ดูเพิ่มเติม

กลโกง NFT 7 รูปแบบที่เราพบบ่อยได้ที่สุด

3 mins
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

ในปี 2021 Non-Fungible Tokens (NFTs) ได้กลายมาเป็นศัพท์ทางธุรกิจในกระแสหลักอย่างแท้จริง จากการที่มีเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากจนเป็นประวัติการณ์ แต่เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็ว มันก็ทำให้มีปัญหา กลโกง NFT (NFT Scams) เกิดขึ้นมาด้วยเช่นกัน ความเจริญรุ่งเรืองทางการเงินก่อให้เกิดโอกาส แต่ก็ยังรวมไปถึงปัญหาอีกด้วย

กลโกง NFT คล้ายกับกลโกง Crypto ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาขึ้น (ตลาดกระทิง) มากที่สุดสำหรับ bitcoin และ altcoins มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ผู้คนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของกลโกงเหล่านี้ โดยมีการสูญเสียเงินไปเกือบ 14 พันล้านดอลลาร์จากกลโกง Crypto ในทุกๆ ปี

ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนี้ไม่ควรหยุดคุณต่อการลงทุน เพราะว่าคุณสามารถเรียนรู้และสังเกตเกี่ยวกับกลโกงเหล่านี้ได้ ที่นี่เราจะมาดู 7 กลโกง NFT ที่พบบ่อยที่สุด เราจะอธิบายวิธีการของพวกมันเป็นส่วนๆ ยกตัวอย่าง และช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการป้องกันตัวเอง

สถานะของกลโกง Crypto

กลโกง NFT 2

ก่อนอื่น เราต้องบอกก่อนเลยว่า กลโกง Crypto นั้นมันไม่ใช่เรื่องใหม่ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนก็ไม่แตกต่างกันกับเรื่องอื่นๆ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ พวกกิจกรรมผิดกฏหมายเหล่านี้มันมีอยู่ในที่ที่สามารถทำกำไรได้เสมอ แล้วเหตุใดมันจึงเป็นเรื่องที่ควรแจ้งให้ทราบเป็นพิเศษในเรื่อง NFTs หล่ะ? เรื่องนี้มันมีอยู่หลายสาเหตุ

NFTs ที่อาจจะเป็นได้มากกว่าคอนเซปต์ที่อิงจากบล็อกเชนอื่นๆ ได้ประสบความสำเร็จในการเผยแพร่ตัวเองต่อสาธารณชน มันมีผู้ซื้อและผู้ขาย NFT ประมาณ 280,000 รายในปี 2021 และมีกระเป๋าเงินอยู่ประมาณ 185,000 ใบ ในบรรดาตัวเลขเหล่านี้ก็มีผู้ใช้งาน Crypto หน้าใหม่อยู่มากมาย ซึ่งนั่นทำให้พวกเขามีโอกาสตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง

ยอดขาย NFT ทั่วโลกพุ่งขึ้นเป็นกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปีใหม่ ขณะที่คำค้นหา “NFT scam” ใน Google ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นปี 2021 มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ต้องพูดว่าเรื่องใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับการค้านั้นมันก็จะมีเรื่องการหลอกลวงอยู่เสมอ

มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ว่า NFT ที่มีรูปภาพนั้น คุณไม่ได้เป็นเจ้าของที่แท้จริงของรูปภาพนั้น คุณไม่สามารถทำซ้ำหรือใช้มันในเชิงพาณิชย์ได้ แต่คุณนั้นเป็นเจ้าของบันทึกการซื้อของคุณบนบล็อกเชน บุคคลอื่นก็สามารถซื้อบันทึกการซื้อที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพได้เช่นกัน

สิ่งนี้ทำให้เป็นเรื่องยากในการควบคุมตลาด NFT ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับตลาดศิลปะคลาสสิก การขโมยภาพวาดของแวนโก๊ะจะก่อให้เกิดบทลงโทษทางกฎหมาย ผู้ค้างานศิลปะนั้นมักจะแสวงหาผลงานต้นฉบับ และแม้แต่โลกแห่งศิลปะคลาสสิกที่หรูหราโอ่อ่าก็มักจะมีชุมชนเล็กๆ ที่แน่นแฟ้นอยู่

NFT ช่วยสนับสนุนศิลปินดิจิทัลได้โดยก่อให้เกิดความขาดแคลนและอนุญาตให้ผู้ซื้อเป็นเจ้าของไฟล์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร

แต่การแก้ปัญหาบางอย่างนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งรวมไปถึงต้นทุนทรัพยากรของธุรกรรมบนบล็อกเชน ความรวดเร็วและกลโกงจำนวนมากนั้นยังต้องได้รับการแก้ไข เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่านี้มากขึ้น เราก็สามารถเรียนรู้ที่จะป้องกันตนเองได้

กลโกง NFT ที่รู้จักกันดี

กลโกง NFT Plagiarized

Evolved Apes: OpenSea

การเปิดตัว “Evolved Apes” 10,000 ตัวในเดือนตุลาคม 2021 เป็นหนึ่งในการ rug pull NFT ที่มีชื่อเสียงที่สุด โครงการนี้ถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปในแวดวง NFT ในหลายๆ ด้าน การออกแบบลิงในรูปแบบการ์ตูนนั้นถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในหมู่ NFT หลังจากความสำเร็จของ Bored Ape Yacht Club

ผู้ซื้อจะได้รับงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมันยังสามารถนำไปใช้ในเกมต่อสู้บล็อกเชนที่สามารถนำลิงมาต่อสู้กันเองได้ โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลสกุลเงินดิจิทัล และ NFTs จะเป็นเงินทุนสนับสนุนเกมที่คาดว่าจะอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาดังกล่าว

แต่น่าเสียดายที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้นามแฝงว่า “Evil Ape” ได้หายตัวไปหลังจากขายผลงาน NFT ได้ไม่นาน ณ ขณะนั้น เขาได้รับไป 798 Ethereum (ประมาณ 2.7 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น) เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ผู้ซื้อไม่มีทางตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย มันไม่มีเกม Evolved Apes ถูกพัฒนา สิ่งที่มีเหลืออยู่ก็เพียง JPG ซึ่งเป็นของที่ระลึกในการลงทุนต่อบรรดาผู้ที่ซื้อ NFTs ไป

อีกหนึ่งในเรื่องหลอกลวงที่มีชื่อเสียงมากก็คือ Mercenary นี่คือเกม NFT ในธีมยุคกลางพร้อมฟีเจอร์ Play-to-Earn และโทเค็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่ Mercenary Gold มีการเปิดตัวในปี 2021 นักต้มตุ๋นของ Mercenary จ่ายเงินซื้อโฆษณาบน Twitter ผ่านช่องทางข่าวคริปโต ซึ่งนั่นมันเริ่มทำให้ผู้คนเกิดความสนใจ

ทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง นักต้มตุ๋นที่อยู่เบื้องหลัง Mercenary Gold หลบหนีไปได้ด้วยเงินอย่างน้อย $760,000 และยังถูกกล่าวหาในเรื่องหลอกลวงอื่นๆ ด้วย เจ้าของได้ลบตัวเองออกจากโซเชียลมีเดียและดูเหมือนว่าจะหายตัวไปเลย

Ape scams อีกครั้ง

Big Daddy Ape Club ที่ดูเหมือนจะเป็นการล้อเลียนของโครงการ Bored Ape Yacht Club ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้และประสบความสำเร็จอย่างมาก ในขณะที่คนดังอย่าง Jimmy Fallon และ Paris Hilton นั้นแสดงความสนใจใน Bored Ape Club แต่ไม่มีใครให้การสนับสนุน Big Daddy Ape Club เลย แต่เนื่องจากการโฆษณาของมัน มันก็อาจทำให้บางคนหลงเชื่อ

นักต้มตุ๋นที่อยู่เบื้องหลัง Big Daddy Ape Club ได้เกลี้ยกล่อมลูกค้าให้ “สร้าง” NFT ของพวกเขาในราคาพรีเมียม 1 Solana ซึ่งเป็นเงินประมาณ 135 ดอลลาร์ในขณะนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่สามารถสร้าง NFT ขึ้นได้ แต่ ภาษี Solana จะถูกหักออกไป

การหลอกลวงดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่คนมากกว่า 9,041 คน ทำให้พวกเขาสูญเสียไปมากกว่า 1.3 ล้านเหรียญ เว็บไซต์ SolRarity ได้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มนักต้มตุ๋นนี้หลอกผู้คนในโลก Crypto นี่น่าจะเป็นการฉ้อโกงครั้งที่สามที่ถูกทำขึ้นโดยบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง Big Daddy Ape Club โดยอ้างอิงจากกิจกรรมของกระเป๋าเงิน

7 กลโกง NFT ที่พบบ่อยที่สุด

1. NFT Pump-and-Dumps

โชคไม่ดีที่การ Pump-and-Dump เป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นในวงการ Crypto และในตลาด NFT ในขณะนี้เช่นกัน การ Pump-and-Dump หมายถึงเมื่อกลุ่มกลุ่มหนึ่งซื้อ NFTs หรือสกุลเงิน ทำให้อุปสงค์เพิ่มขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จแล้ว นักต้มตุ๋นก็จะขายออกไปเมื่อราคาสูงขึ้นและทำให้ผู้อื่นไม่เหลือมูลค่าทางทรัพย์สินใดๆ

มันเป็นเรื่องปกติในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเพื่อปั่นราคา (Wash Trading) — ซึ่งเป็นการซื้อและขายสินทรัพย์โดยบุคคลคนเดียวกัน ด้วยการทำเช่นนี้จะทำให้เพิ่มมูลค่าสกุลเงินนั้นๆ ได้ ซึ่งจะทำให้มันดึงดูดเทรดเดอร์ที่ไร้เดียงสาที่เชื่อว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นหรือว่าพวกเขาพึ่งซื้อได้ในราคาที่น่าทึ่งมากๆ (และคิดว่าจะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน)

โครงการ NFT ก็มีการถูกกล่าวหาว่ามีการ Pump-and-Dump เช่นกัน ตัวอย่างเช่น The Athletic กล่าวหาว่าสมาชิกของทีมฟุตบอล SoRare NFTs ได้ซื้อ NFT เพื่อจุดประสงค์ในทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น หรือแม้แต่บันทึกการขายผลงานดิจิทัลของ Beeple ก็ถูกกล่าวหาในข้อหาเดียวกัน สื่อต่างๆ กล่าวหาผู้ซื้อซึ่งใช้นามแฝงว่า Metakovan ว่าได้ซื้อผลงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการ Pump-and-Dump ที่เกี่ยวข้องกับโทเค็น B.20 ของตนเอง

แม้แต่กับโครงการ NFT ขนาดใหญ่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ หนึ่งในแอปพลิเคชั่น NFT แรกๆ ก็คือ CryptoKitties NFTs ซึ่งอยู่บนบล็อกเชน Ethereum หลังจากเปิดตัวในปลายปี 2017 มันได้กลายเป็น NFT ที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล เจ้าแมวที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดตัวหนึ่งได้ถูกขายเป็น Ethereum มูลค่าถึง 155,000 ดอลลาร์ แต่ในหกเดือนต่อมา ราคาของมันนั้นลดลงถึง 95%

คุณจะหลบเลี่ยงกลโกงนี้ได้อย่างไร?

ประการแรก คุณควรตรวจสอบประวัติและบันทึกกระเป๋าเงินของโครงการ OpenSea และตลาด NFT ใดๆ จะช่วยให้คุณเห็นถึงจำนวนธุรกรรมทั้งหมดและผู้ซื้อที่ซื้อคอลเลกชัน NFT EtherScan จะช่วยให้คุณเห็นธุรกรรมทั้งหมดบนบล็อกเชน Ethereum

และอย่าลืมติดตามโครงการบนโซเชียลมีเดียด้วย ตรวจสอบ Twitter และเข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ Discord ของพวกเขา ตัวโครงการนั้นควรที่จะมีนักลงทุนและนักสะสมจำนวนมากเพื่อที่จะสามารถแน่ใจได้ว่าตัวโครงการมีสภาพคล่องที่ดี มีคุณค่าทางศิลปะ และมีชุมชนที่ยั่งยืน

2. NFTs ลอกเลียนแบบ (Plagiarized NFTs)

กลโกง NFT Plagiarized 2

สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มีรายงานเกี่ยวกับการโจรกรรมผลงาน NFT เพิ่มขึ้น ผลงานของเหล่าศิลปินได้ถูกลอกเลียนแบบไป ซึ่งมันได้ถูกสร้างขึ้นเป็น NFT และขายให้กับผู้ที่คิดว่าพวกเขากำลังได้ของจริง

DeviantArt เป็นชุมชนออนไลน์ยอดนิยมที่มีสมาชิกกว่า 70 ล้านคนและผลงานศิลปะกว่าครึ่งล้านล้านผลงาน ศิลปินหลายๆ คนอ้างว่าพวกเขาเป็นเหยื่อของการโจรกรรมผลงาน DeviantArt ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ซึ่งใช้ในการสแกนบล็อกเชนสาธารณะและตลาด third-party มันจะช่วยแจ้งเตือนเกี่ยวกับผลงานที่อาจจะเป็นการลอกเลียนแบบให้แก่สมาชิก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 เป็นต้นมา มันได้ส่งการแจ้งเตือนไปมากกว่า 50,000 ครั้งเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลอกเลียนงาน NFT

NFTs และทรัพย์สินทางปัญญา

โปรดจำไว้ว่าการสร้างงานศิลปะเป็น NFT ไม่ได้หมายความว่าคุณมีทรัพย์สินทางปัญญา ซอฟต์แวร์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานของ OpenSea ทำให้ทุกคนสามารถเปลี่ยนรูปภาพหรือภาพถ่ายให้เป็น NFT ได้อย่างง่ายดาย นักต้มตุ๋นสามารถขโมยผลงานของศิลปินไปและสร้างบัญชี OpenSea ปลอมที่พวกเขาใช้เพื่อขายงานศิลปะลอกเลียนแบบได้อย่างง่ายดาย หากผู้คนในชุมชนพบว่านักต้มตุ๋นกำลังทำอะไร NFT ของคุณจะไร้ค่าทันที นอกจากนี้ คุณจะไม่มีทางได้รับเงินคืนหากเกิดเหตุการณ์นี้เช่นขึ้น

ทำการศึกษาค้นคว้าให้ดีก่อนที่คุณจะทำการซื้อผลงาน NFTs ใดๆ จากตลาด

เครื่องหมายถูกสีน้ำเงินข้างรูปโปรไฟล์ของศิลปินใน OpenSea และตลาด NFT อื่นๆ เป็นสัญญาณว่าพวกเขาเหล่านั้นได้รับการยืนยันแล้ว หรือลองค้นหาศิลปินผ่าน Twitter เว็บไซต์ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของพวกเขา และถามศิลปินโดยตรงว่างานศิลปะนั้นเป็นของพวกเขาหรือไม่ และมีโปรไฟล์ผู้ใช้งานที่ถูกต้องหรือไม่ อีกอย่างคือขอให้ผู้อื่นในช่อง Discord ช่วยในการยืนยันตรวจสอบข้อมูล

3. ฟิชชิ่ง (Phishing scams)

คุณจะต้องสมัครใช้กระเป๋าเงิน Crypto เพื่อซื้อ NFT แรกของคุณ MetaMask เป็นกระเป๋าเงิน Ethereum ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการรวบรวมสะสม NFT

เมื่อเร็วๆ นี้ ลูกค้าของ MetaMask ได้ตกเป็นเป้าหมายในการฟิชชิ่งที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาปลอมเพื่อขอคีย์กระเป๋าเงินส่วนตัวและ 12-word security phrase มันไม่ได้เป็รเพียงความพยายามในขโมยข้อมูลความปลอดภัยของคุณเท่านั้น นอกจากนี้ มันยังมีป๊อปอัป NFT ปลอมที่เป็นอันตรายผ่านทาง Telegram, Discord และฟอรัมสาธารณะอื่นๆ อีกด้วย

การโจมตีแบบฟิชชิ่งนั้นสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวและดูดเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณได้ “CryptoBatz” ของ Ozzy Osbourne ซึ่งรวบรวมค้างคาวดิจิทัลไว้เป็นจำนวน 9,666 ตัวได้ถูกการโจมตีแบบฟิชชิ่งนี้ เพียงสองวันหลังจากออกโทเค็น ผู้สนับสนุนก็ตกเป็นเป้าหมายของกลโกงฟิชชิ่ง กลโกงนี้ทำให้เงินดิจิทัลถูกดูดออกจากกระเป๋าเงิน ซึ่งทำงานโดยใช้ประโยชน์จากลิงก์ที่โพสต์โดยบัญชี Twitter อย่างเป็นทางการของโครงการ NFT

คุณจะต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงเช่นนี้?

เก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณให้เป็นส่วนตัวจริงๆ! คุณจะต้องใช้ seed phrase ของคุณในการสำรองข้อมูลฮาร์ดแวร์ของกระเป๋าเงิน Crypto หรือใช้เพื่อกู้กระเป๋าเงินของคุณคืน คุณไม่ควรป้อนข้อมูลใดๆ ในป๊อปอัป MetaMask หรือป๊อปอัปอื่นๆ! สำหรับการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลใดๆ ให้ไปที่เว็บไซต์ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเสมอ และอย่าใช้งานป๊อปอัป ลิงก์ หรือแม้กระทั่งอีเมลของคุณ

อย่าให้ seed phrase ของคุณแก่ใครเป็นอันขาด!

4. อินฟลูเอ็นเซอร์ Crypto จอมปลอม (Fake crypto influencers)

ความนิยมของ NFTs นั้นนำไปสู่การได้รับการสนับสนุนจากคนดังมากมาย ซึ่งคนดังเหล่านี้ทำกำไรได้หลากหลายวิธี อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยการซื้อขาย NFT นั้นมีการดำเนินการผ่านทางออนไลน์ มันจึงมีข้อมูลที่สาธารณชนรู้เกี่ยวกับการตลาดของโครงการอย่างจำกัด กลโกงบางอย่างเกี่ยวกับการสนับสนุนแบบปลอมๆ ก่อนที่ผู้คนจะตระหนักได้ว่าแบรนด์แอมบาสเดอร์คนดังนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการจริงๆ คนหลายคนมักจะต้องเสียเงินไปเปล่าๆ

ในเดือนตุลาคม 2021 โพสต์บนโซเชียลมีเดียเรื่องคอลเลกชัน NFT Trollz ของแร็ปเปอร์ชื่อดัง 6ix9ine ได้รับความสนใจมากมาย การสร้างอวาตาร์จะมอบค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้ถือ NFT โดยคืน 5% ให้กับเจ้าของเดิมของโทเค็น Trollz ในทุกการซื้อขาย

มีคำถามเกี่ยวกับความถูกต้องของโครงการนี้ผุดขึ้นมาทันที มันมีการอ้างว่าเงิน 100,000 ดอลลาร์จะถูกนำไปบริจาคเพื่อการกุศลต่างๆ แต่ผู้ซื้อผลงาน NFT หลายรายกล่าวว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ค่าลิขสิทธิ์ที่เคยกล่าวถึงก็ไม่เกิดขึ้นจริงเช่นกัน ไม่มีการเริ่มจัดหรือบริจาคแก่งานการกุศลที่โครงการสัญญาไว้ด้วยซ้ำ

เพื่อหลีกเลี่ยงกลโกงเหล่านี้ ก่อนอื่น ต้องตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการให้ดี ว่าโครงการได้รับการสนับสนุนจากคนดังจริงหรือไม่? โครงการนี้มีแนวโน้มที่จะทำตามคำมั่นสัญญาได้หรือไม่?

5. กลโกงการเสนอราคาที่สูงกว่า (Outbidding scams)

กลโกงในการเสนอราคาเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมากที่สุดในตลาดรอง มันจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนซื้อ NFT แล้วและต้องการจะขายต่อ ผู้เสนอราคาอาจเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้หลังจากที่คุณลงรายการขาย NFT ของคุณไปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ควรระวังให้ดี! โดยปกติแล้ว $5 จะไม่เท่ากับ 5 BTC

ตรวจสอบสกุลเงินอีกครั้งให้ดีและปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอที่ต่ำกว่าที่คุณยินดีจ่าย

6. เว็บไซต์หลอกลวง (Scam websites)

Scam Websites

เมื่อทำการซื้อเรียบร้อยแล้ว NFT เหล่านี้จะหายไป มันเป็นเพราะว่าสัญญาที่มีอยู่ในบล็อกเชนนั้นแตกต่างจากงานศิลปะจริง เมื่อคุณอัปโหลดงานศิลปะต้นฉบับลงบนแพลตฟอร์มอย่าง OpenSea มันจะถูกซื้อไปโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล เช่น Ethereum นี่เป็นสัญญาอัจฉริยะ

สัญญาอัจฉริยะคือสิ่งที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน ที่จริงแล้วบล็อกเชนมีสัญญาอัจฉริยะที่สร้างไว้อยู่ เนื้อหานั้นก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาอัจฉริยะ NFT หมายถึงความเป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้น สินทรัพย์นั้นสามารถเป็นอะไรก็ได้

ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแน่ใจว่าแพลตฟอร์มส่วนกลางที่คุณใช้อยู่นั้นเชื่อถือได้ จงตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ลงเอยด้วยการซื้อลิงก์ที่ตรงไปยังรูปภาพ สิ่งที่จัดเก็บไว้ใน URL นั้นเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ซื้อไม่ได้รับอะไรเลย

เพื่อหลีกเลี่ยงกลโกงนี้ เมื่อคุณซื้อ NFT ทำให้แน่ใจว่าคุณได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงหรือสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ไฟล์ JPEG หรือ MP3 หรือไฟล์ PDF

7. กลโกงการสนับสนุนทางเทคนิค (Technical support scam)

กลโกงนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา มันคือการที่นักต้มตุ๋นปลอมตัวเป็นผู้บริหารฝ่ายบริการลูกค้าของโครงการ NFT ต่างๆ โดยการติดต่อกับคุณแล้วขอข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน กลโกงเช่นนี้เกิดขึ้นมากมายบน Discord, Telegram หรือ Reddit ซึ่งฟอรัมเหล่านี้เป็นที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้สนับสนุน Crypto การให้ security phrase ของกระเป๋าเงินของคุณอาจหมายถึงการสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดที่คุณมีอยู่

หากคุณได้รับข้อความโดยตรงจากผู้ก่อตั้งโครงการดังกล่าว ให้คิดไว้ก่อนว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง โปรเจ็กต์ NFT ส่วนใหญ่จะไม่ส่งข้อความหาผู้ใช้งานโดยตรงผ่าน Discord หรือ Telegram

จงระวังเป็นพิเศษเมื่อซื้อ NFTs

คงไม่มีใครอยากที่จะพลาดเป็นส่วนหนึ่งกับสิ่งที่อาจจะเป็นการปฏิวัติวงการ เทคโนโลยีบล็อกเชนหรือ NFT นั้นเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากด้วยเหตุนี้ โดยปกติแล้ว ผู้คนก็คงไม่อยากที่จะพลาดสิ่งที่อาจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า

ความร่ำรวยจาก Crypto นั้นมีอยู่จริง แต่อย่างไรก็ตาม เหล่านักต้มตุ๋นก็ตระหนักดีว่ามันมีคนที่หวังว่าพวกเขาจะได้กลายเป็นคนที่ร่ำรวยคนต่อไป พวกนักต้มตุ๋นจึงเล่นไปตามสัญชาตญาณเหล่านี้และใช้กลอุบายต่างๆ เพื่อทำเงินจากผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาด NFT

คุณสามารถหลีกเลี่ยงกลโกงเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน เพียงแค่ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ จงทำการซื้อเมื่อคุณมั่นใจในข้อมูลเท่านั้น อย่างที่สอง ตรวจสอบค้นคว้าเกี่ยวกับโครงการที่คุณต้องการลงทุนให้ดี สุดท้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รักษาความปลอดภัยของข้อมูลของคุณเป็นอย่างดี

มันอาจจะเป็นเรื่องอยากที่จะตามข้อมูลเรื่อง NFT ให้ทัน เพราะงั้นทำไมไม่เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ Discord ของ BeInCrypto เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมีข้อมูลนำหน้าอยู่ตลอดเวลาล่ะ

คำถามที่พบบ่อย

กลโกง NFT ทำงานอย่างไร?

NFT เป็นของจริงหรือไม่?

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่า NFT ของฉันเป็นของจริง?

คุณสามารถปลอม NFT ได้หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน