ดูเพิ่มเติม

Arbitrum คืออะไร? ทำไมถึงช่วยลดค่าก๊าสจาก Ethereum ได้

14 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

Arbitrum คือ โซลูชั่นเทคโนโลยี Layer 2 สำหรับบล็อกเชน ที่เน้นเพิ่มศักยภาพในการปรับขนาด (Scalability) ของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และลดค่าธรรมเนียม ค่าก๊าสของ Ethereum เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย Arbitrum ถูกพัฒนาโดย Offchain Labs

คุณเคยสงสัยไหมว่าจะทำอย่างไรถึงจะลดค่าก๊าสจาก Ethereum หนึ่งในวิธีการในการบรรลุจุดประสงค์ดังกล่าวคือ Arbitrum ซึ่งเป็น Layer 2 scaling solution ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น แต่ Layer 2 solution คืออะไร และ Arbitrum คืออไรกันแน่นั้น วันนี้เราจะไปหาคำตอบกัน

Arbitrum คืออะไร

Arbitrum คือ เครือข่าย Layer 2 solution ที่เพิ่มศักยภาพของสัญญาอัจฉริยะและลดค่าธรรมเนียมของ Ethereum และพัฒนาโดย Offchain Labs ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในรายการธรุกรรมและเพิ่มการเพิ่มระดับสเกลโดยรวม ซึ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น หากต้องการใช้งาน decentralized exchanges (DEXs) บน Ethereum จำเป็นต้องจ่ายค่าแก๊ส Ethereum เพื่อลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ผู้ลงทุนสามารถใช้งาน Arbitrum เพื่อใช้งาน DEX ตัวเดียวกันเช่นเดียวกับ ETH tokens ตัวเดียวกันได้ด้วยค่าธรรมเนียมต่อรายการธุรกรรมที่ถูกลง

ตัวแพลตฟอร์มเอื้อให้นักพัฒนาใช้งาน Ethereum Virtual Machine (EVM) ที่ไม่ได้ถูกแก้ไข รวมถึงสัญญา และรายการธุรกรรม Ethereum ในเลเยอร์ลำดับสองในขณะที่ยังได้รับความปลอดภัยแบบระดับ 1

Arbitrum นั้นสร้างมาเพื่อลดช่องว่างของเทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะ นอกจากนี้ Arbitrum ยังช่วยให้ผู้ใช้งาน Ethereum นั้นสามารถหลีกเลี่ยงค่าก๊าซมูลค่าสูงของสกุลเงินได้

Arbitrum ใช้งาน Optimistic Rollups เพื่อบันทึกรายการธุรกรรมที่ส่งบนเชนหลักของ Ethereum และประมวลผลรายการธุรกรรมเหล่านี้บนไซด์เชน Later 2 ทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่เที่ยงตรงและยกระดับ Ethereum ไปในตัว Ethereum DApps หลายตัวมีให้บริการบน Layer 2 Solution รวมถึง Arbitrum

ชื่อArbitrum
ชื่อโทเคนARB
ผู้พัฒนาOffchain Labs
ระบบการทำงานOptimistic rollup
เครือข่าย Layer 2 บน Ethereum

Layer 2 solutions บน Ethereum คืออะไร

Layer 2 Solution ถูกสร้างขึ้นมาจากบล็อกเชน Ethereum เพื่อช่วยลดความหนาแน่นในสกุลเงินและค่าก๊าสจากการทำธุรกรรม เป็นที่ทราบกันดีว่าการไล่สเกลเป็นปัญหาหนึ่งในบล็อกเชน Ethereum ใน Layer 1 ประเด็นเรื่องการไล่สเกลปรับปรุงได้โดยการเพิ่มจำนวนรายการธุรกรรมซึ่งสามารถถูกตรวจสอบได้ในทันที อย่างไรก็ตาม จากสถานะปัจจุบันของสกุลเงิน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสถานะปัจจุบันของเครือข่ายแล้ว ความปลอดภัย การกระจายอำนาจ หรือทั้งสองอย่างของเครือข่ายต้องมีการออมชอม

ETH2 มุ่งจะทำให้มาตรการทางความปลอดภัยของ Layer 1 เปลี่ยนแปลง แต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะ ตัวสกุลเงินเองจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขด่วน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า Mainnet จะให้บริการภายในช่วงสิ้นปี 2022 ETH2 ถือเป็นการอัปเกรดและจะเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์ม Proof-of-Stake (PoS)ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น โซลูชันต่าง ๆ เช่น Optimistic Rollups หรือ zero-knowledge (ZK) Rollups สามารถใช้เพื่อปรับขนาด Layer 2 ได้ ตัวอย่างสำคัญอันหนึ่งคือของ Ethereum Layer 2 solution คือ Arbitrum ซึ่งเป็นการขยาย L2 ที่เรียกกันว่า Optimistic Rollup

Optimistic Rollups นั้นจะติ๊ต่างว่าทุก ๆ การเพิ่มเติมในเชนนั้นใช้ง่ายดายนอกจากเสียจากจะถูกท้าทายโดยผู้เข้าร่วมคนใดคนหนึ่งภายในหนึ่งสัปดาห์ ZK-rollups นั้นใข้การยืนยันแบบคริปโตกราฟฟิกเพื่อยืนยันทุกบล็อกที่ถูกเพิ่มเข้ามาในสกุลเงิน ทั้งยังถือเป็นเทคโนโลยี Layer 2 ที่อาจจะล้ำหน้าที่สุด แต่ยังคงซับซ้อนกว่า Optimistic Rollups ซึ่งยังต้องการการพัฒนา

Rollups are one of the most in-demand types of Layer 2 solutions. These smart contracts validate large numbers of transactions off-chain, sending a minimal amount of data back onto the main network. The goal is to prevent computation and state storage (a data tree of all transactions made on the blockchain) from clogging the main network.

Rollups ถือเป็นหนึ่งใน Later 2

Ethereum Layer 2 solution คือ Arbitrum ซึ่งเป็นการขยาย L2 ที่เรียกกันว่า Optimistic Rollup

Arbitrum ทำงานอย่างไร

Arbitrum ประมวลผลรายการธุรกรรม Ethereum ผ่าน โปรโตคอลชื่อ Optimistic Rollup โดยสัญญาอัจฉริยะของ Ethereum สามารถเพิ่มระดับสเกลได้โดยใช้ Layer 2 solution Arbitrum นั้นสามารถทำงานโดยการใช้โหนดหลาย ๆ อันมาต่อร่วมกันให้พลังงานได้เช่นเดียวกับหลาย ๆ บล็อกเชน โดยโหนดเต็มนั้นใช้เพื่อช่วยให้การเก็บรวบรวมรายการธุรกรรม Layer 1 และโหนดสำหรับยืนยัน (Validator Node) ใช้เพื่อมอนิเตอร์สถานะของเชน ค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่รวบรวมเชนต่าง ๆ และส่งรายการธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านทางเชน Layer 1 จะได้ค่าตอบแทนในสกุล ETH ผู้ถือครองเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ จะได้รับส่วนที่เหลือจากค่าธรรมเนียมรายการธุรกรรม

Arbitrum แนะนำขั้นตอนที่ท้าทายสำหรับ Rollup Blocks การทำเช่นนี้อนุญาตให้ผู้ตรวจสอบรายอื่น ๆ เช็กความถูกต้องของแต่ละบล็อก ตัวเครือข่ายเองยังรวม Virtual Machine และ Arbitrum Virtual Machine (AVM) ของตัวเอง ซึ่งอยู่เหนือ EthBridge และใช้ในการดำเนินการ Arbitrum Smart Contract ทั้งนี้ AVM จะแปลงสัญญาอัจฉริยะที่ใช้งานกับ Ethereum โดยอัตโนมัติเพื่อให้สามารถประมวลผลได้

Optimistic Rollup คืออะไร

Optimistic Rollup หมายความว่าการทำธุรกรรมถือเป็นขั้นตอนแบบ off-chain การ Rollup นั้นใช้งานโครงสร้างพื้นฐานของตนเองในการทำธุรกรรม โปรโตคอลของ Rollups ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เครือข่าย Ethereum กระจุกตัวน้อยลง โดย คำว่า Rollup นั้นใช้อธิบายการที่ข้อมูลสาธารณะสามารถช่วยสร้างให้เชนสมบูรณ์จากล็อกที่ถูกขยายสมรรถนะ

ทั้งนี้ Optimistic Rollup ของ Arbitrum สามารถติดตั้งได้โดยใช้ Proprietary sidechain โดย sidechain นั้นคือบล็อกเชนที่เชื่อมต่อกันด้วยเมนเชน ในกรณี ก็คือ Etherneum นั่นเอง ตัว Arbitrum นั้นทำการรวบรวมรายการธุรกรรมในแต่ละแบตช์ วางมันลงบน sidechain ของตนเอง และให้ข้อมูลกับข้อมูลรายการธุรกรรมกลับเข้าไปใน Ledger ของ Ethereum blockchain

Arbitrum แสดงให้เห็นว่ารายการธุรกรรมยืนยันโดยขั้นตอนเหล่านี้จะได้ตราประทับ “AnyTrust guarantee” กลับมา ผู้ตรวจสอบ (Validator) ต้องลงทุนด้วย ETH ก่อนจะยืนยันรายการธุรกรรม จากการเสี่ยงคริปโตนี่เองที่ทำให้ Validator ได้รับแรงจูงใจให้มีความซื่อสัตย์ในการลงทุน

การทำงานของ Arbitrum และ optimistic Rollup

Arbitrum Bridge คืออะไร

Arbitrum One Bridge อนุญาตให้ใครก็ตามสามารถส่งโทเค็น ERC-20 ได้ รวมถึง ETH ไปยัง Arbitrum One ซึ่งเป็น Layer 2 scaling solution สำหรับ Ethereum ในการใช้งานนั้น ต้องเชื่อม Ethereum wallet  เข้ากับตัวเชื่อม จากนั้นจึงสามารถใช้งาน MetaMask หรือว็อลเลตอื่น ๆ ที่รองรับได้

แพลตฟอร์ม DeFi หลายเจ้า เช่น Aave Balancer 1inch Band Protocol และ Curve กำลังหาทางยกระดับ Arbitrum เพื่อเพิ่มปริมาณงานและลดค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบผ่าน portal  เพื่อดูรายชื่อ Ethereum DApps ต่าง ๆ ที่มีให้บริการบน Arbitrum Layer 2 ได้

ฟังก์ชันของ Arbitrum

Arbitrum Rollup presents some great features, including:

  • ผลลัพธ์เชิงบวก ในกระบวนการ Rollup Process ของ Arbitrum นั้น รายการธุรกรรมต่าง ๆ ที่ประมวลผลผ่าน Arbitrumถือว่าใช้งานได้เมื่อเกิดการทำรายการ ตัวตรวจสอบความน่าเชื่อ (Validator) สามารถโพสต์ Rollup block และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของตัวอื่น ๆ ได้ ตัวเครือข่ายจะทำงานตามที่ต้องการตราบเท่าที่มีตัวตรวจสอบความน่าเชื่อถืออย่างหนึ่งหนึ่งตัวที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์ต่อแต่ละแบตช์ของรายการธุรกรรม
  • การบีบอัดข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ: Arbitrum ประมวลผลสัญญาอัจฉริยะ Ethereum หลาย ๆ อันเป็นวัตถุเดียวเมื่อต้องทำการเชื่อมเข้าหาเชน กระบวนการดังกล่าวช่วยทำให้ Rollup Process ง่ายดายยิ่งขึ้น เมื่อข้อมูลเหล่านี้ถูกประมวลผล ข้อมูลชนิดเดียวที่ถูกส่งกลับไปยัง Ethereum mainnet คือรายการธุรกรรม ‘calldata’
  • ปฏิบัติต่อสัญญาอัจฉริยะ Ethereum หลายรายการเป็นออบเจกต์เดียวเมื่อเชื่อมโยงเข้ากับเชน นี้สามารถช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการรวบรวม เมื่อธุรกรรมเหล่านี้ได้รับการประมวลผลแล้ว ข้อมูลที่ส่งกลับไปยัง Ethereum mainnet เท่านั้นคือ “calldata” ของธุรกรรม ประกอบด้วยแฮชสำหรับบล็อกการรวบรวมที่ยืนยันแล้ว ไม่ใช่บล็อกจริง เนื่องจาก calldata มีขนาดเล็กกว่าธุรกรรมที่ได้รับ จึงสามารถประมวลผลได้อย่างง่ายดายโดย Ethereum mainnet
  • Validator subsets นี่คือฟังก์ชันที่อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถทำให้ DApps ของตนเองทำงานผ่านการใช้ Arbitrum ได้ โดยสามารถเลือกผู้ตรวจสอบของตนเองเพื่อให้พวกเขาเลือกสิ่งที่เห็นพ้องต้องกัน การทำ Configuration ในขั้นตอน Validation ของ Arbitrum ในรูปแบบที่ทำให้เข้ากับบริยทผู้ใช้งานทำให้การสื่อสารระหว่างโหนดลดลง ทำให้ตัวแพลตฟอร์มทำงานได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ Arbitrum ยังมีความล่าช้าในแง่ของเวลาในการประมวลผลและสรุปผลรายการธุรกรรม

ความเสี่ยงและความท้าทายของ Arbitrum

Arbitrum นั้นมีโอกาสที่จะได้รับความเสี่ยงจาก Smart Contract และจากอันตรายอื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสูญเสียสิ่งที่ตนลงทุนไปหากเกิดเหตุกับสัญญาอัจฉริยะที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม

เพื่อให้ผู้ยืนยันมีเวลาเพียงพอที่จะตรวจจับการทำผิดบนเครือข่าย Arbitrum ขั้นตอนการถอนพื้นฐานใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการ ทั้งนี้ ผู้ให้บริการแบบ third-party อาจจะสามารถให้บริการถอนได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแลกกับค่าธรรมเนียม Cross-chain system เช่น Hop Protocol อาจจะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ไม่ต้องการรอใช้บริการนาน ๆ

ทั้งนี้ สภาพคล่องต่ำใน DApps กลายมาเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ใช้งาน Arbitrum ในช่วงแรกต้องประสบ ปัญหานี้เป็นที่เข้าใจได้ เมื่อพิจารณาว่า Arbitrum One เป็น L2 Solution ที่ค่อนข้างใหม่

Arbitrum ใช้งานอย่างไร

การใช้งาน Arbitrum นั้นสามารถทำได้ผ่าน DApps เช่น Aave หรือ 1inch หรือสามารถเชื่อมต่อว็อลเลตเข้ากับตัวเชื่อมโทเค็นของ Arbitrum ได้ จุดประสงค์หลักของ Arbitrum คือการส่งโทเค็น ERC-20 จาก Ethereum Mainnet ไปยังเครือข่าย Arbitrum เพื่อกำจัดค่าก๊าซที่สูงเกินไป วิธีการใช้งาน ดังนี้

ชั้นตอนที่ 1. เชื่อมต่อว็อลเลตเข้ากับ Arbitrum Bridge

ลำดับแรก ต้องเข้าสู่ Arbitrum Bridge และเชื่อมต่อว็อลเลตของตน ว็อลเลตที่รองรับ Ethereum ได้แก่ MetaMask WalletConnect และ Coinbase Wallet

เชื่อมต่อว็อลเลตเข้ากับ Arbitrum Bridge โดยมี 3 ว็อลเลตที่ใช้ได้คือ MetaMask, WalletConnect และ Coinbase Wallet

ขั้นตอนที่ 2. โอน ETH ไปยัง Arbitrum L2

หลังจากเชื่อมต่อว็อลเลต Ethereum แล้ว ตรวจเช็คให้ดีว่าตนอยู่บนหน้าของสกุล Ethereum ในว็อลเลตของคุณ

เลือกโทเค็น ETC-20 ที่ต้องการเชื่อมมายัง Arbitrum และเลือกจำนวน คลิก Deposit เมื่อพร้อม

เลือกโทเค็น ETC-20 ที่ต้องการเชื่อมมายัง Arbitrum และเลือกจำนวน คลิก Deposit เมื่อพร้อม

คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจาก Arbitrum ที่บอกว่ารายการธุรกรรมจะใช้เวลาสิบนาทีและคุณจะไม่สามารถถอนเงินได้จาก Ethereum เป็นเวลาแปดวัน  

ฝากเงินจาก ETH เป็น Arbitrum

จากนั้นต้องยืนยันรายการธุรกรรมจากว็อลเลตของคุณ อย่างไรก็ตาม ค่าก๊าส Ethereum อาจจะค่อนข้างสูงโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับมูลค่าของรายการธุรกรรม การจ่ายเงิน 30 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อโอนเงิน 10 ดอลลาร์สหรัฐไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนในคริปโตแต่ละท่านควรตรวจสอบค่าก๊าสของ Ethereum เมื่อทำรายการธุรกรรม

Arbitrum ช่วยลดค่าก๊าสใน ETH ได้ดี

ขั้นตอนที่ 3. เพิ่ม Arbitrum เข้าไปในว็อลเลต

หลังจากโอนเหรียญจำนวนไปยังโปรแกรมเชื่อมแล้ว คุณจะไม่สามารถเห็นเงินในว็อลเลตของคุณบนเครือข่าย Ethereum อีก จำเป็นต้องเพิ่มเครือข่าย Arbitrum เข้าไป วิธีทำคือกด Add L2 Network ทางขวามือบน

If you want to add the Arbitrum network manually to your wallet, you need to go to your wallet

หากต้องการเพิ่มเครือข่าย Arbitrum เข้าไปในว็อลเลตด้วยตนเอง จำต้องเข้าไปในว็อลเลตก่อน จากนั้นคลิก MetaMask แล้วเลือก Ethereum Mainnet network ด้านบน จากนั้นคลิก Add network  แล้วใส่ข้อมูลดังต่อไปนี้

  • Network Name: Arb1
  • RPC: https://arb1.arbitrum.io/rpc
  • Chain ID: 42161
  • Currency Symbol: ETH
  • Block Explorer URL: https://arbiscan.io
วิธีการเพิ่ม L2 Network เข้าไปใน Arbitrum

ว็อลเลตของคุณจะถามว่าคุณต้องการเพิ่ม Arbitrum เข้าไปหรือไม่ ให้คุณคลิก Approve

วิธีการเพิ่ม L2 Network หลังจากเพิ่มแล้วจะมีคอนเฟิร์มขึ้นมาให้เรายืนยัน

คุณต้องอนุญาต Arbitrum ให้สลับเครือข่ายบนว็อลเลตของคุณ

switch the network

ขั้นตอนที่ 4. เข้าใช้งาน Arbitrum’s DApps

ใช้งาน Arbitrum One portal เพื่อดูแอ็ปพลิเคชันของ Ethereum

คุณสามารถลองใช้งาน Arbitrum One portal เพื่อดูแอ็ปพลิเคชันของ Ethereum ที่มีให้บริการใน Layer 2 ได้ เมื่อเลือกใช้งานอันใดอันหนึ่ง คุณจะเข้าไปยังหน้า DApp นั้นเพื่อเชื่อมว็อลเลตของคุณและเลือกเครือข่าย Arbitrum

ลองนึกภาพว่าต้องการใช้งาน 1inch

เมื่อเข้าไปในแอ็ปและต้องการเชื่อมต่อว็อลเลต เราสามารถสวิตช์ไปที่ Arbitrum และใช้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมที่ถูกลงจากสกุลเงินจากเครือข่ายนี้ได้ แทนที่จะต้องทำการซื้อขายทั้งหมดโดยตรงบนบล็อกเชน Ethereum ซึ่งจะนำไปสู่ค่าธรรมเนียมราคาสูงต่อทุก ๆ รายการธุรกรรม เราใช้งาน Arbitrum แทนเพื่อทำการซื้อขายแบบเดิมโดยไม่ต้องจ่ายค่าก๊าซ

เราสามารถสวิตช์ไปที่ Arbitrum และใช้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมที่ถูกลงจากสกุลเงินจากเครือข่ายนี้ได้

Arbitrum vs. Optimism

ทีมงาน The Optimism สร้างเทคโนโลยีที่เรียกว่าโรลอัพ ในขณะที่นักพัฒนา Arbitrum ใช้งานโค้ดแบบโอเพนซอร์สของตนเองในการเพิ่มเติมฟีเจอร์บางประการและเปิดให้บริการ Arbitrum ความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่าง Arbitrum และ Optimism ได้แก่

  • Fraud proof verification
  • Optimism’s Ethereum dependency 
  • Token bridges

การยืนยันหลักฐานการฉ้อโกง

ความแตกต่างระหว่าง Optimism และ Arbitrum คือการใช้งานหลักฐานการฉ้อโกงแบบครั้งเดียว Arbitrum ใช้งานหลักฐานการฉ้อโกงแบบหลายครั้ง โดยระบบ Single-round fraud-proof (FP) ของ Optimism ใช้งาน L1 ในการทำให้รายการธุรกรรม L2 ทั้งหมดสมบูรณ์ในขณะที่ Arbitrum ใช้งาน multi-round FP เพื่อเน้นไปที่จุดใดจุดหนึ่งในความไม่เข้ากันในรายการธุรกรรม (transaction disagreement)

Optimism ของการพึ่งพา Ethereum

ทั้ง Optimism และ Arbitrum เป็นโปรโตคอล Optimistic Rollup เนื่องจากพึ่งพา Ethereum validator เป็นหลักในการประมวลผลรายการธุรกรรมให้ถูกต้อง ทั้งนี้ Optimism ใช้งาน EVM (Ethereum Virtual Machine) เป็นหลัก โดยเครื่องมือดังกล่าวเป็น Virtual Sandbox ที่บรรจุกฎที่เห็นพ้องต้องกันสำหรับการใช้งานเครือข่ายซึ่งแต่ละโหนดของ Ethereum จะทำหน้าที่สร้างสัญญาอัจฉริยะ

Arbitrum มี Arbitrum Virtual Machine เป็นของตนเอง สิ่งนี้จำเป็นต้องใช้ DApps จาก EVM ที่แปลงค่ามาเป็น AVM อีกที อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนดังกล่าวถือว่าเกิดขึ้นอัตโนมัติ

Optimism สามารถใช้งานได้ด้วยกับ Solidity complier เท่านั้นเพื่อสร้าง OVM bytecode โดย Bytecode เป็นโปรแกรมที่รวบรวมมาจาก source code และทำงานใน Virtual Machine อย่างไรก็ตาม Arbitrum รองรับภาษาโปรแกมมิง EVM ทั้งหมด เช่น Vyper Solidity Flint YUL+ และ LLLL

การเชื่อมและโทเค็น

ทั้ง Arbitrum และ Optimism ใช้ตัวเชื่อมเพื่อบล็อกเชนต่าง ๆ เข้าด้วยกันและอำนวยความสะดวกให้กับโฟลว์ของเหรียญ โดย Optimism ใช้ตัวเชื่อมที่เป็นสากลและไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตซึ่งสามารถใช้ได้กับโทเค็นทุกประเภท

ในท้ายที่สุด Rollup ทั้งสองนั้นไม่มีโทเค็นเป็นของตน โดย Optimism ใช้งาน Wrapped Ethereum (WETH) แทน นี่ถือเป็น stablecoin  ซึ่งติดอยู่กับค่า ETH ในอัตรา 1 ต่อ 1 การทำงานดังกล่าวอนุญาตให้มีการทำ cross-chain สำหรับ 20 โทเค็น ทั้งนี้ Arbitrum รองรับ ETH ที่ผูกติดอยู่กับเครือข่ายโดยไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเพิ่ม

Arbitrum ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อให้เสียค่า ETH น้อยลงไหม

เมื่อทราบแล้วว่า Arbitrum คืออะไร คุณสามารถตัดสินใจได้แล้วว่านี่คือ Layer 2  solution ที่ดีที่สุดทั้งสำหรับตัวคุณเองและ Ethereum portfolio ของคุณ

Layer 1 networks เช่น Ethereum และ Bitcoin  ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการไม่มีผู้กำกับดูแลศูนย์กลางเหนือกว่าการไกลไล่สเกล Arbitrum มุ่งจะที่แก้ปัญหา Blockchain Trilemma โดยการใช้ Optimistic Rollups ซึ่งสอดรับกับทั้งสามมิติของบล็อกเชน

กลุ่มผู้ใช้งาน Ethereum เชื่อว่า zk-Roolup เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวที่ดีที่สุด Arbitrum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม L2 ที่ล้ำหน้าที่สุดจะสามารถปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มและทำให้มันขยายตัวได้

อีกหนึ่งความสำเร็จล่าสุด Arbitrum พลิกแซง Ethereum เรื่องจำนวนธุรกรรมต่อวัน

ปัจจุบันสภาพคล่องของ DeFi เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง หลังจาก Arbitrum ได้มีการเปิดตัวเหรียญ ARB และนับตั้งแต่ก่อนจะมีการแจก ARB Airdrop ปกติจะมีธุรกรรมที่ไม่ซ้ำกันจำนวนมากบนเครือข่าย

Dune วิเคราะห์ว่า ในวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา มีกระเป๋าเงินที่ไม่ซ้ำกันกว่า 240,000 ใบในระบบบล็อกเชน ซึ่งเทียบเป็นเกือบสองเท่าของจุดสูงสุดก่อนหน้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 โดยวันที่ 21 มีนาคม มีธุรกรรม 1.66 ล้านรายการ และ วันที่ 22 มีนาคมมี 1.56 ล้านรายการ ซึ่งจากช่วงเวลานี้ Arbitrum ก็มีจำนวนธุรกรรมแซง Ethereum Mainnet Etherscan ที่มีเพียงวันละ 1 ล้านรายการไปแล้ว โดยทั้งนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

กราฟจำนวนผู้เข้าร่วม ARB Airdrop สูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน

การประกาศ Airdrop เหรียญ ARB

ไม่นานมานี้ Arbitrum ได้ประกาศการเปิดตัวเหรียญ ARB และกำหนดการที่จะปล่อย Airdrop ให้กับผู้ใช้และผู้พัฒนา โดยจะเปิดให้เคลมเหรียญ Airdrop ในวันที่ 23 มีนาคม เวลา 20:00 น. เวลาประเทศไทย

หลังจากประกาศ ARB Airdrop ก็ทำให้เครือข่ายของ Arbitrum ตัว DeFi มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยไปสร้างสถิติใหม่ที่เกือบ 2 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องเหรียญ ARB Airdrop ปลอมด้วย ซึ่งทาง Arbitrum ก็ออกมาเตือนให้นักลงทุนระวังเรื่องเหรียญปลอมด้วย

ปัจจุบันปี 2023 Arbitrum กลายเป็นเครือข่าย Layer2 ที่มีสภาพคล่อง DeFi สูงเป็นอันดับที่ 4 รองมาจาก Ethereum, Binance Chain และ Tron ไปที่เรียบร้อยแล้ว

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน