จำนวนของผู้ที่ชื่นชอบ Cryptocurrency เพิ่มสูงขึ้นทั่วทั้งโลก รวมไปถึงบริษัทต่างๆ ที่เปิดตัว Cryptocurrency ของตน มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่การเขียนโปรแกรมบล็อกเชนกลายเป็นหนึ่งในอาชีพด้านเทคโนโลยีที่ทำเงินได้มากที่สุด ถ้าหากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ “ภาษาโปรแกรม” ที่ใช้ในการพัฒนาบล็อกเชนและแอปพลิเคชั่นกระจายอำนาจ (dApps) บทความนี้เหมาะสำหรับคุณ!
เนื่องจากการพัฒนาบล็อกเชน — ซึ่งเป็นสาขาที่กำลังเฟื่องฟู — นั้นกำลังแทรกซึมเข้าสู่ทุกๆ อุตสาหกรรมและธุรกิจ BitcoinWorldwide ได้ประมาณการว่า ณ เดือนธันวาคม 2017 มีผู้ใช้งาน Cryptocurrency มากกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเท่ากับว่า 3.9% ของประชากรโลกนั้นเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล
เราจะอธิบายให้คุณเข้าใจว่าการพัฒนาบล็อกเชนคืออะไรและภาษาโปรแกรมยอดนิยมที่ใช้ในการพัฒนาบล็อกเชนคือภาษาใด
การพัฒนาบล็อกเชนคืออะไร?
การพัฒนาบล็อกเชนเป็นกระบวนการสร้างแอปพลิเคชั่นบล็อกเชน มันจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นประเภทต่างๆ บนแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ผู้ใช้งานสามารถใช้เพื่อจัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องให้บุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังบล็อกเชนได้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี 1991 แต่ได้รับการพัฒนาในปี 2008 โดย Satoshi Nakamoto ผู้เผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ของ Bitcoin — A Peer-to-Peer Electronic Cash System ซึ่งมีการพัฒนาเป็นอย่างมากนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา — ปัจจุบันมี Cryptocurrency อยู่มากกว่า 20,000 ตัวในตลาดในปัจจุบัน!
11 อันดับยอดนิยมของ “ภาษาโปรแกรม” ที่ใช้ในการพัฒนาบล็อกเชน
เทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นกำลังเติบโตอย่างทวีคูณ ดึงดูดนักพัฒนาที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติโลกในครั้งนี้ สาขานี้จะประกอบไปด้วยภาษาโปรแกรมต่างๆ มากมาย โดยแต่ละภาษาก็จะมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกันไป แต่ภาษาไหนที่คุณควรเรียนรู้กันแน่? คำตอบนั้นจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณในฐานะโปรแกรมเมอร์และประเภทของโปรเจกต์ที่คุณกำลังทำอยู่
ต่อไปนี้คือ “ภาษาโปรแกรม” บางส่วนที่ใช้กันทั่วไปในการพัฒนาบล็อคเชน:
1. Solidity
Solidity เป็นภาษาโปรแกรมที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการสร้างสัญญาอัจฉริยะ Ethereum มันเป็น Domain-Specific Language หรือ DSL ซึ่งหมายความว่า มันเป็นภาษาที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งในกรณีนี้คือการสร้างสัญญาอัจฉริยะนั่นเอง
มันเป็น DSL ที่ใช้คอนเซปต์การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุและการเขียนโปรแกรมระดับสูงเพื่อพัฒนาสัญญาอัจฉริยะ นักพัฒนานั้นคิดว่า Solidity เป็นภาษาโปรแกรมบล็อกเชนที่มีการใช้งานมากที่สุดและเสถียรที่สุดในปัจจุบัน Solidity นั้นได้รับอิทธิพลจากภาษา C++ และ Python และได้รับการออกแบบมาเพื่อมุ่งเป้าไปยัง Ethereum Virtual Machine (EVM)
Solidity มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจบน Ethereum Blockchain ในปี 2015 Gavin Wood, Christian Reitwiessner, Liana Husikyan และ Yoichi Hirai ได้เปิดตัว Solidity เวอร์ชั่นแรก พวกเขากำลังทำงานเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Ethereum อยู่ ณ ขณะนั้น
มันได้กลายเป็นภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในชุมชน Ethereum และอุตสาหกรรมบล็อกเชน Solidity ยังเป็นหนึ่งในภาษาโปรแกรมบล็อกเชนภาษาแรกๆ ที่ต้องเรียนรู้เพื่อพัฒนา dApps
Solidity นั้นมีประโยชน์มากมาย เช่น การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน JavaScript, ความแม่นยำสูง, ความเป็นมิตรกับนักพัฒนา, และใช้งานง่าย ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนา dApps หรือ ICO
บล็อกเชนที่ใช้ Solidity ได้แก่ Avalanche, CounterParty, Smart Chain, Tendermint, Ethereum Classic, Binance, Tron และ Hedera
2. Rust
Rust เป็นภาษาโปรแกรมเอนกประสงค์ที่ Gradon Hoare ผู้พัฒนา Mozilla พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2006 นักพัฒนาซอฟต์แวร์นั้นรู้โดยทั่วกันว่า Rust นั้นเหมาะสำหรับสำหรับการสร้างโซลูชั่นที่ไม่เปลี่ยนรูปแบบ, สร้างสรรค์, และปลอดภัย
ภาษา Rust นั้นจะเน้นความปลอดภัยของหน่วยความจำ การช่วยตรวจสอบความถูกต้อง และการทำงานพร้อมกัน โครงสร้างทางภาษาของมันจะคล้ายกับภาษา C++ แต่จะมีฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มเติมเช่นการจับคู่รูปแบบและการทำงานพร้อมกัน จากคุณสมบัติเหล่านี้ บริษัทเทคโนโลยีเช่น Discord และ Dropbox จึงได้นำ Rust มาใช้
สิ่งที่สำคัญพอๆ กันก็คือ Rust ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเฟรมเวิร์กที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยมีตัวเลือกหน่วยความจำและความสามารถในการทำงานพร้อมกันได้ดีกว่าภาษาอื่นๆ เช่น C++ หรือ C#
นักพัฒนาได้โหวตให้ Rust เป็นภาษาโปรแกรมที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันในแบบสำรวจปี 2020 ของ Stack Overflow
Rust นั้นเหมาะสำหรับโปรเจกต์ต่างๆ เช่น Solana, Polkadot, Hyperledger Sawtooth (สำหรับสถาบันการเงิน) และ Zcash เหรียญที่มีความเป็นส่วนตัว (สำหรับธุรกรรมที่ไม่ต้องการระบุตัวตน)
3. Python
Python เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงสำหรับวัตถุประสงค์โดยทั่วไป มันมีไวยากรณ์ที่ชัดเจนและการอ่านโค้ดได้ชัดเจน ตลอดจนไลบรารีและเครื่องมือมากมายที่สนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน
โครงสร้างทางภาษาของ Python นั้นตรงไปตรงมามากพอที่จะให้โปรแกรมเมอร์ที่ไม่มีประสบการณ์สามารถอ่านโค้ดที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญได้ มันจะไม่รวมข้อกำหนดที่สงวนไว้ใดๆ ที่จะทำให้โปรแกรมเมอร์ที่มีประสบการณ์รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากในการเลือกสิ่งที่พวกเขากำลังพยายามทำให้สำเร็จ
Guido van Rossum คือผู้ที่สร้าง Python ขึ้นมา ปรัชญาการออกแบบของมันจะเน้นไปที่ความสามารถในการอ่านโค้ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พื้นที่ว่าง (Whitespace) ที่สำคัญ Python เป็นภาษาเชิงวัตถุแบบไดนามิกที่มีมาตั้งแต่ปี 1991 มันเป็นโอเพ่นซอร์สและเรียนรู้ได้ง่าย แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพในการใช้สร้างต้นแบบใดๆ
อันที่จริง Python ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนกลายเป็นสินทรัพย์ในเวที Blockchain-as-a-Service (BaaS) — เป็นหนึ่งในภาษาที่ต้องการมากที่สุดสำหรับการพัฒนา dApps
ตัวอย่างของโซลูชั่นบล็อกเชนซึ่งพัฒนาโดยใช้ภาษานี้ ได้แก่ Hyperledger Fabric, NEO และ Steem
Python รองรับ OOP (Object Oriented Programming) และไลบรารี่ของมันนั้นใหญ่มาก!
4. JavaScript
JavaScript เป็นภาษาแบบ Multi-Paradigm สำหรับเว็บแอปพลิเคชั่นแบบโต้ตอบ มันมีมานานกว่า 20 ปีแล้วและเป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Google, Facebook, Twitter และ Netflix ก็สร้างเวบไซต์ของพวกเขาขึ้นโดยใช้ JavaScript
ไลบรารีและเฟรมเวิร์กของพวกเขา เช่น jQuery, Angular และ Node เป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเว็บสมัยใหม่
JavaScript เป็นภาษาแบบ Multi-Paradigm ที่สามารถใช้งานแตกต่างกันเพื่อจัดการกับสถานการณ์บางอย่างได้ ตัวอย่างเช่น การจัดการ Asynchronous Actions ซึ่งเหมาะสำหรับการพัฒนาบล็อกเชน
โซลูชั่น JavaScript: Lisk’s (SDK) เขียนด้วย JavaScript ซึ่งช่วยให้สร้างแอปพลิเคชั่นบนบล็อกเชนของ Lisk ได้ อีกตัวอย่างหนึ่งของวิธีการใช้ JavaScript ในโซลูชั่นบล็อกเชนคือ Hyperledger Fabric SDK สำหรับ node.js
5. Golang
Golang เป็นภาษาโปรแกรมที่เป็นแบบ Compiled และ Statically Typed ซึ่งนักพัฒนาทั่วโลกชื่นชอบจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของมัน ตัวอย่างเช่น Go นั้นใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับนักพัฒนา ดังนั้นมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญก็สามารถใช้งานได้
คุณสมบัติที่ทรงพลังของมัน ได้แก่ การสร้างเว็บแอปพลิเคชั่นที่ราบรื่น, มีรันไทม์ที่มีประสิทธิภาพ, การรวบรวมขยะ, และการพิมพ์ที่เป็นระเบียบ — ซึ่งหมายความว่ามันมีการจัดระเบียบโครงสร้างทางภาษา
ใน Go วิธีการที่เรียกว่า Goroutines ได้ให้ความสามารถในการเรียกใช้หลายโปรแกรมไปพร้อมกัน ภาษาโปรแกรม Go เผยแพร่สู่สาธารณะในปี 2012 มันเป็นภาษาที่มีความอเนกประสงค์และมีประสิทธิภาพในการรองรับการประมวลผลแบบคู่ขนาน ซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับบริษัทใหญ่ที่กำลังมองหาโซลูชั่นบล็อกเชน
Go นั้นรวมโครงสร้างทางภาษาและความเป็นมิตรกับผู้ใช้งานของ Python และ Javascript เข้าไว้ด้วยกันกับข้อดีด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของภาษา C มันมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายที่จะช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดได้เร็วกว่าภาษาอื่นๆ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ยังใหม่กับสาขานี้ หรือไม่ก็แค่เพียงต้องการวิธีที่รวดเร็วกว่าในการเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด
- Go-Ethereum: ไคลเอนต์ Ethereum เขียนด้วย Golang ซึ่ง EthDev ใช้กับ GitHub
- Hyperledger Fabric: เฟรมเวิร์กบล็อกเชนที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Apache Corda
6. Java
James Gosling และทีมงานของเขาที่ Sun Microsystems ได้พัฒนาภาษาโปรแกรม Java ขึ้นมาในปี 1992 มันถูกออกแบบให้เป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุที่เป็นอิสระต่อแพลตฟอร์มใดๆ
Java เป็นหนึ่งในภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก คุณสามารถใช้มันเพื่อพัฒนาแอนดรอยด์ เว็บ และแอปพลิเคชั่นฝั่งเซิร์ฟเวอร์ได้ Java ยังเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เชิงวัตถุ, มีวัตถุประสงค์ใช้งานโดยทั่วไป, ทำงานได้พร้อมกัน, เขียนแบบอิงตามคลาส นอกจากนี้ มันยังเป็นภาษาที่คอมไพล์และทำงานบน JVM (Java Virtual Machine) ทางฝั่งไคลเอ็นต์
มันเป็นหนึ่งในภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก จากข้อมูลของ GitHub Java นั้นมีนักพัฒนามากกว่า 9 ล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ Java ยังดีที่สุดในพื้นที่บล็อกเชนสำหรับการใช้งานมันในสัญญาอัจฉริยะ ตัวอย่างเช่น เครือข่าย NEM Blockchain ถูกสร้างขึ้นด้วย Java
คุณสมบัติมากมายทำให้ Java มีประโยชน์มากในการพัฒนาบล็อกเชน:
- Java มีการทำงานพร้อมกันแบบเนทีฟ (สามารถจัดการงานหลายงานได้พร้อมกัน) และรองรับมัลติเธรด ทำให้มีการติดตั้งที่ดีกว่าภาษาอื่นสำหรับการจัดการ Asynchronous Actions
- มันจะพึ่งพาการทำงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าโค้ดของคุณจะทำงานบนระบบปฏิบัติการหรือการกำหนดค่าฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันได้หรือไม่
7. Ruby
Ruby เป็นภาษาที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่นโดย Yukihiro Matsumoto มันอ้างอิงหลักการของความเรียบง่ายและประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างต้นแบบจากวิสัยทัศน์ของพวกเขาได้เร็วขึ้นด้วย API และปลั๊กอินของ 3rd Party
Ruby เป็นภาษาแบบ Multi-Paradigm ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถเลือกรูปแบบการเขียนโปรแกรมต่างๆ ได้ตามความต้องการ แนวทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ซึ่งช่วยให้โปรแกรมเมอร์สร้างวัตถุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในส่วนอื่นๆ ของ Codebase
สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ Ruby คือความสามารถในการจัดสรรหน่วยความจำของมัน มันช่วยให้นักพัฒนาสามารถจัดสรรหน่วยความจำได้ตามต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่จะหมดไปหรือไม่สามารถจัดสรรทรัพยากรเพียงพอสำหรับโปรเจกต์ในอนาคตได้
8. Rholang
Rholang เป็นภาษาโปรแกรมสำหรับเขียนสัญญาอัจฉริยะในบล็อกเชน มันทำงานด้วยการใช้วิธีการทำงานมากกว่าในแบบเชิงวัตถุ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการเขียนโค้ดที่รวดเร็ว, เชื่อถือได้, และปลอดภัย ทีม RChain ได้พัฒนา Rholang ขึ้นในปี 2018 และอยู่ในระหว่างการพัฒนานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Rholang ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการสร้างโปรเจกต์ระดับสูงเช่นสัญญาอัจฉริยะ มันทำงานโดยการประเมินแอปโดยรวมเป็นชุดของฟังก์ชั่นซึ่งจะได้รับการแก้ไขตามลำดับ ฟังก์ชั่นเหล่านี้ทำงานบน Rchain World ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกระจายอำนาจที่ทำงานบนโปรโตคอลอินเทอร์เน็ต
ภาษาการเขียนโปรแกรมบล็อกเชนนี้มีประโยชน์มากมาย เช่น
- มันมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยเพราะมันใช้การตรวจสอบอย่างเป็นทางการเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดในโค้ดของคุณก่อนที่จะนำไปใช้งาน
- Rholang เป็นมิตรกับผู้ใช้งานเพราะคุณสามารถเขียนโค้ดได้เร็วกว่าภาษาอื่นๆ เนื่องจากมันมีกฎของโครงสร้างทางภาษาไม่มากนัก
- Rholang ใช้ State Channels ในการประมวลผลธุรกรรมระหว่างฝ่ายต่างๆ โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งก็หมายความว่า ข้อมูลของคุณจะปลอดภัยและไม่สามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลที่สามหรือแฮกเกอร์
- มันถูกออกแบบมาเพื่อความเร็วในการพัฒนาบล็อกเชน ดังนั้น คุณจะไม่ต้องรอนานในการประมวลผลโค้ดของคุณ
9. C# (C-Sharp)
C# (C-Sharp) เป็นภาษาโปรแกรมแบบ Multi-Paradigm และการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุที่ Microsoft พัฒนามันขึ้นมาในปี 2000 ด้วยความคิดริเริ่มในการใช้ .NET แทน C++ เพื่อเป็นภาษาหลักที่ใช้ในวิดีโอเกม
มันเป็นภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการพัฒนาแอปที่ขับเคลื่อนโดยองค์กร, ระบบคลาวด์, และการพัฒนาข้ามแพลตฟอร์ม ความนิยมของ C# เพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเนื่องจากชุดคุณสมบัติสำหรับแอปที่ขับเคลื่อนโดยองค์กรและการประมวลผลแบบคลาวด์ของมัน
ต่อไปนี้คือเหตุผลบางประการที่คุณควรเรียนรู้ภาษา C#:
- มันเป็นโอเพ่นซอร์สและใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์ม เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ Linux
- เข้าใจและเรียนรู้ได้ง่ายเพราะใช้โครงสร้างทางภาษาที่คล้ายกับ Java
- ใช้สำหรับสร้าง dApps และสัญญาอัจฉริยะ
ในเดือนกรกฎาคม 2021 C# อยู่ในอันดับที่ 5 ในดัชนี TIOBE แบบสำรวจนักพัฒนาของ The Stack Overflow ปี 2021 พบว่า 29.81% ของนักพัฒนาที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ใช้งานภาษา C # นอกจากนี้ SlashData เชื่อว่ามีนักพัฒนาภาษา C# อยู่มากกว่า 6.5 ล้านคน
คลาสไลบรารีที่หลากหลายช่วยให้นักพัฒนาสร้างระบบแบบกระจาย, DApps, สัญญอัจฉรินะ ฯลฯ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเทคโนโลยีบล็อกเชน C# ช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนบล็อกเชนโดยจะให้การสนับสนุนในเรื่อง Memory Loss
10. C++
C++ เป็นภาษาแบบ Compiled ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอปพลิเคชั่นที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ซอฟต์แวร์การขุด Bitcoin มันเป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงของภาษาโปรแกรม “ภาษา C” แบบดั้งเดิม
คุณสามารถใช้ C++ เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับ Windows, macOS, Linux, iOS และแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ มันยังใช้เพื่อสร้างโซลูชั่นบล็อกเชนที่ปลอดภัย C++ เป็นหนึ่งในภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ใช้สำหรับทุกอย่างตั้งแต่ระบบปฏิบัติการไปจนถึงวิดีโอเกม
Bjarne Stroustrup ได้เปิดตัว C++ ในปี 1985 และมันสร้างขึ้นตามหลักการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุที่เรียกว่า OOPs สิ่งนี้ทำให้มันเข้าใจได้ง่ายกว่าภาษาการเข้ารหัสไบนารีอื่นๆ ซึ่งเข้าใจได้ยากกว่าเพราะไม่มีโครงสร้างนี้ในตัว
C++ ถูกใช้เป็นอย่างมากในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล เช่น Ripple (XRP), Litecoin (LTC), Bitcoin (BTC), Stellar (XLM) และ EOS (EOS)
11. SQL
SQL เป็นภาษาโปรแกรมที่พัฒนาโดย IBM ใช้ในฐานข้อมูลที่ต้องกรอง, จัดเก็บ, และจัดการข้อมูล SQL มีนักพัฒนาประมาณ 7 ล้านคนทั่วโลก และใช้ในฐานข้อมูลยอดนิยม เช่น SQL Server, PostgreSQL, Oracle และ DB2 เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่น
โปรเจกต์ที่ใช้ SQL คือ Aergo ซึ่งเป็นโซลูชั่นบล็อกเชนที่สร้างโดย Blocko เชน Aergo มีสัญญาอัจฉริยะที่ทำงานด้วย SQL ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถปรับใช้บริการบล็อกเชนระดับองค์กรได้ด้วยคลิกเดียว
เลือกภาษาไหนดี?
การเลือกภาษาที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาบล็อกเชนเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเลือกภาษาที่จะเรียนรู้แล้ว พึงระลึกไว้เสมอว่าหลายๆ ภาษามีความเหมาะสมในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป
หากคุณต้องการสร้าง dApp ให้ลองเลือก Solidity นักพัฒนา Ethereum จะใช้ Solidity เป็นหลักเพราะสร้างขึ้นสำหรับสัญญาอัจฉริยะที่ใช้งานกับ Ethereum โดยเฉพาะ มันยังสามารถใช้งานกับแพลตฟอร์มอื่นที่รองรับ EVM bytecode เช่น NEO หรือ EOS ได้ด้วยในปัจจุบัน
ก้าวต่อไป
มันไม่มีคำว่า “มีตัวเลือกอยู่ไม่เพียงพอ” เมื่อพูดถึงการเลือกใช้งานหรือเรียนรู้ภาษาโปรแกรม ลองทำตามคำอธิบายในบทความข้างต้นของเรา แล้วมันก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี!
เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกภาษาโปรแกรมที่เหมาะสมที่สุดต่อความต้องการในการพัฒนาบล็อกเชนของคุณ โปรดจำไว้ว่า กุญแจสำคัญในการค้นหาสิ่งที่เหมาะสมคือการรู้ว่าคุณต้องการอะไรจากโปรเจกต์ของคุณ และเลือกภาษาที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
คำถามที่พบบ่อย
บล็อกเชนถูกเขียนขึ้นด้วย Python หรือไม่?
Python เหมาะสำหรับใช้สร้างบล็อกเชนหรือไม่?
การเขียนโค้ดจำเป็นต่อการสร้างบล็อกเชนหรือไม่?
ภาษา C++ ใช้ในการพัฒนาบล็อกเชนหรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์