ดูเพิ่มเติม

กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash (BCH) 9 ตัวที่ดีที่สุดในปี 2023

4 mins
โดย Alex Lielacher
แปลแล้ว Akradet Mornthong

ประเทศที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะในเขตทะเลแคริบเบียนอย่างประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสนั้นได้วางแผนที่จะทำให้ Bitcoin Cash นั้นสามารถใช้ชำระเงินได้ถูกต้องตามกฏหมายภายในเดือนมีนาคม 2023 ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนให้มันกลายเป็น “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer” และดึงดูดผู้สนับสนุนรายใหม่ๆ ได้หรือไม่? เราก็คงจะต้องมารอดูกัน แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะสะสม BCH เพื่อรอให้ศักยภาพของมันถูกปลดปล่อยออกมา ก่อนอื่น คุณก็คงจะต้องมีกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash เสียก่อน ดังนั้น เราจึงรวบรวมรายชื่อ “กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash (BCH)” ที่ดีที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้มาให้กับคุณ นี่คือข้อมูลต่างๆ ที่คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับกระเป๋าเงินชั้นนำแห่งปี 2023 เหล่านี้ว่ากระเป๋าเงินแบบใดที่จะเหมาะกับคุณ

💡 ต้องการรับทราบรีวิวต่างๆ เกี่ยวกับโปรเจกต์ Crypto ยอดนิยมหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: อ่านรีวิวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องคริปโต และสอบถามเรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ จากเหล่านักเทรดมืออาชีพ! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้

Bitcoin Cash (BCH) คืออะไร?

Bitcoin Cash (BCH) นั้นคือสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่เกิดขึ้นจากการฮาร์ดฟอร์คของ Bitcoin ในช่วงฤดูร้อนปี 2017

กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการแยกตัวนั้นต้องการที่จะเพิ่มขนาดบล็อกของ Bitcoin เพื่อให้ประมวลผลธุรกรรมต่อวินาทีได้มากยิ่งขึ้น (หรืออย่างน้อยๆ นั่นก็คือแผนของพวกเขาหล่ะนะ) ไม่ใช่ทุกคนในชุมชนที่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว ดังนั้น การอัพเกรดดังกล่าวจึงไม่ได้เกิดขึ้น แต่ BCH นั้นถูกสร้างขึ้นเป็นบล็อกเชนใหม่แทน เครือข่าย Bitcoin Cash รองรับบล็อกขนาด 32MB (เทียบกับของ Bitcoin ที่ 1MB) Roger Ver เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin Cash ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด

บล็อกเชน Bitcoin Cash นั้นมีการฮาร์ดฟอร์คเพิ่มเติมหลังจากแยกตัวออกมาจาก Bitcoin ในเดือนพฤศจิกายน 2018 Bitcoin Satoshi Vision (BSV) ได้แยกตัวออกจาก Bitcoin Cash การฮาร์ดฟอร์คอีกครั้งเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งบล็อกเชนได้แยกออกเป็น Bitcoin Cash Node (BCHN) และ Bitcoin Cash ABC (BCHA) BCHN นั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น Bitcoin Cash และยังคงใช้สัญลักษณ์ BCH จากนั้นเป็นต้นมา

เครือข่าย Bitcoin Cash ให้บริการการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเงินไปทั่วโลกได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำ พวกเขายังรองรับ NFTs และแอป DeFi ผ่านไซด์เชนของพวกเขาอย่าง SmartBCH ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2021

ถึงแม้ว่า Bitcoin Cash จะแตกต่างจาก Bitcoin ในหลายๆ ด้าน แต่พวกเขาก็มีขีดจำกัดของอุปทาน, แฮชฟังค์ชั่น, และกลไกฉันทามติที่เหมือนกัน นั่นหมายความว่า Bitcoin Cash มีขีดจำกัดของอุปทานที่ 21 ล้าน, แฮชฟังค์ชั่นคือ SHA-256 และใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-Work (PoW) เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเชนของพวกเขา

กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash คืออะไร?

กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash: Bitcoin Cash

กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash เป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่ง (ซึ่งบางตัวก็ใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์) ที่เก็บ Public และ Private Key ของผู้ใช้งาน สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง BCH ของพวกเขาได้ และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งและรับเหรียญอีกด้วย

Public Key นั้นก็คือ ที่อยู่ของกระเป๋าเงิน (Wallet Address) ที่ผู้ใช้งานสามารถแชร์ให้บุคคลอื่นเพื่อรับ BCH ได้ ในทางกลับกัน Private Key จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง BCH ของตนได้ ซึ่งคีย์นี้จะต้องถูกเก็บเป็นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ใช้ผู้ใช้งานสูญเสียเหรียญของตนเองไปตลอดกาล

กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash นั้นมีอยู่ทั้งในรูปแบบของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ กระเป๋าเงิน Crypto แบบที่เป็นซอฟต์แวร์นั้นสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปเดสก์ท็อป, แอปมือถือ, เว็บไซต์ หรือเป็นส่วนขยายของเว็บเบราเซอร์ ในขณะที่กระเป๋าเงินที่เป็นฮาร์ดแวร์นั้นส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์รูปร่างคล้าย USB หรืออาจจะคล้ายบัตรเครดิต กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์นั้นจะเก็บสินทรัพย์แบบออนไลน์ (Hot Storage) ในทางตรงกันข้าม กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์นั้นจะเก็บสินทรัพย์ Crypto ไว้ในแบบออฟไลน์ (Cold Storage)

กระเป๋าเงิน Crypto นั้นยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Custodial หรือ Non-Custodial กระเป๋าเงินแบบ Custodial นั้นเป็นสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อทำการเปิดบัญชีกับกระดานเทรด Crypto หรือผู้ให้บริการแบบรวมศูนย์ ผู้ให้บริการจะเก็บ Private Key ของผู้ใช้งานของพวกเขาไว้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะเป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์ของผู้ใช้งาน ในทางกลับกับ กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial นั้นจะเป็นกระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ใดๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ให้บริการกระเป๋าเงินซึ่งผู้ใช้งานจะต้องเก็บรักษา Private Key ของพวกเขาเอง นั่นหมายความว่าพวกเขาจะมีการควบคุมสินทรัพย์ Crypto ของตนเองแบบ 100%

วิธีการสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash

การสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash นั้นค่อนข้างจะตรงไปตรงมา สิ่งที่คุณต้องการก็มีเพียงแค่การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ต่อไปนี้คือวิธีการสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash แบบทีละขั้นตอนบนกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial จาก Bitcoin.com

เราจะใช้ Bitcoin.com เป็นตัวอย่างในบทความนี้ แต่ไม่ต้องกังวลไป หากคุณต้องการใช้กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ ที่รองรับ Bitcoin Cash คุณก็สามารถใช้บทความนี้อ้างอิงได้เช่นกัน เนื่องจากขั้นตอนโดยทั่วไปนั้นจะคล้ายๆ กัน

ดาวน์โหลดแอปกระเป๋าเงิน Bitcoin.com บนโทรศัพท์มือถือของคุณ ซึ่งทั้งแอป Android และ iOS นั้นรองรับกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash

เมื่อติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ของคุณเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการเปิดกระเป๋าเงินขึ้นมา

เลือก “Create New Wallet” (สร้างกระเป๋าเงินใหม่) หากคุณต้องการสร้างกระเป๋าเงิน Crypto ใหม่ หากคุณมีอยู่แล้ว ให้เลือก “Import Wallet” (นำเข้ากระเป๋าเงิน)

แตะที่ไอคอน Setting (ตั้งค่า) แล้วเลือก “Backup & Security” (สำรองข้อมูลและความปลอดภัย) เพื่อเก็บรักษา Private Key ของคุณ (หรือ Seed Phrase)

ถัดไป ให้เลือกระหว่าง Cloud Backup (สำรองข้อมูลบนคลาวด์) หรือ Manual Backup (สำรองข้อมูลด้วยตนเอง) เราขอแนะนำให้สำรองข้อมูลด้วยตนเองหากคุณไม่ต้องการเก็บ Private Key ของคุณไว้กับบริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์อย่าง Google Drive และ iCloud

BCH

หากคุณเลือก Manual Backup (สำรองข้อมูลด้วยตนเอง) ให้ทำการจด Seed Phrase ของกระเป๋าเงิน BCH ลงบนกระดาษแล้วเก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัย เช่น ในตู้เซฟในห้องนอนของคุณ เป็นต้น

BCH

เพื่อรับที่อยู่กระเป๋าเงิน BCH ของคุณ ให้กลับไปที่หน้าแรก

BCH

ไปที่กระเป๋าเงิน BCH ของคุณ แล้วกดปุ่ม “Receive” (รับ)

BCH

ตอนนี้ คุณสามารถดูที่อยู่กระเป๋าเงิน BCH ของคุณได้ ซึ่งสามารถใช้มันเพื่อรับ BCH จากบัญชีกระดานเทรดหรือผู้ส่งรายอื่นๆ ได้

BCH

รายชื่อ “กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash” ที่ดีที่สุดในปี 2023

1. Ledger Nano S Plus (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)

Ledger Nano S Plus เป็นกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet) ซึ่งมีรูปร่างคล้ายแท่ง USB ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็ก — ซึ่งหนักเพียง 21 กรัมเท่านั้น — แต่มันก็ค่อนข้างทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับ Ledger Live ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ของ Ledger เมื่อใช้งานร่วมกันแล้ว ผู้ใช้งานสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้มากมาย เช่น จัดการสินทรัพย์ Crypto มากกว่า 5,500 รายการ, จัดเก็บและจัดการ NFT, โต้ตอบกับ DeFi, ซื้อ Crypto, แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล และติดตามราคาของ Crypto ได้

คุณสามารถติดตั้งแอปบน Ledger Nano S Plus ได้ราวๆ 100 แอปผ่าน Ledger Live กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์นี้จะจัดเก็บ Private Key ของสินทรัพย์ Crypto คุณในแบบออฟไลน์ ทำให้มันปลอดภัยจากการโจมตีต่างๆ บนโลกออนไลน์ Ledger Nano S Plus ใช้งานได้กับ Windows, Linux, macOS และ Android

ข้อดี

  • Private Key ถูกจัดเก็บในแบบออฟไลน์
  • กระเป๋าเงินมีตัวเลือกให้การรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ของคุณด้วย PIN Code

ข้อเสีย

  • ต้องคอยอัพเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง
  • ผู้ใช้งานจะต้องคุ้นเคยกับคอนเซปต์ของกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์เพื่อจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

2. Trezor Model One (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)

Trezor Model One เป็นกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ที่สามารถจัดเก็บสินทรัพย์ Crypto แบบออฟไลน์ได้ คุณยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณเข้ากับแอป Trezor Suite เพื่อทำการส่งและรับสินทรัพย์ดิจิทัล, ซื้อ Crypto, แลกเปลี่ยนเหรียญ, และจัดการสินทรัพย์ของคุณตามที่คุณต้องการ

ข้อดี

  • รองรับ Taproot ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการทำธุรกรรม Bitcoin
  • จัดเก็บ Private Key แบบออฟไลน์
  • เพิ่ม PIN Code ได้มากสูงสุดถึง 50 หลักเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยในกับสินทรัพย์ของคุณ
  • มี Live Chat Support (ทีมสนับสนุนลูกค้าด้วยการแชทแบบตัวต่อตัว)

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับ DeFi และ NFTs
  • ไม่มีแอปที่สามารถใช้งานบนมือถือได้ (ในระหว่างที่เขียนบทความนี้)

3. Coinbase Wallet (กระเป๋าเงินบนเว็บ/แอปมือถือ)

Coinbase Wallet ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ Crypto และ NFTs ได้ และถึงแม้ว่าผู้ให้บริการจะเป็นกระดานเทรด Crypto แบบรวมศูนย์ก็ตาม แต่นี่ก็เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถซื้อ, แลกเปลี่ยน, บริดจ์ (แลกเปลี่ยนเหรียญ/โทเค็นข้ามเชน), ส่ง, และรับ Crypto ได้ กระเป๋าเงินนี้ยังเป็นมิตรกับ DeFi และใช้งานได้ทั้งในระบบ iOS, Android, และ Chrome

ข้อดี

  • มีฟังค์ชั่นมากมาย
  • รองรับ Multi-Coin (สามารถจัดเก็บสินทรัพย์ที่หลากหลายได้ในกระเป๋าเดียวกัน)

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถใช้งานบนเดสก์ท็อปได้
  • อาจจะต้องจ่ายค่าแก๊สที่สูงในการทำธุรกรรมกับเหรียญที่ทำงานบน Ethereum

4. Guarda (กระเป๋าเงินแบบแอปเดสก์ท็อป/แอปมือถือ)

Guarda นั้นเหมาะกับทุกคนที่ต้องการใช้งานกระเป๋าเงินแบบ Multi-Coin มันรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 400,000 รายการ และยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อ, แลกเปลี่ยน, Stake และตั้งค่า Multi-Sig (กำหนดให้กระเป๋าเงินนั้นต้องใช้อย่างน้อย 2 คีย์ขึ้นไปในการทำธุรกรรมใดๆ) ได้ Guarda นั้นใช้งานได้บน Windows, Ubuntu, macOS, Linux, Debian, Android, และ iOS

ข้อดี

  • รองรับเหรียญมากมาย
  • เข้ากันได้กับอุปกรณ์จำนวนมาก
  • ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ Guarda กับ Ledger ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ได้

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียมของการซื้อขายด้วยระบบภายในกระเป๋าที่ค่อนข้างสูง

5. Bitcoin.com (กระเป๋าเงินแบบแอปมือถือ)

Bitcoin.com เป็นแอปกระเป๋าเงิน Crypto บนอุปกรณ์มือถือที่ช่วยให้นักลงทุนจัดเก็บ BCH ของพวกเขาได้ และยังช่วยให้สามารถซื้อ, ขาย, แลกเปลี่ยน, ส่ง และรับ Crypto ได้ ผู้ใช้งานที่ต้องการอัพเดตเกี่ยวกับข้อมูลตลาดและข่าวสารอื่นๆ สามารถใช้ฟีเจอร์การติดตามในแอปได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานสามารถสร้างกระเป๋าเงินออมและใช้จ่ายสำหรับ Crypto และใส่หมายเหตุสำหรับการทำธุรกรรมแต่ละครั้งได้

ข้อดี

  • มี Live Chat Support
  • เป็นกระเป๋าเงินที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานหน้าใหม่
  • กระเป๋าเงินมีบทความที่ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์อยู่มากมาย
  • มีระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์

ข้อเสีย

  • ใช้งานได้เฉพาะบนอุปกรณ์มือถือเท่านั้น
  • รองรับเพียงไม่กี่เหรียญ

6. Electron Cash (กระเป๋าเงินแบบแอปเดสก์ท็อป/แอปมือถือ)

Electron Cash เป็นกระเป๋าเงินแบบ Simplified Payment Verification (SPV) สำหรับใช้จัดเก็บ BCH โดย SPV นั้นหมายถึงไคลเอนต์ที่มีขนาดเล็กที่ช่วยให้ผู้ใช้งานดูธุรกรรมบนบล็อกเชนได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดทั้งบล็อกเชน กระเป๋าเงินนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายสินทรัพย์ของพวกเขาไปยังที่จัดเก็บแบบออฟไลน์และตั้งค่า Multi-Sig ในการทำธุรกรรมได้ Electron Cash นั้นทำงานได้กับ Windows, macOS, Linux, Android, และ iOS

ข้อดี

  • เป็นกระเป๋าเงินที่มีขนาดเล็ก
  • มีตัวเลือกในการย้ายเหรียญของพวกเขาไปยังที่จัดเก็บแบบออฟไลน์
  • รองรับการตั้งค่า Multi-Sig
  • ใช้งานได้กับอุปกรณ์มากมาย

ข้อเสีย

  • ไม่มี Live Chat Support
  • รองรับเฉพาะ BCH เท่านั้น

7. Cash Address (กระเป๋าเงินกระดาษ)

BCH
เว็บไซต์สร้างกระเป๋าเงิน Cash Address: cashaddress.org

Cash Address เป็นเว็บไซต์ที่คุณสามารถสร้างกระเป๋าเงิน BCH และพิมพ์มันลงบนแผ่นกระดาษได้ กระเป๋าเงินในลักษณะนี้จะถูกเรียกว่า Paper Wallet คุณสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับกระเป๋าเงินกระดาษของคุณได้ด้วยการเข้ารหัสแบบ BIP38 ได้ ซึ่งหมายความจะมีการใช้ Passphrase เพื่อช่วยให้ BCH ของคุณมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อดี

  • สามารถสร้างกระเป๋าเงินอื่นๆ นอกเหนือจากกระเป๋าเงินกระดาษได้
  • สร้างได้ง่ายๆ

ข้อเสีย

  • กระดาษนั้นไม่ทนทาน
  • ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ข้อมูล Private Key ของคุณรั่วไหลออกไปอย่างไม่ตั้งใจ

8. WH Cypher (กระเป๋าเงินบนเว็บ)

Whales Heaven Cypher เป็นกระเป๋าเงินบนเว็บที่ให้ความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยด้วยการตั้งค่า Multi-Signature ในระดับสูง ซึ่งหมายความว่ากลุ่มของผู้ใช้งานสามารถสร้างกระเป๋าเงิน Cypher ร่วมกันได้ พวกเขาจะสามารถตั้งค่า Multi-Sig ได้ไม่จำกัดจำนวนเพื่อควบคุมการใช้จ่ายของสินทรัพย์ในกระเป๋าเงินนั้นๆ ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีหลักของกระเป๋าเงินนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมได้ถึง 75% ในขณะที่เขียนบทความนี้ พวกเขาให้บริการเฉพาะผ่านการเป็นส่วนขยายเว็บเบราเซอร์ของ Chrome เท่านั้น กระเป๋าเงิน Cypher นั้นสามารถจัดเก็บ, ส่ง, และรับ Crypto ได้

ข้อดี

  • รองรับการตั้งค่า Multi-Sig
  • ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้
  • เหมาะสำหรับทีมงานของบริษัทหรือกลุ่มผู้ใช้งาน

ข้อเสีย

  • รองรับเพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้น
  • สามารถใช้มันได้จากการเป็นส่วนขยายของเว็บเบราเซอร์ Chrome เท่านั้น

9. Coinomi (กระเป๋าเงินแบบแอปเดสก์ท็อป/แอปมือถือ)

Coinomi เป็นกระเป๋าเงิน BCH ที่รองรับสกุลเงินดิจิทัลและโทเค็นมากมาย นอกเหนือไปจากการใช้มันจัดเก็บสินทรัพย์แล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถแลกเปลี่ยน, โต้ตอบกับโปรโตคอล DeFi, จัดเก็บ NFTs, ซื้อ Crypto และส่ง/รับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ Coinomi ใช้งานได้กับ macOS, Windows, Linux, Android, และ iOS

ข้อดี

  • มี Live Chat Support
  • รองรับ Multi-Coin
  • ทำงานกับ DeFi และ NFT ได้
  • SegWit รองรับ BTC, LTC และเหรียญอื่นๆ ได้ด้วยความสามารถนี้

ข้อเสีย

  • พบบั๊กในแอปค่อนข้างบ่อย

ข้อมูลต่างๆ ของกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash โดยสรุป

1. Ledger Nano S Plus

  • ใช้งานได้บน: Windows/macOS/Android/Linux
  • ราคา: 79 ดอลลาร์
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออฟไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH + สินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 5,000 รายการ
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/แลก/ติดตาม/ซื้อ
  • การสนับสนุนลูกค้า: Live Chat/บทความที่เป็นประโยชน์

2. Trezor Model One

  • ใช้งานได้บน: Windows/macOS/Linux/Web
  • ราคา: 67 ดอลลาร์
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออฟไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH และเหรียญอีกกว่า 1,280 เหรียญ
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/แลก/ซื้อ/Taproot
  • การสนับสนุนลูกค้า: Live Chat/บทความที่เป็นประโยชน์

3. Coinbase Wallet

  • ใช้งานได้บน: Android/iOS/Chrome Extension
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออนไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: หลายแสนเหรียญ รวมถึง BCH
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/แลก/ซื้อ/บริดจ์
  • การสนับสนุนลูกค้า: Live Chat/FAQ/ทางโทรศัพท์

4. Guarda

  • ใช้งานได้บน: Windows/macOS/Linux/Ubuntu/Debian/Android/iOs
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออนไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: สินทรัพย์กว่า 4 แสนรายการ รวมถึง BCH
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/แลก/ซื้อ/Stake
  • การสนับสนุนลูกค้า: Live Chat/บทความที่เป็นประโยชน์/อีเมล์

5. Bitcoin.com

  • ใช้งานได้บน: iOS/Android
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออนไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH + ตัวอื่นๆ อีก 5 ตัว รวมถึงโทเค็น ERC-20 ยอดนิยม
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ซื้อ/ขาย/แลก/ติดตาม/ส่ง/รับ
  • การสนับสนุนลูกค้า: Live Chat/บทความที่เป็นประโยชน์

6. Electron Cash

  • ใช้งานได้บน: Windows/macOS/Linux/Android/iOs
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออนไลน์ และ ออฟไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/Multi-sig
  • การสนับสนุนลูกค้า: โซเชี่ยลมีเดีย

7. Cash Address

  • ใช้งานได้บน:
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออฟไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ
  • การสนับสนุนลูกค้า:

8. WH Cypher

  • ใช้งานได้บน: Chrome Extension
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออนไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH + ตัวอื่นๆ อีก 9 ตัว รวมถึงโทเค็น ERC-20 และ BNB Smart Chain
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/Multi-sig
  • การสนับสนุนลูกค้า: FAQ/แบบฟอร์มการติดต่อ

9. Coinomi

  • ใช้งานได้บน: Windows/macOS/Android/iOS/Linux
  • ราคา: ฟรี
  • ประเภทการจัดเก็บ: ออนไลน์
  • เหรียญที่รองรับ: BCH และสินทรัพย์อื่นๆ อีก 50 รายการ
  • ฟังค์ชั่น: จัดเก็บ/ส่ง/รับ/DeFi/NFTs
  • การสนับสนุนลูกค้า: Live Chat/บทความที่เป็นประโยชน์

โปรดเลือกกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash ของคุณด้วยความระมัดระวัง

ในตลาด Crypto นั้นมีกระเป๋าเงิน BCH แบบ Non-Custodial ให้เลือกใช้งานอยู่มากมาย ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณ กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash ที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับมุมมองส่วนบุคคลของคุณ เช่น คุณต้องการที่จัดเก็บทรัพย์สินในแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือมีความสนใจในการใช้งาน DeFi และ NFTs หรือไม่

ไม่ว่าคุณจะชอบแบบไหน สิ่งนึงที่เหมือนกันสำหรับทุกคนคือต้องระมัดระวังในการดาวน์โหลดหรือลงทุนในกระเป๋าเงินใบใหม่ๆ พึงรำลึกไว้เสมอว่า สุดท้ายแล้ว ก็มีเพียงคุณผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นผู้รับผิดชอบสินทรัพย์ของคุณ ดังนั้น คุณควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเก็บรักษา Private Key ไว้ให้อยู่อย่างปลอดภัย

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

  • DeFi (Decentralized Finance): ระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่ให้ทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ต้องมีตัวกลางอย่างสถาบันการเงินมารองรับ แต่จะเป็นการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น Smart Contract เป็นต้น
  • NFT (Non-Fungible Token): คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่แต่ละโทเค็นหรือแต่ละเหรียญมีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถแทนที่กันได้ NFT จัดเป็นสินทรัพย์ Cryptocurrency ชนิดหนึ่ง

คำถามที่พบบ่อย

กระเป๋าเงิน Bitcoin Cash คืออะไร?

กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับ Bitcoin Cash คือตัวไหน?

ฉันจะสร้างกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash ได้อย่างไร?

ฉันจะถอนเงินจากกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash ได้อย่างไร?

ฉันจะเก็บ Bitcoin Cash ได้ที่ไหน?

ความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงิน Bitcoin และกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash คืออะไร?

Bitcoin Cash นั้นเหมือนกับ Bitcoin หรือไม่?

Coinbase เป็นกระเป๋าเงิน Bitcoin Cash หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน