Trusted

แพลตฟอร์ม DEX ที่ดีที่สุดทั้ง 11 แพลตฟอร์มในปี 2023

23 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

การช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ ก้าวแรกในการทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้คือพัฒนาการของกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchanges หรือ DEX) DEX นั้นจะช่วยให้ทุกคนที่มีอินเตอร์เน็ตและกระเป๋าเงินคริปโตสามารถซื้อหรือขายทรัพย์สินดิจิทัลของพวกเขาได้ มาเรียนรู้เพิ่มเติมกันว่า DEX คืออะไรและไปดู “แพลตฟอร์ม DEX ที่ดีที่สุดทั้ง 12 แพลตฟอร์มในปี 2023” กัน!

ต้องการอ่านรีวิวต่างๆ เกี่ยวกับโปรเจกต์และกระดานเทรดคริปโตยอดนิยมหรือไม่? เข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: มาอ่านรีวิวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องโปรเจกต์คริปโต และฟังการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ จากเหล่านักเทรดมืออาชีพ! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้

Decentralized Exchanges (DEX) คืออะไร?

Decentralized Exchanges (DEX) หรือ “กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ” คือแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ออนไลน์ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนแบบเปิดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการซื้อหรือขายคริปโตได้โดยไม่ต้องมีตัวกลางหรือบุคคลที่สาม (เช่น ธนาคาร)

กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจนั้นจะแตกต่างจากกระดานเทรดหุ้นแบบดั้งเดิมหรือกระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ การใช้ DEX นั้น ผู้ใช้งานจะมีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม บริการต่างๆ จะถูกกระจายอำนาจออกไประหว่างผู้ใช้งานแทนที่จะเป็นหน่วยงานส่วนกลาง การกระจายอำนาจในลักษณะนี้ทำให้ DEX มีหลักการที่สอดคล้องกับสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมการกระจายอำนาจและทำให้คุณมีอำนาจอธิปไตยทางการเงินเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

ยิ่งไปกว่านั้น กระดานเทรดคริปโตแบบกระจายอำนาจนั้นมีความยืดหยุ่นและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าระบบทางการเงินแบบดั้งเดิมหรือกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเองผ่านกระบวนการ Know Your Customer (KYC) พวกเขาแค่ต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตของพวกเขา, ค้นหาคริปโตที่พวกเขาต้องการ จากนั้นก็เริ่มทำการซื้อขายได้เลย

DEX นั้นยังลอกเลียนหลักการของคริปโตและอำนาจอธิปไตยทางการเงินในการดำเนินงานของพวกเขา พวกเขายังได้ใช้เทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างคริปโตอีกด้วย DEX ทั้งหมดนั้นถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนสาธารณะ พวกเขาจะทำการใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะต่างๆ ของเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น สัญญาอัจฉริยะ, โทเค็น, และเลเยอร์ อย่างไรก็ตาม DEX แต่ละแห่งนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไปตามฟีเจอร์เฉพาะตัวของพวกเขาเอง ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้มีตั้งแต่เรื่องโค้ดที่ใช้สร้าง DEX ไปจนถึงวิธีการที่ผู้ใช้งานสามารถตอบโต้กับแพลตฟอร์มได้

กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) ประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง?

ในแง่ของการทำงานและการกำหนดราคา ณ ปัจจุบัน มันจะมี DEX หลักๆ อยู่ 3 ประเภท

  • ประเภทแรกของ DEX ที่เราสามารถพบได้ทั่วไปคือ Automated Market Makers (AMMs) ซึ่งใช้อัลกอริทึมเพื่อกำหนดราคาสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเรียลไทม์ สิ่งที่พิเศษคือพวกเขาไม่มี Order Book (บันทึกประวัติคำสั่งซื้อขาย) ที่เป็นที่รู้จักกันจากกระดานเทรดแบบดั้งเดิม
  • ถัดมาคือ DEX ที่ใช้ Order Book แบบ On-Chain กระดานเทรดประเภทนี้จะบันทึกการซื้อขายที่เป็นไปได้ทั้งหมดสำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่เฉพาะเจาะจงลงบน Order Book การตอบโต้ของผู้ที่เต็มใจจะซื้อและขายบน Order Book ของ DEX นั้นจะเป็นตัวกำหนดราคาตลาดของสินทรัพย์นั้นๆ ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลการซื้อขายใน Order Book แบบ On-Chain ของ DEX นั้นจะถูกบันทึกลงบนบล็อกเชน แต่สินทรัพย์จะยังคงอยู่ในกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานแบบ Off-Chain
  • DEX ประเภทที่ 3 เป็น DEX ที่ใช้ Order Book แบบ Off-Chain ซึ่งอันที่จริงแล้ว มันเป็นการต่อต้านการใช้งานบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่า Order Book แบบ Off-Chain ของ DEX นั้นจะใช้อำนาจจากส่วนกลางในการประมวลผลธุรกรรม จากนั้น หลังจากที่ธุรกรรมถูกบันทึกลงบน Order Book แล้ว ธุรกรรมของสินทรัพย์จริงๆ ก็จะถูกจัดการบนเครือข่าย (On-Chain) ซึ่งหมายความว่าบล็อกเชนนั้นจะถูกใช้เพื่อการจัดการธุรกรรมการซื้อขายเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ DEX ประเภทนี้มีความรวดเร็วที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ลดลงเนื่องจากไม่มีข้อมูลธุรกรรมที่ถูกบันทึกลงบนเครือข่าย

สุดท้ายนี้ เรายังมีสิ่งที่เรียกกันว่า DEX Aggregators (ตัวรวบรวมข้อมูล DEX) ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและตัวเลือกในการซื้อขายให้กับผู้ใช้งานโดยการรวบรวมข้อมูลจาก DEX ต่างๆ แบบเรียลไทม์ ซึ่งในกรณีนี้ เหล่านักเทรดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยตนเอง แต่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ในที่เดียว ดังนั้น พวกเขาจึงจะได้ราคาที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

แพลตฟอร์มใดคือ DEX ที่ดีที่สุด

แพลตฟอร์ม

ฟีเจอร์เด่น

ค่าธรรมเนียม

เหรียญที่รองรับ

โบนัส

Changelly (สมัครใช้งาน)

การสนับสนุนลูกค้าแบบเรียลไทม์ 24 ช.ม. ทุกวัน

ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนคริปโตต่อคริปโตคงที่ 0.25%

500+ รายการ

เงินคืน 10 ดอลลาร์

StormGain DEX (สมัครใช้งาน)

ไม่ต้องยืนยันตัวตน

ไม่มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมสำหรับการฝากหรือถอนเงิน

BTC, ETH, LTC, XRP, ERC-20, และเหรียญ POW POS อื่นๆ

เงินคืน 10 ดอลลาร์

dYdX (สมัครใช้งาน)

ตัวเลือกการซื้อขายรายเดือนฟรี

ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงิน การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าแบบพิเศษฟรีสำหรับทุกคน สูงสุดถึง 100,000 ดอลลาร์ ต่อเดือน

ETH, BTC, SUSHI, ATOM, YFI, CRV, AVAX, MATIC, MKR, SOL, ZRX, FIL, UMA, AAVE, UNI, COMP, SNX, 1INCH, ALGO, LINK, DOT, XMR, ZEC, DOGE, ADA, BCH, EOS, LTC

ไม่มีโบนัสสำหรับผู้ใช้งานใหม่

ApeX Pro (สมัครใช้งาน)

กิจกรรมการซื้อขายเพื่อสร้างรายได้

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: 0.1% / ค่าธรรมเนียม Maker ทั่วไป: 0.02% / ค่าธรรมเนียม Taker ทั่วไป: 0.05%

BANA, USDC, BTC, ETH, XRP, CATOM, และ DOGE

มีกิจกรรมแจก Airdrops, โบนัสและรางวัลให้กับผู้ใช้งานเป็นประจำ

OKX DEX (สมัครใช้งาน)

รวบรวมราคาที่ดีที่สุดจากหลายๆ เครือข่ายและ DEX

ไม่มี

10+ เชน, 100+ DEX และ 100,000+ เหรียญ

ไม่มี

Curve (สมัครใช้งาน)

Yield Farming

ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.04%

ERC-20 Stablecoins, WBTC, ETH, FRAX, AVAX, รองรับสินทรัพย์มากมาย

ไม่มี

Balancer (สมัครใช้งาน)

AMM ที่มีความยืดหยุ่น

ค่าธรรมเนียมกลุ่ม (Pool) อยู่ระหว่าง 0.0001% ถึง 10%

โทเค็น ERC-20

ไม่มี

PancakeSwap (สมัครใช้งาน)

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ

ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.25%

โทเค็น BEP-20

ไม่มี

SushiSwap (สมัครใช้งาน)

Staking และ Farming

ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.3%

BEP-20

ไม่มี

Bancor (สมัครใช้งาน)

มีการป้องกัน Impermanent Loss

ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหรือถอนเงินจากโปรโตคอล Bancor แต่ละกลุ่ม (Pool) จะถูกกำหนดด้วยค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจงที่จะจ่ายให้กับผู้ให้บริการสภาพคล่อง

ERC-20

ไม่มี

DODO (สมัครใช้งาน)

SmartTrade

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม 0.3%

ERC-20 และโทเค็นของเชนที่ทำงานได้กับ EVM

ไม่มี

Uniswap (สมัครใช้งาน)

มีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับคู่การซื้อขายจำนวนมาก

ค่าธรรมเนียม 0.3% สำหรับการสวอปโทเค็น

โทเค็น ERC-20

ไม่มี

แพลตฟอร์ม DEX ที่ดีที่สุดทั้ง 12 แพลตฟอร์มในปี 2023

1. Changelly

Changelly: changelly.com

Konstanit Gladych ได้ก่อตั้ง Changelly ในสาธารณรัฐเช็กในปี 2013 มันเป็นกระดานเทรดคริปโตแบบ Non-Custodial ที่รองรับคริปโตกว่า 500 รายการ ซึ่งรวมไปถึงคริปโตที่หาซื้อขายได้ยากอย่าง Monero ด้วย คุณสามารถใช้ประโยชน์การสวอปแบบทันใจจากคริปโตหนึ่งไปเป็นอีกคริปโตหนึ่งได้โดยใช้ค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย — คงที่ที่ 0.25% สำหรับการสวอปคริปโตเป็นคริปโต

Changelly รองรับบริการชำระเงินที่หลากหลาย ดังนั้น คุณสามารถซื้อคริปโตของคุณได้ด้วย Apple Pay หรือบัตรเดบิตหรือเครดิตได้ การซื้อขาย Altcoins ที่ต่ำกว่า 150 ดอลลาร์นั้นไม่จำเป็นต้องลงสมัครบัญชีหรือตรวจสอบ KYC ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม มันสามารถใช้งานได้กับกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial เท่านั้น ธุรกรรม Fiat-to-Crypto (ซื้อ/แลกเปลี่ยนจากสกุลเงินเฟียตเป็นสกุลเงินดิจิทัล) ยังจะต้องใช้ข้อมูลประจำตัวบางอย่าง

Changelly ยังมีไลฟ์แชทที่ให้บริการอย่างเป็นมิตรตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และยังมีแอปมือถือสำหรับระบบ iOS และ Android อีกด้วย หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่สุดของ Changelly ก็คือ DeFi Swap มันไม่มีตัวกลาง ผู้ใช้งานจะต้องโต้ตอบกับสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งจะเป็นการกำหนดเงื่อนไขของการแลกเปลี่ยน ไม่มีคนกลาง, โปร่งใส, ไว้วางใจได้, และมีความกระจายอำนาจ

เทคโนโลยี Smart Router จะรวบรวมและมอบอัตราการซื้อขายคริปโตต่อคริปโตที่ดีที่สุดในตลาดให้กับผู้ใช้งาน แพลตฟอร์มนี้มีการเชื่อมต่อกับกว่า 100 DEX และยังมีการผสานรวมกับ 3 DEX Aggregator อีกด้วย

ข้อดี

  • ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • การสนับสนุนแบบเรียลไทม์
  • Non-Custodial
  • ประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถใช้บริการได้ในหลายๆ ประเทศ (รวมถึงประเทศสหรัฐฯ)
  • ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเป็นสกุลเงินเฟียต

วิธีแลกเปลี่ยนโทเค็น DeFi บน Changelly และรับเงินคืน 10 ดอลลาร์:

เพื่อรับเงินคืน คุณจะต้องสร้างกระเป๋าเงินบล็อกเชนบน Zengo ด้วยการใช้ลิ้งค์นี้ แล้วอย่าลืมใส่รหัสโปรโมชั่น ZENX0B4G ด้วยหล่ะ!

  1. ไปที่ Changelly.com
  2. เลือกสินทรัพย์คริปโตที่คุณต้องการแลกเปลี่ยนและคลิกที่ปุ่ม Exchange Now (แลกเปลี่ยนทันที)
  3. คลิกที่ปุ่ม Connect Wallet (เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน) ที่มุมขวาบน
  4. กรอก Wallet Address (ที่อยู่กระเป๋าเงิน) หรือสแกน QR Code
  5. แลกเปลี่ยนอย่างน้อย 200 ดอลลาร์ แล้วรับเงินคืน 10 ดอลลาร์ซึ่งจะส่งไปยังกระเป๋าเงิน ZenGo ของคุณโดยตรง

2. Stormgain

เว็บไซต์: https://stormgain.com/#dex

StormGain คือกระดานเทรดที่มาจากอังกฤษที่มีฟีเจอร์พิเศษมากมาย พวกเขานำเสนอประสบการณ์ผู้ใช้งานที่เรียบง่ายและแข็งแกร่ง การลงทะเบียนที่รวดเร็ว การเข้าถึงได้ในทุกที่ และมีให้บริการบนแอพมือถือทุกแห่ง (IOS, Android, Huawei)

ล่าสุด StormGain ได้เปิดตัว StormGain DEX ซึ่งคุณสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ของคุณได้โดยตรงบนบล็อกเชน Ethereum จากนั้น StormGain ยังได้ประกาศการสนับสนุน Binance Smart Chain และ Tron Coin ด้วย บน StormGain DEX คุณสามารถทำการซื้อขายได้ด้วยเทคโนโลยี DeFi ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้ไม่มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมสำหรับการฝากหรือถอนเงิน ผู้ใช้งานเพียงแค่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเครือข่ายบล็อกเชนเท่านั้น

สำหรับข้อมูลที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านี้ ผู้ใช้งานนั้นไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำการซื้อขายบน Stormgain DEX สิ่งที่คุณต้องมีคือกระเป๋าเงินเท่านั้น หากคุณเป็นคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวเหมือนกับนักเทรดคริปโตหลายๆ คน คุณจะเพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์การรักษาความเป็นส่วนตัวนี้

ข้อดี

  • การลงทะเบียนที่รวดเร็ว – เพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินบล็อกเชนของคุณ
  • ไม่ต้องมีการฝากเงินครั้งแรก
  • ไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันตัว
  • ควบคุมเงินทุนคริปโตของคุณได้อย่างสมบูรณ์
  • ซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจสูงถึง 500 เท่า

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับ BSC
  • ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แต่ยังคงอยู่ในช่วงเบต้าเท่านั้น

วิธีการเริ่มการซื้อขายบน StormGain DEX จากกระเป๋าเงิน ZenGo และรับเงินคืน 10 ดอลลาร์:

  1. สร้างกระเป๋าเงินบล็อกเชน ZenGo
  2. สมัคร ZenGo โดยใช้ลิ้งค์นี้ ใส่รหัสโปรโมชั่น ZENX0B4G เพื่อรับเงินคืน 10 ดอลลาร์เมื่อคุณทำการแลกเปลี่ยน 200 ดอลลาร์ขึ้นไป
  3. ไปที่เว็บไซต์ StormGain DEX แล้วคลิกที่ปุ่ม Connect Wallet (เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน)
  4. เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน ZenGo ของคุณผ่าน WalletConnect
  5. เพลิดเพลินไปกับการซื้อขายแบบไม่ระบุตัวตนของคุณโดยตรงจากกระเป๋าเงินบล็อคเชนของคุณ

3. dYdX

dYdX: dydx.exchange

ชื่อแรกในลิสต์ของเราได้แก่ dYdX ซึ่งเป็นกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ ผู้ใช้งานสามารถทำการซื้อขายด้วยมาร์จิ้นหรือซื้อขายสัญญาล่วงหน้าพิเศษ (Perpetual Contracts) ได้ กระดานเทรดนี้ถูกสร้างขึ้นบน StarkEx ซึ่งเป็นโซลูชั่นเลเยอร์ 2 ของ Ethereum มันใช้เทคโนโลยี Zero-Knowledge-Proof เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการกระจายอำนาจ มีความเป็นส่วนตัว และมีความปลอดภัย

นอกเหนือจากค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำแล้ว ผู้ถือโทเค็นยังจะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับการซื้อขายของพวกเขาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาประกาศถึงแผนการที่จะย้ายฟังค์ชั่นการทำงานไปยังบล็อกเชนของพวกเขาเองในระบบนิเวศ Cosmos ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็ว, ความสามารถในการปรับแต่ง, และความลื่นไหลของการซื้อขาย โดยจะเริ่มใช้งานใน DEX เวอร์ชั่นที่ 4

ถึงแม้ว่าจะมีการย้ายไปที่เชนอื่น แต่ DEX จะยังคงใช้งาน Order Books และรูปแบบการจับคู่แบบเดิมในฟังค์ชั่นการซื้อขายของพวกเขา เช่นเดียวกันกับโทเค็นดั้งเดิมและ Hedgies — ซึ่งเป็น NFT ของแพลตฟอร์ม — ต่อไป โทเค็นทั้ง 2 ตัวนั้นใช้ในการกำกับดูแล อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นรางวัลที่ช่วยเป็นแรงจูงใจให้ผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานกระดานเทรดอีกด้วย

ข้อดี

  • มีอินเตอร์เฟซที่สะอาดตา
  • ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว
  • มีประเภทของคำสั่งการซื้อขายยอดนิยมที่ให้เลือกใช้ได้มากมาย

ข้อเสีย

  • มีตัวเลือกคู่การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นที่จำกัด
  • มีตัวเลือกการสวอปเหรียญ/โทเค็นที่จำกัด

4. ApeX PRO

Apex: apex.exchange

รายชื่อถัดมาก็คือ ApeX Pro กระดานเทรด Crypto แบบ Non-Custodial ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึงการซื้อขายอนุพันธ์ Crypto โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Perpetual Futures Contracts (สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่มีกำหนดเวลา) ด้วยการใช้เอนจิ้นความสามารถในการปรับขนาดของแพลตฟอร์ม StarkEx ซึ่งเป็นโซลูชั่นเลเยอร์ 2 ของ Ethereum

ผู้ใช้งานของ ApeX นั้นจะไม่ต้องผ่านกระบวนการ KYC ซึ่งช่วยให้พวกเขามีความเป็นส่วนตัวในระดับที่สูงเมื่อทำการซื้อขาย ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มยังไม่มีการเรียกเก็บค่าแก๊สสำหรับการซื้อขายอีกด้วยแพลตฟอร์มนี้ยังให้ค่าความคลาดเคลื่อนที่ต่ำพร้อมทั้งเลเวอเรจกับผู้ใช้งานผ่านกลไก Order Book ของพวกเขา

DEX นี้เป็น Multi-Chain ทำให้มันสามารถทำการซื้อขายโทเค็นจาก Ethereum, ERC-20 และโทเค็นอื่นๆ จากเชนที่ทำงานร่วมกับ EVM ได้ สุดท้ายนี้ แพลตฟอร์มนี้มีโทเค็นหลักอยู่ 2 ตัว ได้แก่ APEX และ BANA โดย APEX จะใช้ในการกำกับดูแลและใช้เป็นรางวัลให้กับผู้ใช้งาน ในขณะที่ BANA จะเป็นโทเค็นรางวัลในระบบนิเวศ ApeX Pro

ข้อดี

  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 20 เท่า
  • มีเป็นแอปมือถือของ Android/iOS ในชื่อ ApeX Pro
  • มี Testnet — บัญชีซื้อขายทดลองที่ไร้ความเสี่ยง
  • สามารถซื้อขาย Perpetual Contracts ของ Crypto ชั้นนำได้

ข้อเสีย

  • มีตัวเลือกตราสารการซื้อขายที่จำกัด

5. OKX DEX

OKX DEX: okx.com

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า OKX นั้นมี DEX ด้วยเช่นกัน OKX DEX นั้นเป็นกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจที่สร้างขึ้นบน OKC ซึ่งเป็นบล็อกเชนระดับองค์กรของ OKX มันช่วยให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นใดๆ ข้ามเชนใดๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อขายหรือคู่การซื้อขาย ส่วนที่ดีที่สุดคือคุณจะมีถึง 10+ เชน, 100+ DEX และ 100,000+ เหรียญที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้

อัลกอริทึม X Routing ของ OKX จะค้นหาราคาที่ดีที่สุดจากในทุกๆ DEX พวกเขาเปรียบเทียบราคาจาก Liquidity Providers (LPs) กับแหล่งรวมสภาพคล่องที่ดีที่สุด และจะนำมาคำนวนในราคา, ส่วนต่างของราคา, และค่าธรรมเนียมเครือข่าย เอนจิ้น KYT (Know Your Trade) Risk จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียสินทรัพย์โดยการตรวจจับราคาซื้อขายที่ไม่เอื้ออำนวย, โทเค็นปลอม, การ Rug Pull, การหลอกลวง, และอัตราการเผาเหรียญที่สูง

การซื้อขายบน OKX DEX จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่นมากขึ้นและค่าใช้จ่ายในการซื้อขายที่ลดลง แตกต่างจากบล็อกเชนแบบเปิดเช่น Ethereum OKC นั้นมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่าและเฉพาะเจาะจงมากขึ้นสำหรับการซื้อขาย DApps และ DEX สิ่งนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้ง DApps สำหรับการซื้อขายให้กับผู้พัฒนา และลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายทางอ้อมให้กับลูกค้า

ข้อดี

  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ
  • รวบรวมราคาที่ดีที่สุดจากหลายๆ เครือข่ายและ DEX
  • เปิดให้บริการทั่วโลก

ข้อเสีย

  • ปริมาณการซื้อขายต่ำ

6. Curve

Curve: curve.fi

DEX แบบ AMM อีกแห่งที่คุณควรจะรู้จักคือ Curve ซึ่งเป็นกระดานเทรดที่มีความเชี่ยวชาญด้านการซื้อขาย Stablecoins เป็นหลัก

Curve — ซึ่งเดิมสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain — มอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ใช้งานของพวกเขา หนึ่งในสิทธิพิเศษเหล่านี้ก็คือความสามารถในการใช้งานสิ่งใดก็ตามที่คุณใช้ลงทุนใน Curve บนแอปอื่นๆ ในระบบนิเวศ DeFi ซึ่งฟังค์ชั่นนี้ถูกเรียกว่า DeFi Composability

แพลตฟอร์มนี้ใช้งาน CRV — ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิม — สำหรับการกำกับดูแลและยังใช้เป็นแรงจูงใจให้กับผู้ใช้งานของพวกเขา ผู้ใช้งานสามารถซื้อหรือรับ CRV ได้จากการ Yield Farming เมื่อผู้ใช้งานฝากสินทรัพย์ลงใน Liquidity Pool (กลุ่มสภาพคล่อง) พวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น CRV

ข้อดี

  • ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • Non-Custodial
  • มี Liquidity Pool มากมาย

ข้อเสีย

  • ไม่ค่อยเป็นมิตรกับมือใหม่
  • หากเกิดปัญหาขึ้นกับ DeFi Pool ที่เชื่อมต่ออยู่ Curve Pool อาจจะได้รับผลกระทบด้วย

7. Balancer

DEX
Balancer: balancer.fi

Balancer เป็น DEX ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อขาย Crypto ได้ มันยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการสภาพคล่องและผู้จัดการพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ

เดิมทีนั้น Balancer ถูกสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain DEX นี้ใช้กลไก AMM เพื่อช่วยในการกำหนดราคา แพลตฟอร์มนี้มีอยู่ 2 ฟังค์ชั่น โดยเป็นกระดานเทรดสำหรับนักเทรดและเป็นกองทุนเพื่อการลงทุน กองทุนนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มบางส่วนได้ หากพวกเขาเลือกที่จะเป็น

Balancer นั้นมี Liquidity Pool เช่นเดียวกับ DEX ที่ใช้งาน AMM รายอื่นๆ ที่นี่ ผู้ใช้งานสามารถฝากสินทรัพย์ Crypto ของพวกเขาเพื่อช่วยในการจัดการระบบนิเวศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของราคา ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานยังมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ สำหรับ Balancer ด้วยการถือครองโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์มอย่าง BAL ก็จะช่วยให้สามารถกำกับดูแลแพลตฟอร์มได้

ข้อดี

  • AMM แบบปรับแต่งได้
  • กลุ่มหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Pools)

ข้อเสีย

  • มีความเสี่ยงที่จะพบโทเค็นหลอกลวงสูง
  • ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน

8. PancakeSwap

DEX
PancakeSwap: pancakeswap.finance

แพลตฟอร์ม DEX ยอดนิยมนี้ทำงานอยู่บน BNB Chain PancakeSwap ใช้ประโยชน์จาก AMM เพื่อทำให้การซื้อขาย Crypto ในแบบกระจายอำนาจเกิดขึ้นได้ ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ให้บริการสภาพคล่องนั้นสามารถฝากสินทรัพย์ Crypto ของพวกเขาลงใน Liquidity Pool ได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยสร้างสภาพคล่องให้กับ DEX

นอกเหนือจากการซื้อขาย/แลกเปลี่ยน Crypto แบบดั้งเดิมแล้ว PancakeSwap ยังช่วยให้ผู้ใช้งานของพวกเขาเข้าถึงบริการอื่นๆ เพิ่มเติมได้ โดยสามารถมีส่วนร่วมในการ Yield Farming, การ Staking และการซื้อขาย NFTs ได้ พวกเขายังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์อื่นๆ บนแพลตฟอร์มได้ อย่างเช่น Initial Farm Offerings (IFOs), PancakeSwap Lotteries, Prediction Markets และ Syrup Pools

ผู้ใช้งานยังมีสิทธิ์ที่จะโหวตเพื่อตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม ซึ่งพวกเขาจะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวโดยการถือ CAKE ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์มเอาไว้

ข้อดี

  • ค่าความคลาดเคลื่อนต่ำ
  • ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ
  • มีปริมาณธุรกรรมที่สูง

ข้อเสีย

  • เครือข่ายมีความแออัด
  • มีความเสี่ยงที่จะพบโทเค็นหลอกลวงสูง

9. SushiSwap

DEX
SushiSwap: sushi.com

แพลตฟอร์ม DEX อีกตัวที่มีการโฮสต์อยู่ในหลายๆ เชนได้แก่ SushiSwap พวกเขาถูกสร้างขึ้นในฐานะโคลนของ UniSwap ซึ่งตัว UniSwap เองนั้นได้เปิดให้ทุกคนสามารถใช้โอเพ่นซอร์สโค้ดเพื่อสร้าง DEX ของตนเองได้ ผู้ก่อตั้งดั้งเดิมที่อยู่เบื้องหลัง SushiSwap ได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้โดยการคัดลอกและใช้งานโค้ดของ UniSwap เพื่อสร้าง SushiSwap

ถึงแม้ว่าจะใช้โค้ดของ UniSwap แต่แพลตฟอร์มก็ยังมีคุณลักษณะพิเศษอย่างรางวัลการขุดสภาพคล่องที่ช่วยดึงดูดผู้ให้บริการสภาพคล่องของพวกเขาเอง นอกจากนี้ พวกเขายังอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลได้ด้วยการถือครอง SUSHI ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม

เดิมทีมันถูกสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain ปัจจุบัน SushiSwap นั้นยังปรากฏอยู่ในเชนอื่นๆ อีก 14 เชน ซึ่งรวมไปถึง Polygon, Arbitrium, Moonbeam, Optimism, และ Avalanche

10. Bancor

DEX
Bancor: home.bancor.network

โปรโตคอล Bancor เป็นแพลตฟอร์มกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจที่ช่วยให้สามารถแปลงสินทรัพย์ Crypto ได้ในทันที พวกเขาทำงานบน Ethereum Blockchain และเป็น Automated Market Maker (AMM)

ต่างจาก DEX รายอื่นๆ Bancor นั้นต้องการที่จะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ให้บริการสภาพคล่อง แม้กระทั่งเหรียญที่มีมูลค่าตลาดต่ำก็ตาม ด้วยวิธีการดังกล่าว พวกเขาหวังว่าจะสามารถให้การเข้าถึง Cryptocurrency ตัวอื่นๆ ที่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจรายอื่นๆ

แต่สิ่งที่เหมือนกับ DEX รายอื่นๆ คือ Bancor ให้อำนาจชุมชนในการกำกับดูแล ทำได้โดยการถือครองโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์มอย่าง VBNT ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโหวตในการตัดสินใจต่างๆ ได้ โทเค็นตัวอื่นๆ ที่สำคัญของแพลตฟอร์มนั้นรวมไปถึง BNT สกุลเงินสำรองดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม ETHBNT โทเค็นที่เป็นตัวแทนของ BNT และ ETH ในกลุ่มสินทรัพย์ Bancor/Ethereum ซึ่งเป็นโทเค็นที่ได้รับความนิยมบน Bancor

ข้อดี

  • มีการป้องกัน Impermanent Loss (ค่าส่วนต่างที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง)
  • รองรับโทเค็นจำนวนมาก
  • เป็นสภาพคล่องเพียงฝั่งเดียว

ข้อเสีย

  • แพลตฟอร์มการซื้อขายแบบรวมศูนย์ของบุคคลที่สาม
  • ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน

11. DODO

DEX
DODO: dodoex.io

DODO กระดานเทรด Crypto ที่สร้างขึ้นบน Ethereum และ BNB Chain อัลกอริทึมเฉพาะของพวกเขานั้นรู้จักกันในชื่อ ‘Proactive Market Maker Algorithm’ อัลกอริทึมนี้จะถูกใช้ในการค้นหาราคาและสภาพคล่องที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ AMM รายอื่นๆ อัลกอริทึมนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้โปรเจกต์เล็กๆ ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ที่สร้างขึ้นใหม่ สามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายยิ่งขึ้น

DODO ยังมีฟีเจอร์หลักที่มีชื่อว่า SmartTrade ซึ่งจะให้บริการการรวบรวมสภาพคล่องแบบกระจายอำนาจซึ่งจะกำหนดและเปรียบเทียบแหล่งสภาพคล่องเพื่ออ้างอิงค่าสวอปที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโทเค็นที่ทำการซื้อขาย อีกฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแพลตฟอร์มคือ Crowdpooling ที่นี่ จะอนุญาตให้โปรเจกต์แจกจ่ายโทเค็นได้อย่างเท่าเทียมโดยไม่ถูกแทรกแซงจากบอท ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างกลยุทธ์การทำตลาดของตนเองได้

ผู้ใช้งาน DODO ยังสามารถโหวตในเรื่องการกำกับดูแลได้โดยการใช้โทเค็นดั้งเดิมที่มีชื่อว่า DODO

ข้อดี

  • ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ
  • มีการกำหนดราคาที่แม่นยำมาก
  • ไม่มีการฝากขั้นต่ำสำหรับผู้ให้บริการสภาพคล่อง
  • มีการป้องกัน Impermanent Loss (ค่าส่วนต่างที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง)

ข้อเสีย

  • การยอมรับและ TVL ยังคงลดลงเรื่อยๆ

12. Uniswap

Uniswap: uniswap.org

Uniswap เป็น DEX ที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของปริมาณการซื้อขาย แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยอำนวยสะดวกในการซื้อขาย Crypto โดยการใช้พลังของ AMM ในฟังค์ชั่นการซื้อขายและการกำหนดราคาของพวกเขา

เดิมที แพลตฟอร์มนั้นถูกสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้ย้ายไปยังระบบนิเวศบล็อกเชนและเลเยอร์ 2 อื่นๆ มันสามารถทำงานร่วมกับโทเค็น ERC-20 ได้ Uniswap นั้นทำงานได้โดยการใช้สัญญาอัจฉริยะ 2 ตัว ตัวแรกคือ Exchange Contract ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการสวอปโทเค็น ตัวที่ 2 คือ Factory Contract ซึ่งจะถูกใช้เมื่อมีการเพิ่มโทเค็นใหม่ลงไปในแพลตฟอร์ม

Uniswap นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการที่พวกเขาอนุญาตให้ใครก็ได้เพิ่มโทเค็นใหม่ลงไปในแพลตฟอร์มได้ พวกเขายังช่วยให้ผู้พัฒนาใช้ประโยชน์จากโอเพ่นซอร์สโค้ดของพวกเขาเพื่อสร้างกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจของตนเองได้ ยิ่งไปกว่านั้น Uniswap ยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถทำการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องการกำกับดูแลได้ด้วยการใช้ UNI ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม ผู้ถือ UNI แต่ละคนจะสามารถโหวตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาเพิ่มเติมต่อแพลตฟอร์มได้

ข้อดี

  • มีสภาพคล่องเพียงพออยู่เสมอ
  • ไม่ต้องลงทะเบียน
  • มี UX ที่เป็นมิตร

ข้อเสีย

  • ค่าแก๊ส
  • มีความเสี่ยงที่จะพบโทเค็นหลอกลวงสูง

กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น

กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) นั้นสัญญาว่าจะให้ความเป็นอิสระและความปลอดภัยที่เหนือกว่ากระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) ในปี 2022 นั้น เราต่างได้เห็นถึงจุดอ่อนของ CEX (หรือถ้าจะให้กล่าวคือ การรวมศูนย์ของพวกเขา) ทำให้มีโอกาสที่ “แพลตฟอร์ม DEX” นั้นจะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นไปอีกในปีต่อๆ ไป และเช่นเดียวกับการลงทุนในนวัฒกรรมอื่นๆ ในพื้นที่ Crypto ผู้ใช้งานควรจะทำการศึกษาข้อมูลต่างๆ ของ DEX ให้ดีก่อนที่จะเริ่มทำการซื้อขาย ให้แน่ใจคุณทำการลงทุนเฉพาะเงินเย็นที่คุณจะไม่ลำบากหากสูญเสียมันไป และให้ทำการซื้อขายเฉพาะบนกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจที่มีการตรวจสอบโค้ดจากผู้ตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะบุคคลที่สามเท่านั้น

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

  • Order Book: บันทึกประวัติคำสั่งซื้อขาย ซึ่งจะเป็นที่ที่แสดงคำสั่งซื้อและขายของนักเทรด
  • Zero-Knowledge-Proof: คือกระบวนการยืนยันข้อมูลที่ทำให้ผู้ยื่นขอตรวจสอบสามารถพิสูจน์ต่อผู้ตรวจสอบได้ว่า ผู้ยื่นขอตรวจสอบมีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลจริง โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลชุดนั้นๆ
  • Automated Market Maker (AMM): เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ DeFi ซึ่งเป็นการทำงานของ Smart Contract (สัญญาอัจฉริยะ) ที่จะทำหน้าที่จับคู่สินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ใน Liquidity Pools (กลุ่มสินทรัพย์) โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบรวมศูนย์หรือมนุษย์ในการควบคุมการทำงานของมัน
  • Yield Farming: รูปแบบการทำกำไรอย่างหนึ่งที่คล้ายๆ กับการ Staking เพียงแต่ว่า เงินที่เราฝากเข้าไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในระบบจริงๆ (ไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้) และมันจะกลายเป็นสภาพคล่องให้ระบบ และจะให้ผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ

คำถามที่พบบ่อย

DEX นั้นมีการกระจายอำนาจอย่างไร?

ความแตกต่างของแพลตฟอร์ม DEX และ DeFi คืออะไร?

ไซต์ DEX ใช้งานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน