หากให้เลือกหนึ่งในตลาดสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหล่านักเทรดก็คงจะเลือก Forex อย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเทรดหน้าใหม่ คำถามหนึ่งที่มักจะผุดขึ้นมาในหัวเราก็คือ เทรด Forex โบรกไหนดี? วันนี้ เราจึงอยากจะมาแนะนำ 10 อันดับ “โบรเกอร์ Forex” ที่ดีที่สุด ในปี 2023 พร้อมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้อ่านทุกๆ ท่านพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมที่สุดให้กับตนเองได้
Forex คืออะไร?
Forex (ฟอเร็กซ์) ย่อมาจากคำว่า Foreign Exchange Market เป็นตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์
Forex คือ ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่เหล่าผู้เข้าร่วมตลาด (ไม่ว่าจะเป็น สถาบันการเงิน ธนาคาร ธุรกิจต่างๆ หรือแม้แต่นักลงทุนรายย่อย) เข้ามาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศต่างๆ เพื่อทำกำไรจากความต่างของค่าเงินที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย การเมือง เศรษฐกิจ หรือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นต้น
ด้วยเหตุผลที่ว่า Forex เป็นตลาดการเงินที่สร้างผลกำไรให้กับเหล่านักลงทุนได้เป็นอย่างมาก นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกของการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
การเทรด Forex คืออะไร?
ถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่ายๆ เลย การเทรด Forex ก็คือ การซื้อขายสกุลเงินของประเทศต่างๆ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ), USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยน), GBP/USD (ปอนด์/ดอลลาร์สหรัฐ) ฯลฯ เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เกิดขึ้นระหว่างมูลค่าของสกุลเงินดังกล่าว
ตัวอย่างเช่น ในคู่สกุลเงิน EUR/USD ก็คือการซื้อสกุลเงิน EUR เพื่อขายเป็นสกุลเงิน USD โดยใช้ตลาด Forex เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินนั้นจะผันผวนอยู่ตลอดเวลาตามอุปสงค์และอุปทาน ข้อดีหลักๆ ของ การเทรด Forex ก็คือ ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง (เนื่องจากเป็นตลาดการเงินที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก) และเข้าถึงได้ง่าย (สมัครบัญชีเทรดได้ง่าย มีแอปให้ใช้งานทั้งบน PC และ มือถือ)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการที่ตลาด Forex เข้าถึงได้ง่ายมาก มันจึงเป็นเรื่องค่อนข้างน่ากังวลในเรื่องการเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ Forex เพราะสำหรับมือใหม่แล้ว การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์โดยขาดข้อมูลประกอบการพิจารณา อาจจะทำให้ตกเป็นเหยื่อของโบรกปลอมหรือโบรกเถื่อนที่ขาดความปลอดภัยในสินทรัพย์ได้
เกณฑ์ในการเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ Forex
สำหรับเกณฑ์ต่างๆ สำหรับการเลือกใช้บริการ “โบรกเกอร์ Forex” นั้นจะประกอบไปด้วย:
- มีหน่วยงานกำกับดูแล: นี่คือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักเทรดจะต้องพิจารณาก่อนที่จะเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ใดๆ โบรกเกอรที่ดีและน่าเชื่อถือจะต้องมีใบอนุญาตที่ได้รับมาจากหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ระดับสากล เช่น ASIC (Australian Securities and Investments Commission), CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission), FCA (Financial Conduct Authority) เป็นต้น
- สะดวกสบายในการฝากและถอนเงิน: ความสามารถในการฝากและถอนเงินได้อย่างง่ายดายเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์สำหรับเทรด Forex ให้เลือกโบรกเกอร์ที่คุณสามารถฝากและถอนเงินได้แบบที่คุณต้องการ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร, การใช้บัตรเครดิต, หรือ การใช้บริการการชำระเงินออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ การพิจารณาในเรื่องค่าธรรมเนียมในการฝาก/ถอนเงิน, จำนวนเงินฝาก/ถอนขั้นต่ำ, ความรวดเร็วในการดำเนินการคำสั่งฝาก/ถอนเงิน ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน
- มีการแจ้งรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจน: ที่หน้าเว็บไซต์หลักของโบรเกอร์ควรจะมีการแจ้งข้อมูลต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ประเภทของบัญชี, แพลตฟอร์มที่สามารถใช้เทรดได้, ค่าสเปรด, ขนาดสัญญา, เลเวอเรจสูงสุดที่สามารถใช้ได้, ล็อตเทรดขั้นต่ำ, ค่าธรรมเนียมในการเทรด, ระดับ Margin Call / Stop Out, จำนวนคำสั่งซื้อขายสูงสุด, ค่าสวอป และอื่นๆ อีกมากมาย ข้อมูลเหล่านี้ควรมีการชี้แจงอย่างชัดเจน เพื่อให้นักเทรดสามารถตัดสินใจเลือกใช้งานบัญชีแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม
- การสนับสนุนลูกค้าที่ครอบคลุม: เมื่อเกิดปัญหาใดๆ ก็ตาม การมีทีมงานซัพพอร์ตที่จะช่วยตอบปัญหา หรือ ข้อสงสัยต่างๆ ก็ช่วยให้เราอุ่นใจได้ไม่มากก็น้อย ตรวจสอบให้ดีว่า โบรกเกอร์ที่คุณต้องการใช้บริการมีช่องทางการสนับสนุนลูกค้าที่หลากหลายหรือไม่ (เช่น Live Chat, Ticket, Help Center เป็นต้น), การตอบปัญหาของทีมงานมีความรวดเร็ว หรือ ให้คำแนะนำได้อย่างเหมาะสมหรือไม่, มีทีมงานให้บริการในช่วงเวลาใดบ้าง, ให้การให้บริการลูกค้าในภาษาที่คุณเลือกใช้งานหรือไม่ (เช่น ภาษาไทย) เป็นต้น
- บริการหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ: ลองตรวจสอบบริการต่างๆ ที่มีให้กับผู้ใช้งานได้เลือกใช้งาน เช่น ปฏิทินทางเศรษฐกิจ, Expert Advisors (EA), VPS Hosting, Social Trading, แหล่งข้อมูลทางการศึกษา, เครื่องมือการวิเคราะห์ต่างๆ ฯลฯ หรือ โปรโมชั่น/สิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การแข่งขันชิงรางวัล, โปรแนะนำเพื่อน หรือ โบนัสต่างๆ ที่จะช่วยขยายผลประโยชน์ที่เราได้รับจากโบรกเกอร์ให้มากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่คุณสามารถนำมาพิจารณาเพิ่มเติมได้ เช่น ความยาก/ง่ายในการใช้งานแพลตฟอร์ม, ตัวเลือกของตราสารเงินที่รองรับ (ในกรณีที่คุณอาจจะอยากลองลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆ ด้วย), หรือ ระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ตามที่คุณต้องการ
10 อันดับ “โบรกเกอร์ Forex” ที่ดีที่สุดในปี 2023
Exness
Exness คือ หนึ่งในโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำระดับโลกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2008 และมีผู้ใช้บริการจำนวนหลายแสนคน เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักเทรดในโซนเอเชีย คุณสมบัติเด่นของ Exness ก็คือ ความสะดวกในการฝาก/ถอนเงินได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถฝาก/ถอนได้หลายช่องทางอีกด้วย โบรกเกอร์ Exness มีปริมาณการซื้อขายรวมสูงถึง 2.105 ล้านล้านดอลลาร์ (ข้อมูลจากเดือนเมษายน 2022) แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องบนแพลตฟอร์มที่สูงมาก
- ฝากถอนเงินได้อย่างรวดเร็ว
- มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม (4.4/5 คะแนนจาก TrustPilot)
- มีบริการ Social Trading ให้เลือกใช้งาน
- ไม่ค่อยมีโปรโมชั่น
XM เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดชาวไทยเป็นอย่างมาก บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2009 และมีชื่อเสียงในเรื่องมาตรฐานที่สูง จดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำหลายแห่ง และมีโปรโมชั่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โบนัสการซื้อขาย โบนัสเงินฝาก รวมถึง การแข่งขันเทรดชิงเงินรางวัลต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย
- มีโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย รวมถึง โบนัสเทรดที่สามารถใช้เทรดได้จริง
- มีตราสารเงินให้เลือกเทรดได้มากกว่า 1000 รายการ (รวมถึง สกุลเงินคริปโต ด้วย)
- มีบริการ Copy Trading ให้เลือกใช้งาน
- มีค่าสเปรดที่ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ
หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีประเภทบัญชีให้บริการที่หลากหลาย ไม่เก็บค่าคอมมิชชั่น และมีเลเวอเรจที่สูง FBS อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ FBS ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2009 เป็นโบรกเกอร์ที่เป็นมิตรกับนักเทรดหน้าใหม่ เปิดให้บริการกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และมีลูกค้ามากกว่า 17 ล้านราย นอกจากนี้ แฟนบอลหลายๆ คนอาจจะคุ้นชื่อของ FBS เป็นอย่างดี เนื่องจากพวกเขาคือพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้นั่นเอง
- เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:3000 เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการผลกำไรในระดับสูง (แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน)
- มีการให้บริการลูกค้าในหลายภาษา
- มีความรวดเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย
- ระยะเวลาในการถอนเงินค่อนข้างนาน (48-72 ชั่วโมง และ สูงสุดถึง 7 วันทำการ)
FXTM (Forextime) เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการเทรด CFD (Contracts for Difference) คุณสามารถซื้อขายตราสารเงินได้มากกว่า 250 รายการจากแอป FXTM Trader ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินดิจิทัล ETF ออปชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย
- มีค่าสเปรดที่ค่อนข้างต่ำ
- เปิดบัญชีได้ง่ายและรวดเร็ว
- มีระบบ Copy Trade ให้บริการ
- ขั้นตอนการถอนเงินยุ่งยาก (ต้องส่งหลักฐานการฝากเงินและกรอกข้อมูลอื่นๆ มากมาย)
HF Markets
HF Markets (หรือที่มีชื่อเดิมว่า Hot Forex) ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่โดดเด่นเรื่องเครื่องมือช่วยในการเทรด รวมไปถึง ผลิตภันฑ์และบริการที่หลากหลาย อีกทั้ง ยังเต็มไปด้วยแหล่งข้อมูลทางการศึกษาต่างๆ มากมาย เช่น หลักสูตรการเทรดออนไลน์ เว็บมินาร์ พ็อดแคสต์ และอื่นๆ อีกมากมาย
- มีตราสารเงินให้เลือกเทรดค่อนข้างหลากหลาย
- ไม่มีค่าสวอป
- มีการทำประกันเพื่อคุ้มครองลูกค้ากับทางบริษัท Renaissance Insurance Reinvented
- ค่าสเปรดโดยเฉลี่ยสูงมาก (1.2 – 1.4 pip)
FxPro
FxPro ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เก่าแก่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว FxPro เปิดให้บริการแก่นักเทรดในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ช่วยให้นักเทรดสามารถเทรดตราสารเงินมากมายกว่า 250 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ โลหะมีค่า รวมไปถึง สกุลเงินคริปโต อีกด้วย
- มีความน่าเชื่อถือสูง (จากการเปิดให้บริการมานานตั้งแต่ปี 2006)
- มีระบบ Copy Trading ให้เลือกใช้งาน
- มีเครื่องมือในการเทรดค่อนข้างหลากหลาย
- จำนวนเงินฝากขั้นต่ำค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ
Pepperstone
Pepperstone คือ โบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 โดยมีจุดเด่นในเรื่องความเสถียรในการเทรดด้วยการใช้ระบบเทรดแบบ Straight-Through Processing (STP) / No-Dealing Desk (NDD) ซึ่งเป็นการส่งธุรกรรมที่ได้รับจากลูกค้าไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง ทำให้สามารถเทรดได้อย่างไหลลื่นและปราศจากการแทรกแซงใดๆ
- มีความรวดเร็วในการเปิด/ปิดคำสั่งซื้อขาย และยังมีเซิฟเวอร์ที่ค่อนข้างเสถียร
- กราฟมีความแม่นยำสูง
- มีการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม (4.7/5 คะแนนจาก TrustPilot)
- ระยะเวลาการถอนเงินที่ค่อนข้างช้า (1-3 วันทำการ)
IC Markets
IC Markets คือหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเปิดให้บริการมายาวนานตั้งแต่ปี 2007 ให้บริการซื้อขายตราสารเงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Forex หุ้น พันธบัตร ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และ Crypto CFD ฯลฯ มีความโดดเด่นในเรื่องเซิร์ฟที่มีความเสถียรสูงและสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีความมั่นคงและความปลอดภัยสูง จากการแยกเงินทุนของลูกค้าไว้ในบัญชีธนาคารที่ National Australia Bank และ Westpac Banking Corporation
- ค่าสเปรดต่ำมาก (เริ่มที่ 0.01 pip)
- เป็นโบรเกอร์แบบ True ECN/STP (ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าตลาดโดยตรง) ทำให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
- มีชื่อเสียงในระดับโลก
- จำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่สูงมาก อาจจะไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
FP Markets
FP Markets หรือ First Prudential Markets เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศ Saint Vincent and the Grenadines เป็นโบรกเกอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องค่าสเปรดที่ต่ำ (เริ่มที่ 0.0 pip) และผลิตภัณฑ์สำหรับการเทรด CFD กว่า 10,000 รายการ
- ค่าสเปรดต่ำมาก (เริ่มที่ 0.00 pip)
- มี VPS/EA (Expert Advisor คือ ระบบเทรดอัตโนมัติประเภทหนึ่ง) ให้บริการ
- แยกเงินทุนของลูกค้าไว้ที่บัญชีธนาคาร National Australia Bank ซึ่งเป็นการรับประกันถึงความปลอดภัยของเงินทุน
- มีเลเวอเรจที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ
Eightcap
อีกหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำสัญชาติออสเตรเลีย โบรกเกอร์ Eightcap ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยมีจุดเด่นที่คล้ายคลึงกับโบรเกอร์สัญชาติออสเตรเลียรายอื่นๆ เช่น การแยกเงินทุนของลูกค้าไว้ต่างหาก การมีค่าสเปรดที่ต่ำ (เริ่มที่ 0.0 pip) และมีความรวดเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย
- ค่าสเปรดต่ำมาก (เริ่มที่ 0.00 pip)
- มีโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 50%
- มี VPS/EA ให้บริการ
- ไม่มีแอปมือถือเป็นของตนเอง (ยังสามารถเทรดผ่าน MT4 และ MT5 ได้)
สรุปส่งท้าย
หลังจากที่อ่านมาจนจบแล้ว หวังว่าข้อมูลต่างๆ ในบทความนี้จะช่วยตอบคำถามให้เพื่อนๆ ได้ว่าจะ เทรด Forex โบรกไหนดี อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทำการตัดสินใจเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ Forex รายใดก็ตาม ขอให้ทุกคนทำการศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนจากเรื่องไม่คาดคิด อีกทั้ง เรายังขอแนะนำให้ลองเปิดบัญชีทดลองเพื่อลองใช้งาน หรือ ฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดต่างๆ ก่อนที่จะลงสนามจริง!
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์