารถใช้มันเพื่อซื้อหรือขาย ขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชีที่พวกเขามีอยู่แล้วสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล

ปัจจุบันเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์ทำให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกในการเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสกุลเงินดิจิทัล ก่อนเข้าสู่ตลาด นักเทรดควรตระหนักว่าสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง และแม้แต่ตัวชี้วัดทางเทคนิคก็สามารถส่งสัญญาณถึงเทรนด์ที่ผิดพลาดได้

ในการใช้ RSI Indicator ในการซื้อขาย Crypto คุณต้องเปิดใช้งาน Indicator ก่อน แพลตฟอร์มเทรดส่วนใหญ่มี RSI Indicator สำหรับชาร์ทราคาทั้งหมด เพียงค้นหา “RSI” ในลิสต์ Technical Indicators

มองหาเทรนด์ราคา

หาก RSI Indicator สูงกว่า 50 คุณควรรอการเคลื่อนไหวของราคาที่สูงขึ้น เพื่อยืนยันแนวโน้มในเชิงบวกและมองหาโอกาสในการซื้อขายระยะยาว อย่างไรก็ตาม หาก RSI ต่ำกว่า 50 คุณจะต้องรอให้ราคาลดลงเพื่อยืนยันแนวโน้มที่อ่อนลง จากนั้นจึงมองหาโอกาสในการเปิดตำแหน่งขาย

เรามักจะเห็นเส้น RSI ทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้านในเทรนด์ขาลงหรือขาขึ้น เมื่อเรียกคืนแล้ว มันจะระบุว่าโมเมนตัมมีการเปลี่ยนแปลง มันอาจจะกลับมารับอีกหรือโมเมนตัมอาจจะหยุดลงทันที

นี่คือ RSI 14 สำหรับกราฟ BTC/USDT:

Spot Divergences

การใช้ RSI Indicator ร่วมกับเส้นราคาของสินทรัพย์สามารถช่วยให้คุณมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาในอนาคตได้ นี่เป็นตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพในการระบุสภาวะตลาด และจำเป็นจะต้องใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากมันอาจจะทำให้เข้าใจผิดได้ — โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรด Crypto หน้าใหม่

ใช้ RSI Indicator เพื่อดูเทรนด์ของตลาด

RSI Indicator เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่เชื่อถือได้อิงจากราคาปิดของสินทรัพย์ มันมักจะถูกใช้โดยนักเทรดในตลาดหุ้นและในตอนนี้มันถูกใช้ในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมาเป็นเวลานาน

มีการตีความที่แตกต่างกันมากมายสำหรับ RSI Indicator คุณควรใช้เวลาฝึกฝนวิธีการอ่านชาร์ท RSI และตีความร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น ตัวชี้วัด Moving Average Convergence Divergence (MACD)

RSI Indicator ยังสามารถช่วยให้นักเทรดค้นหาสัญญาณของตลาดหมีหรือตลาดกระทิง และยังสามารถนำไปสู่กลยุทธ์เฉพาะทางของพวกเขาเพื่อค้นหาสัญญาณซื้อและขายที่ถูกต้อง แม้ว่านักเทรดส่วนใหญ่กำลังมองหาโอกาสการเทรดในระยะสั้น สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่า RSI Indicator จะส่งสัญญาณที่น่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อใช้สำหรับกลยุทธ์การซื้อขายระยะยาว

นักเทรดควรตระหนักถึง Convergence และ Divergence ของ RSI Indicator การสังเกต Bullish หรือ Bearish Divergence อาจจะเป็นเรื่องท้าทาย แต่มันก็อาจจะคุ้มค่าที่จะสละเวลาเรียนรู้มัน

คำถามที่พบบ่อย

RSI Indicator ที่ดีคืออะไร?

RSI 14 หมายถึงอะไร?

RSI เป็นตัวชี้วัดที่ดีในการซื้อหรือไม่?

คุณจะใช้ RSI Indicator ได้อย่างไร?

คุณจะใช้ RSI Indicator อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?

สัญญาณซื้อ RSI คืออะไร?

ตัวชี้วัดใดทำงานได้ดีที่สุดกับ RSI?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน