กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) 7 ตัวที่ดีที่สุดในปี 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความนิยมของสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ นั้นได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้วงการ Crypto มีความต้องการกระเป๋าเงิน Crypto ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมก็คือ Ergo (ERG) ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะไปค้นหา “กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) ชั้นนำ” ที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้ในปี 2023 โดยเราจะจัดอันดับกระเป๋าเงินเหล่านี้ตามฟีเจอร์ความปลอดภัย, ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน, และประสบการณ์การใช้งานโดยทั่วไปจากผู้ใช้งาน

กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) คืออะไร?

กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อใช้เก็บและจัดการสกุลเงินดิจิทัล ERG ซึ่งเป็นเหรียญดั้งเดิม (Native Coin) ของบล็อกเชน Ergo ซึ่งเป็น Altchain ที่ช่วยให้สามารถสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract), แอปพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจ (DApps), และโซลูชั่นที่มีพื้นฐานของบล็อกเชน ERG ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ของแพลตฟอร์ม

กระเป๋าเงิน ERG นั้นมีให้เลือกใช้งานมากมาย ซึ่งรวมไปถึง กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, และบนเว็บ กระเป๋าเงิน ERG ที่ได้รับความนิยมบางตัวนั้นได้แก่ Ergo Wallet, Ledger Nano X, Trezor Model T, MyEtherWallet, Guarda Wallet, และ Ledger Live โดยกระเป๋าเงินแต่ละตัวนั้นต่างก็มีฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์และข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้น มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาและเลือกใช้งานกระเป๋าเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการและความชอบส่วนบุคคลของคุณได้

กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) ชั้นนำ 7 ตัว

ในการเลือกใช้กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) โปรดทำให้มั่นใจว่าคุณได้เลือกใช้กระเป๋าเงินที่มีชื่อเสียงและมีประวัติที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น คุณควรจะตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้งานจริงก่อนที่จะทำการตัดสินในเลือกใช้งาน

และนี่คือ “กระเป๋าเงิน Ergo (ERG) ชั้นนำ 7 ตัว” ที่เราขอนำเสนอให้กับคุณ

1. Trezor (กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์)

Trezor เป็นผู้ให้บริการกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ช่วยมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน มันยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ (รวมถึง ERG) ได้อย่างปลอดภัย การติดตั้งแอป Ergo บนอุปกรณ์ Trezor นั้นจะช่วยให้คุณสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน ERG ได้อย่างง่ายดาย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บเหรียญ ERG ของคุณ

ด้วยการจัดเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์และคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง Trezor ได้กลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินแบบ Cold Storage (อุปกรณ์ที่ใช้จัดเก็บสินทรัพย์แบบออฟไลน์, ไม่มีการเชื่อมต่อใดๆ ต่ออินเตอร์เน็ต) ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในการใช้ปกป้องสกุลเงินดิจิทัลของคุณ

ฟีเจอร์ของ Trezor

• Trezor เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์แบบพกพาที่คุณสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่
• มีสาย USB Type-C ที่สามารถเชื่อมต่อกับ PC และสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์มากมาย
• รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,400 รายการ
• Trezor อนุญาตให้สามารถเข้าถึงการใช้งานกระดานเทรดและ DApps ของ 3rd-Party
• มี UI ที่เรียบง่าย ทำให้มันใช้งานได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็ตาม

ข้อดี

• Trezor มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยระดับสูงและการป้องกันที่สร้างขึ้นในตัวกระเป๋าเงินเอง
• การรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลหลายรายการทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้หลากหลาย
• ซอฟต์แวร์เป็นแบบโอเพ่นซอร์ส ทำให้มันมีความโปร่งใสและปลอดภัย
• มีหน้าจอสัมผัสเพื่อช่วยเสริมประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน

ข้อเสีย

• หน้าจอมีขนาดเล็ก ทำให้อ่านได้ค่อนข้างลำบาก
• Trezor มีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับกระเป๋าฮาร์ดแวร์อื่นๆ ในตลาด

2. SafePal (กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์)

SafePal S1 เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่มีวิธีการจัดเก็บและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูง ตัวอย่างเช่น การเก็บ Private Key ของคุณแบบออฟไลน์ ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กหรือขโมย ยิ่งไปกว่านั้น SafePal S1 ยังรองรับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณจัดการทรัพย์สินของคุณได้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง มันยังช่วยให้คุณสามารถดูประวัติการทำธุรกรรมของคุณหรือจัดการการทำธุรกรรมใหม่ได้อีกด้วย

ฟีเจอร์ของ SafePal

• รองรับหลายสกุลเงิน รวมถึง Crypto ยอดนิยม เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin
• มี UI ที่ใช้งานได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ต่อวงการ Crypto ก็ตาม
• ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ได้รับการเสริมการป้องกันเพิ่มเติมอีกชั้นหนึ่ง
• ใช้งานได้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ช่วยให้คุณสามารถจัดการทรัพย์สินของคุณได้ทุกที่
• ตัวเลือกการสำรองข้อมูลและกู้คืน (Backup and Recovery) ช่วยให้คุณแน่ใจว่า Private Key ของคุณยังคงปลอดภัย
• รองรับหลายภาษา ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
• สามารถจัดเก็บโทเค็นได้โดยไม่จำกัดจำนวน
• การสนับสนุนลูกค้าที่หลากหลายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น อีเมลและไลฟ์แชท

ข้อดี

• มี UI ที่เรียบง่ายและใช้งานได้ง่าย
• มีระดับความปลอดภัยในการยืนยันตัวตนหลายชั้น ช่วยเพิ่มการป้องกันในระดับสูงสุดสำหรับทรัพย์สินของคุณ
• สามารถติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าผ่านไลฟ์แชทเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนได้

ข้อเสีย

• ปัจจุบันยังไม่มีกระเป๋าเงินในเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปให้เลือกใช้งาน
• รวมถึงยังไม่มีเวอร์ชั่นเว็บให้ใช้จัดการทรัพย์สินอีกด้วย

3. Ledger (กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์)

Ledger นั้นเป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ช่วยให้สามารถจัดเก็บและจัดการสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ (รวมถึง ERG) ได้อย่างปลอดภัย Ledger เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการรับรองแล้วว่ามีความปลอดภัยในระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoins, Ethereum และ XRP

ฟีเจอร์ของ Ledger

• มาตรการการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมไปถึง การยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (2FA) และการเข้ารหัสเพื่อรับรองความปลอดภัยของ ERG ของคุณ
• เป็นโอเพ่นซอร์ส: หมายความว่าโค้ดนั้นจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อให้สามารถทำการตรวจสอบและยืนยันได้ ทำให้มันมีความโปร่งใสและปลอดภัยเป็นอย่างมาก
• เป็นมิตรและสะดวกกับผู้ใช้งาน: เป็นกระเป๋าเงินที่มี UI ที่เรียบง่าย ซึ่งทำให้ใช้งานและเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
• มีดีไซน์ที่กะทัดรัดและพกพาสะดวก: เป็นกระเป๋าเงินที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาช่วยให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก
• ผสานรวมเข้ากับกระดานเทรด Crypto ยอดนิยมและรองรับการใช้งานหลายบัญชี: เป็นกระเป๋าเงินที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อและจัดการบัญชีกระดานเทรดหลายบัญชีพร้อมกันได้ ทำให้มันมึความยืดหยุ่นในการจัดการและควยคุม ERG ของคุณได้มากยิ่งขึ้น

ข้อดี

• มีพื้นฐานเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์: ด้วยการใช้ USB ในการจัดเก็บ Private Key ทำให้มันมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
• ใช้งานได้กับอุปกรณ์มากมาย ซึ่งรวมไปถึง PC และสมาร์ทโฟน
• ดำเนินการได้หลากหลายอย่างพร้อมกันและทำงานบนแอปของ 3rd-Party ได้ ทำให้มันมีความหลากหลายในการใช้งาน
• มี UI ที่ใช้งานได้ง่าย

ข้อเสีย

• มีหน้าจอที่เล็ก ทำให้ดูข้อมูลต่างๆ ได้ไม่ค่อยสะดวกนัก
• ไม่ใช่หน้าจอระบบสัมผัส
• ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สแบบเต็มรูปแบบ ดังนั้น จึงอาจจะมีความโปร่งใสและความปลอดภัยไม่เทียบเท่ากระเป๋าเงินที่เป็นโอเพ่นซอร์สแบบเต็มรูปแบบ

4. Guarda Wallet (กระเป๋าเงินออนไลน์)

Guarda เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ที่มีตัวเลือกมากมายในการจัดเก็บ, จัดการ, และแลกเปลี่ยน ERG ของคุณ มันมีให้บริการทั้งในรูปแบบเว็บ, เดสก์ท็อป, และมือถือ อีกทั้งยังมี UI ที่ใช้งานได้ง่าย ด้วย Guarda Wallet คุณสามารถเชื่อมต่อกับกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEXs) และจัดการบัญชีและกระเป๋าเงินที่หลากหลายได้ด้วยการใช้แดชบอร์ดเพียงตัวเดียวเท่านั้น

ฟีเจอร์ของ Guarda

• ด้วยเลย์เอ้าต์ที่เรียบง่ายและการให้คำแนะนำที่ชัดเจน มันช่วยให้สามารถใช้งานกระเป๋าเงินได้อย่างง่ายดาย
• Guarda รับประกันความปลอดภัยของ Crypto ของคุณผ่านการผสมผสานระหว่างการจัดเก็บข้อมูลแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการจัดเก็บ Private Key บนอุปกรณ์ของคุณในรูปแบบที่ปลอดภัยและเข้ารหัส อีกทั้งยังมีการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) เพื่อเป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง
• รองรับสินทรัพย์ Crypto มากกว่า 400,000 รายการ
• Guarda เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถควบคุม Private Key ของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ถึงการรักษาความลับ (ด้วยตัวคุณเอง)
• ใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม: เว็บ, เดสก์ท็อป, และมือถือ และในระบบปฏิบัติการต่างๆ ได้แก่ Windows, Mac, Linux, iOS, และ Android

ข้อดี

• รองรับสกุลเงิน Crypto ที่หลากหลาย
• ใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม
• มี UI ที่ใช้งานได้ง่าย
• มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

ข้อเสีย

• มีการรองรับ NFT และสกุลเงิน Fiat ที่จำกัด
• เป็นกระเป๋าเงินที่จำกัดไม่ให้ผู้ใช้งานเรียกใช้ Full Nodes ได้

5. Satergo (กระเป๋าเงินเดสก์ท็อป)

Satergo เป็นกระเป๋าเงินเดสก์ท็อปที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่ง รับ และจัดเก็บโทเค็น ERC20 บนบล็อกเชน Ethereum ได้ Satergo เป็นกระเป๋าเงินเดสก์ท็อปอย่างเป็นทางการสำหรับ Ergo และเป็นเพียงกระเป๋าเงินตัวเดียวที่รองรับการรัน Full Node Satergo Wallet นั้นมี UI ที่ใช้งานได้ง่ายและรองรับสกุลเงินที่หลากหลาย พร้อมกับอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการ Private Key ของพวกเขาได้

ฟีเจอร์ของ Satergo

• Multi-Signature (ต้องใช้อย่างน้อย 2 คีย์ขึ้นไปในการทำธุรกรรมใดๆ)
• ใช้งานได้ง่าย
• เป็นโอเพ่นซอร์สทำให้รับประกันความโปร่งใส
• มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

ข้อดี

• ใช้งานได้กับแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปส่วนใหญ่
• ฟีเจอร์มากมายที่สามารถเชื่อถือได้
• เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial
• ฟังค์ชั่นการทำงานแบบ Embedded Node

ข้อเสีย

• ไม่มีกระเป๋าเงินในเวอร์ชั่นแอปมือถือ

6. MyEtherWallet (กระเป๋าเงินออนไลน์)

MyEtherWallet (MEW) เป็นอินเทอร์เฟซฝั่งไคลเอนต์แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับสร้างและจัดการกระเป๋าเงิน Ethereum มันช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างกระเป๋าเงินใหม่หรือกู้คืนกระเป๋าเงินเดิมที่มีอยู่แล้วได้

ฟีเจอร์ของ MyEtherWallet

• มีตัวเลือกในการผสานรวมกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์
• เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและใช้งานได้ง่าย
• ใช้งานได้กับหลากหลายสกุลเงิน
• เป็นโซลูชั่นกระเป๋าเงินที่ยืดหยุ่น
• เป็นโอเพ่นซอร์สทำให้รับประกันความโปร่งใส

ข้อดี

• ช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุม Private Key ได้อย่างเต็มที่
• ปลอดภัยและควบคุมด้วยตนเอง
• เข้าถึง DApps และ NFT ได้

ข้อเสีย

• ไม่มีการสนับสนุนลูกค้าแบบ Live
• มีการแนะนำการใช้งานที่ค่อนข้างซับซ้อนสำหรับมือใหม่

7. Nautilus (ส่วนขยายเบราเซอร์)

กระเป๋าเงิน Nautilus นั้นมีความเรียบง่ายและใช้งานได้ง่าย และมอบความโปร่งใสกับผู้ใช้งานผ่านการเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส กระเป๋าเงิน Nautilus นั้นเน้นในเรื่องความเป็นส่วนตัวและช่วยให้ผู้ใช้งานถือทั้งสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินเฟียตได้หลากหลายสกุลบนอุปกรณ์ผ่านการเป็นส่วนขยายเบราเซอร์ นอกจากนี้ พกวเขายังมี PaaS (Privacy as a Service) โดยอนุญาตผู้ใช้งานเป็นเจ้าของข้อมูลของตน

ฟีเจอร์ของ Nautilus

• เป็นกระเป๋าเงินส่วนขยายเบราเซอร์บนเว็บ
• ผสานรวมกับ Ergo DApps ได้
• มีโหมดความเป็นส่วนตัว
• ผสานรวมกับ Ledger ได้
• Stealth Addresses (โหมดซ่อนที่อยู่)
• แสดงผล NFT ได้

ข้อดี

• รองรับสกุลเงินที่หลากหลาย
• มีการแสดงผลแบบ All-in-One ที่ยอดเยี่ยม
• มี UI ที่ใช้งานและเข้าใจได้ง่าย

ข้อเสีย

• ไม่มีกระเป๋าเงินในเวอร์ชั่นแอปมือถือ

ข้อมูลต่างๆ ของกระเป๋าเงิน Ergo (ERG) โดยสรุป

เลือกใช้งานกระเป๋าเงิน Ergo แบบที่คุณต้องการ

สุดท้ายนี้ การเลือกใช้งานกระเป๋าเงิน ERG ที่เหมาะกับความต้องการของคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การเลือกใช้แพลตฟอร์มของกระเป๋าเงินก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เช่น เลือกใช้งานกระเป๋าเงินแอปมือถือหากคุณมักจะใช้งานอุปกรณ์แบบพกพาเป็นประจำ หรือหากคุณใช้เดสก์ท็อปเป็นประจำ ก็ลองเลือกใช้งานกระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์หรือเว็บแทน

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

• 2FA หรือ MFA: ย่อมาจากคำว่า Two-Factor Authentication หรือ Multi-Factor Authentication หรือก็คือการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัยหรือหลายปัจจัย ซึ่งเป็นระบบการรักษาความปลอดภัยโดยให้ผู้ใช้งานทำการยืนยันตนตามขั้นตอนที่กำหนดก่อนที่จะสามารถเข้าใช้งานบริการหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้
• Multi-Signature: คือระบบการรักษาความปลอดภัยให้กับกระเป๋าเงินด้วยการกำหนดให้มีการใช้คีย์อย่างน้อย 2 คีย์ขึ้นไปจึงจะสามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม